สงขลา-สะเดา กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ตรวจสอบโรงเรียนเอกชนดัง ใน อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ทุจริตและยักยอกเงินอุดหนุนนักเรียน พบความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.6 บก.ปปป.ได้นำหมายค้นศาลจังหวัดสงขลา ที่ 548/2566 เข้าทำการค้นที่โรงเรียนเอกชนดัง ย่านซอยปานอนุสรณ์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ผลการตรวจค้นพบเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด และจากการสอบปากคำครูและผู้ปกครองกว่า 10 ปาก พบว่ามีการกระทำความผิดตามที่ได้รับเรื่องร้องเรียนจากผู้ปกครอง เชื่อได้ว่ามีการปลอมแปลงเอกสาร เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการเบิกเงินอุดหนุนจากสำนักงานส่งเสริมการศึกษาเอกชนและเป็นเงินงบประมาณแผ่นดินของรัฐ ซึ่งจะได้มีการดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดตามกฎหมายต่อไป
9 สิงหาคม 2566 กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก., พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว ผบก.ปปป.รรท.ผบก.ทล., พ.ต.อ.ประสงค์ เฉลิมพันธ์รอง ผบก.ปปป. รรท.ผบก.ปปป., พ.ต.อ.ขวัญชาติ วงศ์ขจรไพบูลย์, พ.ต.อ.แมน เมนแย้ม รอง ผบก.ปปป., พ.ต.อ.พงศ์ปณต ชูแก้ว ผกก.6 บก.ป., พ.ต.อ.ชิษณุพงศ์ ไหวดี ผกก.6 บก.ปปป., พ.ต.อ.ธนวัฒน์ หิ้นยกฮิ่น ผกก.1 บก.ปปป.
เจ้าหน้าที่ตํารวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ได้รับหนังสือ ร้องเรียนจากบุคคลซึ่งแจ้งว่าเป็นผู้ปกครองของโรงเรียนเอกชนดัง ย่านซอยปานอนุสรณ์ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดย ร้องเรียนว่ามีผู้บริหารและเจ้าหน้าที่การเงินของโรงเรียนดังกล่าว ได้ร่วมกันทุจริตเงินอุดหนุนภาครัฐ ที่จ่าย ให้กับนักเรียนฯ เพื่อใช้เป็นเงินในการจัดซื้อเครื่องแบบ หนังสือ และอุปกรณ์การเรียน ทําให้ผู้ปกครองซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้มีรายได้น้อย ได้รับความเดือดร้อนเป็นจํานวนมาก จึงได้รับเรื่องร้องเรียนไว้ เป็นคดีสืบสวนเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น
ทั้งนี้กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบ พบว่า โรงเรียนเอกชนดังกล่าว ซึ่งอยู่ในการกํากับดูแลของคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชนจังหวัดสงขลา (สช.สงขลา) และมีเงินงบประมาณแผ่นดินจากภาครัฐ ได้จัดสรรให้กับ นักเรียนในสังกัด โดยมีสิทธิที่จะได้รับเงินอุดหนุนในแต่ละภาคการศึกษา ได้แก่ 1. เงินอุดหนุนรายบุคคล 2. เงินอุดหนุนค่าหนังสือเรียน เครื่องแบบ และอุปกรณ์การเรียน 3. เงินอุดหนุนค่าอาหารกลางวัน
พฤติการณ์ในการกระทําความผิดพบว่า ผู้บริหารโรงเรียนจะสั่งการให้ครูประจําชั้น จัดทําเอกสารการจ่ายเงินที่ได้รับอุดหนุนให้กับนักเรียน โดยมีการให้ผู้ปกครองลงลายมือชื่อในเอกสารการรับเงิน พร้อมแนบ สําเนาบัตรประจําตัวประชาชน,ให้นักเรียนลงลายมือชื่อรับเงิน และจัดทําใบเสร็จรับเงิน เพื่อเป็นหลักฐานการจ่ายเงินอุดหนุนที่ได้รับจากภาครัฐให้กับนักเรียน
โดยที่นักเรียนและผู้ปกครองไม่ได้รับเงินอุดหนุนจํานวน ดังกล่าวจริง ซึ่งโรงเรียนดังกล่าว มีนักเรียนตั้งแต่ชั้นอนุบาล 1 ถึง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จํานวน รวมประมาณ 1,800 คน และมีความเสียหายในแต่ละภาคการศึกษาประมาณ 2 ล้านบาท และมีการกระทํา ความผิดในลักษณะดังกล่าวต่อเนื่องมาเป็นเวลานาน คิดเป็นมูลค่าความเสียหายกว่า 10 ล้านบาท
พ.ต.อ.ประสงค์ เฉลิมพัน์ รองผบก.ปปป.รรท.ผบก.ปปป. เปิดเผยว่า ในส่วนของตำรวจสอบสวนกลางผก.ปปป.และกองปราบปรามได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชาพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก ท่านพล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้วผกก.ปปป. เนื่องจากทางผู้ใหญ่ได้รับการร้องเรียนจากผู้ปกครองและครูผู้หวังดีว่าทางโรงเรียนมีการทุจริตบริหารไม่โปร่งใส
เบื้องต้นจากการตรวจสอบโรงเรียนแห่งนี้เป็นเอกชน ได้รับเงินทุนจากภาครัฐมามีการบริหารเงินตรงนี้ไม่โปร่งใสมีการทุจริตปิดบังเกินไป บางส่วนเห็นชัดเจน อีกส่วนหนึ่งก็เป็นเรื่องของงบฯ ที่มาเกี่ยวกับอาหารกลางวันด้วย ซึ่งเป็นที่โจษจันกันในหมู่ผู้ปกครองว่า คุณภาพมันไม่ได้เมื่อเทียบกับเงินทุนที่ได้รับมา ในวันที่ลงมาดูเพื่อจะขอมาตรวจสอบเอกสาร ส่วนการกระทำความผิดถ้าหากว่าพบในอนาคตก็จะแจ้งข้อกล่าวหาผู้ที่จะต้องรับผิดชอบต่อไป เพราะถ้าเป็นความผิดที่ชัดเจนผู้บริหารโรงเรียนจะต้องรับผิดชอบ
ทางด้าน พ.ต.อ. ชิษณุพงศ์ ไหวดี ผกก.6 บก.ปปป. เปิดเผยว่า เดี๋ยวทางตนจะทำการเรียกทางผู้บริหารโรงเรียนมาพบ เพื่อจะสอบปากคำว่ามีการบริหารอย่างไรบ้าง ว่ายอดเงินที่มีความเสียหายเป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ซึ่งอาจจะมีมากกว่าที่ประเมินไว้ก็ได้ เนื่องจากทางผู้ปกครองได้ให้การยืนยันว่า ได้นำบุตรหลานเข้ามาเรียนที่โรงเรียนนี้ เป็นระยะเวลานานแล้วและไม่เคยได้รับในเงินทุนลักษณะดังกล่าวเลย ก็เชื่อว่าน่าจะมีความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงๆ และเป็นจำนวนมากและจะมีการตรวจสอบย้อนหลังไปให้ได้มากที่สุด เพื่อให้เห็นว่ามันมีความเสียหายจริงๆ เท่าไหร่ จากที่ได้รับข้อมูลผู้บริหารคนนี้รับตำแหน่งมาประมาณ 10 ปีแล้ว
