X

ตรัง “ทับเที่ยงจริงจริง” เปิดม่านเลนส์นิทรรศการภาพถ่าย ผู้คน-อาคารเก่า-วิถีวัฒนธรรม หลังกล้องช่างภาพอิสระ

ชาวตรังจูงลูกหลาน มองตรังผ่าน “ทับเที่ยงจริงจริง” เปิดม่านเลนส์นิทรรศการภาพถ่าย ผู้คน-อาคารเก่า-วิถีวัฒนธรรม หลังกล้องช่างภาพอิสระ บนโรงแรมเก่ารางวัลสมาคมสถาปนิกสยามฯ

ตรัง-อบอุ่น คึกคัก ระหว่างช่วงวันหยุดยาวต่อเนื่องวันแม่แห่งชาติ ภาพบรรยากาศชาวตรังจูงลูกหลาน มองเมืองเก่าทับเที่ยงตรัง ผ่าน “ทับเที่ยงจริงจริง” เปิดม่านเลนส์นิทรรศการภาพถ่าย ผู้คน-อาคารเก่า-วิถีวัฒนธรรม หลังกล้องช่างภาพอิสระ บนโรงแรมเก่าสุดคลาสสิครางวัลสมาคมสถาปนิกสยามฯ เปิดลิ้นชักความทรงจำกลางเมือง  

 

ระหว่างช่วงวันหยุดยาวต่อเนื่องวันแม่แห่งชาติ วันที่ 11-14 ส.ค.ที่ผ่านมา ที่โรงแรมจริงจริง ย่านการค้าเมืองเก่าทับเที่ยง ถ.พระราม 6 ต.ทับเที่ยง จ.ตรัง ประชาชนชาวตรังทุกเพศทุกวัย ต่างจูงมือบรรดาลูกหลาน พ่อแม่ เพื่อนฝูง ญาติพี่น้อง กันไปเยี่ยมชมนิทรรศการภาพถ่าย “ทับเที่ยงจริงจริง” จัดแสดงโดยนายปกรณ์กานต์ ทยานศิลป์ หรือ ต๊ะTrang today ช่างภาพอิสระชาวตรัง เจ้าของเพจ “TRANG ที่นี่จังหวัดตรัง” ช่างภาพผู้ท่องเที่ยวตะเวนถ่ายภาพเมืองตรังในมุมมองต่างๆ ทั้งธรรมชาติ ผู้คน วิถีชีวิต มากกว่า 10 ปี สำหรับชื่อนิทรรศการ “ทับเที่ยงจริงจริง” ใช้ชื่อพ้องกับชื่อสถานที่โรงแรมจริงจริงสถานที่จัดงาน ซึ่งเป็นอาคารเก่า ปัจจุบันปิดกิจการไปแล้ว แต่เจ้าของยังคงอนุรักษ์ซ่อมแซมไว้ในสภาพดี และยังได้รับรางวัลอันทรงคุณค่าจากการประกวด “โครงการสถาปัตยกรรมทรงคุณค่า ภาคใต้ ครั้งที่ 1 ประจำปี 2559 ประเภท “สร้างสรรค์” จากการประกาศรางวัลทั้งหมด 12 รางวัล(12 อาคาร)ในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ โดยกรรมาธิการสถาปนิกทักษิณ สมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยเป็นการจัดแสดงภาพถ่าย อาทิ ผู้คนทับเที่ยงในอิริยาบทต่างๆ สถาปัตยกรรมเก่า ตุ๊กๆ หัวกบเมืองตรัง อาหารการกิน วิถีชีวิต ฯลฯ ตลอดจนมีการนำภาพเมืองทับเที่ยงในอดีตที่หาชมได้ยากจากหอจดหมายเหตุแห่งชาติ เฉลิมพระเกียรติฯ ตรัง มาร่วมจัดแสดงด้วย บรรยากาศเป็นไปด้วยความอบอุ่นและคึกคัก

นายปกรณ์กานต์ เปิดเผยว่า แรงบันดาลใจในการจัดแสดงภาพถ่ายครั้งนี้ เนื่องจากตนเป็นช่างภาพ เป็นคนตรัง และถ่ายภาพเกี่ยวกับตรังมาโดยตลอดในแง่มุมต่างๆ และเมื่อมาพบกับสถานที่โรงแรมจริงจริง ซึ่งเป็นโรงแรมเก่าในย่านทับเที่ยง จึงมีความคิดอยากจัดงานแสดงภาพถ่ายเล็กๆ ขึ้นเพื่อให้คนตรังได้มาดูทั้งภาพ โดยเฉพาะอาคารเก่าหลังนี้ เพราะหลายๆ คนอาจจะเคยขับผ่านไปผ่านมาจนชินตา แต่อาจยังไม่เคยขึ้นมาชมตัวอาคารภายใน ซึ่งเป็นอาคารเก่าและสวยงามมาก และในทับเที่ยงก็มีตึกเก่า อาคารเก่าที่สวยงามมากมาย ซึ่งการถ่ายภาพเป็นสิ่งเดียวที่ตนถนัด เลยใช้สิ่งนี้พาคนตรังมาชมอาคารนี้ด้วยไปพร้อมกัน ทั้งอาคารและภาพถ่าย เป็นเหมือนความทรงจำ คนที่มาชมนิทรรศการ ได้จูงลูกจูงหลานมาชม บางคนก็ยิ้มให้ภาพถ่าย เพราะเขาจำได้ มีส่วนผูกพันกับเรื่องราวในภาพ เราเป็นช่างภาพก็ดีใจไปด้วย

 

“ขอบคุณทุกท่านที่มาชมงาน มันเกินความคาดหวังของผมมาก ผมรู้สึกดีใจ ที่เห็นภาพคนจูงลูกจูงหลาน ลูกจูงพ่อแม่ที่อายุมากขึ้นบันไดมาชมภาพ มาพูดคุยกัน สำหรับภาพถ่าย กว่า 20 ปีที่ผมถ่ายมา ทำเพจมา 12 ปี แม้เราจะไปที่เดิมซ้ำๆ แต่ก็ยังได้ภาพที่ไม่เหมือนเดิม มันเป็นความสวยงามของตรังที่ผมอยากให้ทุกคนได้เห็น ต้องขอบคุณทุกๆ คนที่ช่วยทำให้เกิดงานนี้ แม้งานไม่ได้ใหญ่โต แต่ทุกคนก็มีน้ำใจมาช่วยกัน พี่ๆ น้องๆ คนผ่านไปผ่านมาก็ช่วย สำหรับผมหลังจากนี้มีแผนว่าจะจัดงานแสดงภาพถ่ายอีก แต่จะกว้างขึ้น เพื่อเล่าเรื่องราวของเมืองตรังทั้งหมดในมุมมองของผม อยากฝากถึงๆใครก็ตามที่อยากทำงานศิลปะหรืองานสร้างสรรค์ต่อสาธารณะ ให้ลงมือทำ เล็กใหญ่ไม่สำคัญ ผมเชื่ออย่างนั้น”นายปกรณ์กานต์บอก

ด้านนายจิระพงษ์ วงศ์วิวัฒน์ ช่างภาพอาชีพ กลุ่ม สห+ภาพ และ วิทยากรบรรยายด้านการถ่ายภาพ กล่าวว่า ในฐานะผู้ชมงานรู้สึกดีใจที่มีงานแบบนี้เกิดขึ้นในจ.ตรัง ถือเป็นงานแสดงภาพถ่ายครั้งแรกในตรังที่มีการรวบรวมความเป็นทับเที่ยงไว้ ทั้งวิถีชีวิต ผู้คน วัฒนธรรมประเพณี สถาปัตยกรรม ได้เห็นคนมาชมงานชมภาพแล้วช่วยกันคิดว่า สถานที่ในภาพคือจุดไหนของตรัง ถือเป็นสีสันบรรยากาศงาน ขอชื่นชมศิลปินผู้จัดแสดง ตนได้ติดตามผลงานมานาน ได้เห็นฝีมือและความมุ่งมั่น เพราะเขาถ่ายภาพตรังตามที่ต่างๆมายาวนาน และถือเป็นการเลือกถ่ายภาพที่เหมือนการหยุดเฟรมบันทึกภาพประวัติศาสตร์แห่งช่วงเวลาเอาไว้ หลายคนในภาพ หรือหลายสถานที่ ปัจจุบันอาจไม่อยู่แล้ว แต่ภาพถ่ายนั้นคือการบันทึกความทรงจำของทับเที่ยง และเมืองตรังเหล่านั้นเอาไว้ และฝันว่าจะมีงานแบบนี้อีกบ่อยๆ

นายยิ่งยศ แก้วมี สถาปนิกอิสระ ผู้ชมงานกล่าวว่า ภาพที่ตนประทับใจคือคนที่มาชมงานด้วยกัน คนที่อายุมากกว่าเล่าเรื่องราวในภาพให้คนที่อายุน้อยกว่า เป็นภาพของการแบ่งปันความทรงจำระหว่างรุ่น ทั้งเรื่องราวของผู้คนในภาพ สถานที่ คนรุ่นใหม่ได้สัมผัสเรื่องราวบ้านเกิดของพวกเขาในอดีต คนรุ่นเก่าได้ย้อนความทรงจำ เป็นการสานสัมพันธ์กันอย่างอัตโนมัติระหว่างรุ่น ระหว่างยุคสมัย งานครั้งนี้เป็นแรงบันดาลใจให้ตนและอีกหลายๆคน ว่าคนตรังตรังเล็กๆก็สามารถลุกขึ้นมาทำในสิ่งที่สร้างสรรค์ได้

ด้านนายมงคล คงบัน ผู้ชมงานกล่าวว่า ถือว่าเป็นโอกาสดี เพราะน้อยมากที่จะได้มีโอกาสทั้งรับชมภาพถ่ายที่มีเรื่องราวและสถานที่ที่มีเรื่องราวไปในคราวเดียวกัน งานของช่างภาพที่จัดแสดงได้สะท้อนความเป็นทับเที่ยงเมืองตรังในหลากหลายมุมมอง แสงในทุกๆ เช้า สีสันในทุกๆ เรื่องราวที่ถ่ายทอดลงไปในภาพถ่ายเหมือนเป็นบันทึกเรื่องราวเมืองนี้ของพวกเราไว้ผ่านชัตเตอร์ของช่างภาพคนหนึ่ง และต้องขอขอบคุณและเป็นกำลังใจให้งานแบบนี้

น.ส.กุลวานีย์ องศารา อายุ 23 ปี นักศึกษาจบใหม่ กล่าวว่า ได้เห็นเรื่องราวของสมัยก่อนผ่านภาพถ่าย เพราะเราเกิดไม่ทัน และได้รู้ว่าในอดีตของเรามีเรื่องราวความเป็นมาอย่างไร เป็นงานที่ดีและอยากให้มีบ่อยๆ ต้องขอบคุณที่ทำให้เราได้เห็นบรรยากาศเก่าๆ หวนกลับมาอีกครั้ง

ขณะที่น.ส.เกศสินี ชัยรัตน์ อายุ 22 ปี ชาวตรัง กล่าวว่า รู้สึกประทับใจในนิทรรศการที่ดี นำเสนอมุมมองหลายมุมมองของทับเที่ยงเมืองตรังที่ไม่เคยเห็นมาก่อน ตนเป็นเด็กสมัยใหม่ ไม่เคยรู้ว่าคนตรังในอีกยุคใช้ชีวิตกันอย่างไร พอได้มาชมก็รับรู้ถึงเรื่องราวของตรังบ้านเกิดของตัวเองในอดีตกับปัจจุบันนี้ ที่มีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย ทั้งหอนาฬิกา ถนนหนทางต่างๆ และความทรงจำในวัยเด็กของตนที่ย้อนนึกถึงเรื่องราวต่างๆ ได้

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน