ข้าวแกงหน้า ธกส.ยังคงเป็นขวัญใจของแม่บ้านและผู้ที่ทำงานแต่เช้าสะดวกประหยัดถึงแม้ของจะแพงยังคงขายถึงละ 20 บาท มีบางอย่างที่ขอขึ้นเพราะต้นทุนแพงทั้งผักและเนื้อสัตว์แต่ลูกค้าก็เข้าใจ
เวลา 07.00 น.วันที่ 17 สิงหาคม 2566 ร้านข้าวแกงหน้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์เพื่อการเกษตร หน้าตลาดสดท่ารถ บ.ข.ส.อุทัยธานี หรือที่เรียกกันจนติดปากว่า ข้าวแกงหน้า ธกส.ยังคงเป็นขวัญใจของชาวจังหวัดอุทัยธานีเลยก็ว่าได้เพราะคนมาซื้อกันจนแน่นร้านในทุกเช้า ซึ่งจากการสอบถามนายสาทิตย์ บุญทั่ง เจ้าของร้านกับแฟน ที่เปิดร้านขายข้าวแกงแห่งนี้มากว่า 10 ปีแล้ว ได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่ายังคงยืนพื้นขายแกงถุงละ 20 บาท อยู่ และข้าวสวยนั้นขายถุงละ 5 บาท ซึ่งในช่วงนี้ก็ยอมรับว่าข้าวของนั้นแพงมากเครื่องปรุงต่างๆ รวมถึงผักและเนื้อสัตว์ที่นำมาประกอบอาหาร เช่นเมื่อสองวันก่อนนั้นราคาผักชีกับต้นหอมนั้นขึ้นมาจนแทบจะซื้อมาไม่ได้ โดยผักชีกิโลกรัมละ 220 บาท ส่วนต้นหอมกิโลกรัมละ 130 บาท แล้วผักอื่นๆ ที่ต้องซื้อมาประกอบอาหารในทุกวันก็ยังคงมีการขึ้นอย่างต่อเนื่องอีกด้วยในตอนนี้ต้องขอลูกค้าขึ้นราคากับข้าวบางอย่าง 5 บาท- 10 บาท เช่นกับข้าวที่มีส่วนผสมของสัตว์ทะเล เช่นกุ้ง ปลาหมึก และประเภทต้มหรือแกงบางอย่าง ซึ่งลูกค้านั้นก็เข้าใจก็ยังคงมาซื้อกันเหมือนเดิม
โดยในช่วงเช้าของทุกวันนั้นชาวจังหวัดอุทัยธานีที่อยู่ในตัวอำเภอเมืองและอำเภออื่นๆก็ยังคงมาทีร้านแห่งนี้เพรีมอาหารให้เลือกกว่า 30 อย่างทุกวัน ทั้งผัด ทอด ต้ม แกง สารพัดเมนู ซึ่งเจ้าของร้านนั้นใจดีเป็นกันเองกับลูกค้ามากเพราะอุดหนุนกันอย่างประจำในทุกวันเลยก็ว่าได้ส่วนข้าวของที่แพงหรือถึงผักก็อยากให้ทางรัฐบาลที่จะมาเข้ารับตำแหน่งมันมาใส่ใจกับเรื่องนี้ให้มากเพราะเป็นเรื่องชีวิตความเป็นอยู่ประจำวันของคนเราที่ต้องกินทุกวัน
