เซียนจับปลาจากหลายจังหวัดแห่ซื้อตั๋วการกุศลลง แห่ลงแหยกยอหาปลาโครงการแก้มลิงเหนือเขื่อนวังร่มเกล้าในพื้นที่ตำบลหนองหนองหญ้าปล้อง อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี เซียนหาหาแต่ละคนได้ทั้งปลาเล็กปลาใหญ่หลายชนิดเป็นจำนวนมาก ในขณะที่เซียนหาปลาจากจังหวัดสิงห์บุรีจับปลาบึกยักษ์ขนาดยาว 2 เมตร น้ำหนัก 200 – 300 ก.ก.มีคนขอซื้อหลายรายไม่ยอมขาย สุดท้ายคณะกรรมการขอซื้อไถ่ชีวิตในราคา 2 หมื่นบาท ซึ่งอยู่ในการดูแลของประมงตามหลักวิชาการเพื่อให้มีชีวิตรอดปลอดภัย
ที่บริเวณโครงการแก้มลิงเหนือเขื่อนวังร่มเกล้า ในพื้นที่บ้านสำนักโก หมู่ที่ 4 ตำบลหนองหญ้าปล้อง อำเภอทัพทัน ซึ่งโครงการชลประทานอุทัยธานี ได้ทำการสูบน้ำด้วยพลังงานไฟฟ้าออกจากโครงการแก้มลิงพื้นที่ 400 ไร่ ไปสำรองไว้ตามแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภค บริโภค และจะได้ทำการขุดลอกพัฒนาแหล่งน้ำให้สามารถเก็บกักน้ำได้เพิ่มขึ้นจากเดิม และคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำของโครงการแก้มลิงแห่งนี้ จึงได้มีมติเปิดการจับปลาในแหล่งน้ำเพื่อการกุศล โดยจะนำเงินที่ได้จากการขายตั๋วให้กับบรรดาเซียนปลาที่มาเข้าร่วมโครงการ ไปบริจาคให้กับโรงเรียน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพ และนำเงินไปซื้อพันธุ์ปลาเพื่อขยายพันปลาต่อไป และการจับปลาในครั้งยังอยู่ในช่วงฤดูน้ำแดง หรือฤดูปลาวางไข่ ตามกฎหมายผู้ที่มาจับปลาจะต้องใช้เครื่องมือตามที่กรมประมงกำหนดเท่านั้น คือแห และยอ ตามขนาดที่มีการกำหนดไว้
โดยบรรยากาศของเซียนจับปลาในวันนี้ซึ่งเป็นวันที่ 2 ที่เปิดให้จับปลา มีบรรดาเซียนปลาจากหลายจังหวัดหลายร้อยคน แห่มาซื้อตั๋วลงแหยกยอหาปลากันอย่างคึกคัก โดยนำรถกระบะ รถการเกษตร บรรทุกถัง ภาชะต่างๆเพื่อมาใส่ปลานำไปขายต่อ หรือเก็บถนอมไว้เป็นอาหาร และยังมีพ่อค้า แม่ค้า จากตลาดสดในหลายจังหวัดมาขอซื้อถึงที่ บางคนที่ได้ปลานอกจากการขายให้กับพ่อค้า แม่ค้าแล้ว ก็ปักหลักทำปลา เป็นปลาแดดเดียว ปลาร้า ปลาหมัก และปลาส้มเป็นต้น และจากการจับปลาในวันนี้ยังได้ปลาขนาดใหญ่เป็นจำนวน และเป็นที่น่าตื่นเต้น มีเซียนปลามาจากจังหวัดสิงห์บุรี ซึ่งเป็นเซียนปลาเดินสายหาปลาที่เปิดให้จับแบบนี้ โดยเซียนปลาดังกล่าวจับปลาบึกยักษ์ได้มีขนาดความยาวประมาณ 2 เมตร น้ำหนักตัวประมาณ 200 – 300 ก.ก. สร้างความฮือฮากับเซียนหาประหลาดด้วยกัน แต่เนื่องจากปลามีขนาดใหญ่การจะนำกับไปน่าจะต้องตายในเวลาที่รวดเร็ว จึงมีคนขอซื้อหลายรายในราคาหลายพันไปจนถึงราคา 1 หมื่นบาท ก็ไม่ยอมขาย เนื่องจากถ้านำไปแ]jขายจะอยู่ในราคากิโลกรัมละ 100 – 120 บาท ซึ่งจะได้มากกว่า
สุดท้ายคณะกรรมการจึงตัดสินใจร่วมกัน ที่จะไถ่ชีวิตปลาบึกยักษ์ตัวดังกล่าว ซึ่งมีอายุไม่ต่ำกว่า 10 ปี ไปปล่อยที่แหล่งน้ำตามความเหมาะสมในราคา ตัวละ 2 หมื่นบาท เซียนปลาที่จับได้จึงยอมขายในที่สุด ซึ่งการที่จะนำปลาบึกยักษ์ไปปล่อยและให้มันมีชีวิตรอดปลอดภัยทางด้านประมงอำเภอทัพทัน ได้เข้ามาให้คำแนะนำตามหลักวิชาการ โดยใช้วิธีนำปลาบึกยักษ์ขึ้นจากแหล่งน้ำที่พบนำใส่ผ้าใบขนาดใหญ่ช่วยกันยกหลายสิบคนนำไปใส่กระบะรถที่นำผ้าใบมารองและขังน้ำเอาไว้ และนำไปปล่อยยังสระน้ำของวัดหนองเรือโกลน หมูที่ 3 ตำบลหนองกลางดง อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี ซึ่งจะต้องค่อยๆนำลงอย่างทะนุถนอมไม่ให้บอบช้ำ และค่อยๆ อนุบาลให้มันคุ้นเคยกลับน้ำใหม่ซึ่งต้องใช้เวลานานนับชั่วโมงก่อนจะปล่อยปลาบึกษ์ลงในสระอย่างอิสระ อนึ่งก่อนที่จะปล่อยปลาลงไปให้อยู่ตามธรรมชาติ มีการวัดเปรียบเทียบระหว่างตัวคนที่มีความสูง 170 ซม. ปรากฏว่าปลาบึกยักษ์ยังตัวยาวกว่าถึงประมาณ 30 – 40 ซม อีกด้วย
