เชียงราย-จากกรณีเกิดเหตุการณ์รถพ่วง 10 ล้อ เหยียบหัวชายวัย 64 ปี เมื่อวานที่ผ่านมา ตายคาที่ระหว่างเดินอยู่ริมทาง มีผู้เห็นเหตุการณ์เป็นตำรวจ สภ. เกาะช้าง พบรถพ่วง 10 ล้อวิ่งด้วยความเร็ว กระทั่งจับกุมผู้กระทำผิดได้
วันที่ 24 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังบ้านแม่มะ หมู่ 1 ตำบลศรีดอนมูล อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย ซึ่งจุดเกิดเหตุเป็นทางโค้ง และเป็นถนนแคบ มีรถบรรทุกดินตั้งแต่รถหกล้อไปยันรถ 10 ล้อ และรถพ่วง วิ่งสวนทางเข้าออกอย่างไม่ขาดสาย สอบถามชาวบ้านทราบว่า ในวันเกิดเหตุเวลาประมาณ 10.30 น. นายเจริญ อายุ 64 ปี ต.ศรีดอนมูล เดินออกจากซอย 9 และเดินลัดเลาะไปข้างทางเพื่อที่จะไปดูร่องน้ำที่มันอุดตัน เนื่องจากจุดดังกล่าวเวลาฝนตก จะมีน้ำขังเอ่อล้นถนน ผู้ตายจึงได้ไปดูแถวบริเวณร่องน้ำ ตรวจจุดที่ร่องน้ำตัน ขนาดยืนอยู่ริมทางได้มีรถพ่วง 10 ล้อ วิ่งมาจากอำเภอแม่สายด้วยความเร็วเข้าโค้งมา ลูกพ่วงได้ชนเข้ากับนาย เจริญ (ผู้ตาย) ลูกพ่วงเหยียบเข้าที่ศีรษะตายคาที่ ซึ่งจุดดังกล่าวไม่มีคนพบเห็นเหตุการณ์แต่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะช้าง ได้ขับรถมา ก่อนถึงจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร เพื่อที่จะมุ่งหน้าไป สภ. เกาะช้าง เพื่อไปปฎิบัติหน้าที่ ระหว่างนั้นได้พบรถ 10 ล้อพ่วงคันดังกล่าว ขับมาอย่างรวดเร็ว ด้วยความที่เป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงตั้งข้อสังเกตว่ารถพ่วงคันนี้ขับไวเกินกว่าเหตุ บนเส้นทางถนนเล็กๆ พอขับไปถึงจุดเกิดเหตุจึงพบผู้ตายนอนเสียชีวิตอยู่ข้างทาง จึงสันนิษฐานว่าต้องเป็นรถพ่วงคันที่ก่อเหตุที่ขับสวนทางกับตนเองไป จึงได้ประสานงานไปยังสภ. เชียงแสน เพื่อให้ออกสกัดจับ ชุดสืบสวนสภ. เชียงแสนได้ไปตรวจกล้องวงจรปิด พบรถต้องสงสัยเป็นรถพ่วง 10 ล้อที่ขับด้วยความเร็วสูง บนถนนเส้นทางแคป จนกระทั่งสืบทราบ รถคันก่อเหตุ หลบอยู่ในสถานที่ถมดิน จึงได้นำกำลังไปตรวจสอบแต่ผู้ก่อเหตุยังไม่ยอมรับสารภาพ จนกระทั่งนำภาพกล้องวงจรปิดให้ดู จนด้วยหลักฐานผู้ก่อเหตุยอมรับสารภาพ
นายมรรควัตร ขาเบศักดิ์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่6 บ้านงิ้วเฒ่า ทราบว่า บริเวณดังกล่าวมีการขุดดินอยู่ 4 บ่อ วิ่งเริ่มตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้น ไปจนถึงพระอาทิตย์ตก แต่ละบ่อมีรถวิ่ง 20 คันขึ้นไป กระบี่ตั้งแต่รถดำหกล้อและรถดำพ่วง 10 ล้อ คันหนึ่งจะวิ่งประมาณ 30- 40 เที่ยวต่อวัน ซึ่งทราบว่าบ่อดิน ซึ่งได้สร้าง มลภาวะฝุ่น -เสียง-และรถเหยียบสัตว์ที่มีขนาดเล็ก ซึ่งที่ผ่านมาคือร้องเรียนไปยังหน่วยงานแต่ก็ไม่มีการแก้ไข ทำให้ชาวบ้านเอื้อมระอาไม่รู้จะไปลองหน่วยงานไหน ฤดูฝนก็ทำให้ถนนเป็นสีแดงเปียกโคน ฤดูร้อนก็มีฝุ่นคลุ้งกระจายไปทั่วหมู่บ้าน และยังบีเหยียบสัตว์ตัวเล็กๆแต่ก็ไร้แสดงความรับผิดชอบ ซึ่งเป็นปัญหาแบบนี้มานานมาก แต่ชาวบ้านก็ทนทุกข์อยู่กับมัน รถดั้มเหล่านี้จะวิ่งด้วยความเร็วบนถนนที่กว้างข้างละ 4 เมตร หากเป็นรถขนาดใหญ่ชาวบ้านต้องจอดรอให้รถขนดินวิ่งผ่านไปก่อน ไม่งั้นจะเกิดอุบัติเหตุ เพราะเส้นทางแคบมาก
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
ข่าวน่าสนใจ:
- ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงราย เชิญส่วนราชการ เอกชน สื่อมวลชน 50 คน เยี่ยมชมแหล่งท่องเที่ยวในชุมชนกระตุ้นการท่องเที่ยว-เศรษฐกิจในชุมชน อย่างยั่งยืน
- นนทบุรี หนุ่ม 16 ขับเบนช์ เสียหลักเหินขึ้นไปคาอยู่บนรถ 6 ล้อรอดตายปาฏิหาริย์
- นักท่องเที่ยวแห่ชมดอกไม้งามดอยตุง ชิมอาหารพื้นถิ่น ถ่ายรูปดอกไม้สวย
- ปป.แม่สายทานมูมมามจนลืมตัว เรียกเก็บเงินแบบไม่อาย แต่ต่อรองราคาได้
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: