สงขลา-สะเดา สุดวุ่น ด่านพรมแดนสะเดา รถติดขัดตั้งแต่กลางวัน จนถึงเวลาด่านปิดทำการ นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย 300-400 คนติดค้างเดินทางกลับไม่ทัน หลายรายประทับหนังสือเดินทางเรียบร้อยแล้ว ต้องหันกลับมาหาที่พักรอเดินทางในช่วงเช้าตรู่
2 ก.ย. 2566 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันหยุดในวันประกาศอิสระภาพ ของประเทศมาเลเซียหรือ วัน ฮารี เมอร์เดก้า เมื่อวันที่ 30-31- สิงหาคม 2566 นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียจำนวนมากเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดสงขลา จากตัวเลขของด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดา ระบุว่ามีจำนวนกว่า 25,000 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาด้วยรถยนต์ส่วนตัวและรถบัส ส่งผลให้ภาคธุรกิจโรงแรม ร้านค้า ร้านอาหาร และสถานที่ท่องเที่ยวในอำเภอหาดใหญ่ และอำเภอเมืองสงขลา เต็มไปด้วยนักท่องเที่ยว
ก่อนที่จะเดินทยอยทางกลับประเทศ เมื่อวันที่1 ก.ย. ซึ่งการจราจรเริ่มติดขัดเนื่องจากรถยนต์ส่วนตัวของนักท่องเที่ยว รวมทั้งรถบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่ ที่เริ่มทำการขนส่งสินค้าเป็นวันแรกหลังจากหยุดยาวเช่นกัน จนทำให้เส้นทางมุ่งสู่ด่านพรมแดนสะเดารถติดขัดทุกเลน ยาวกว่า 2 กิโลเมตร ชนิดที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน
ส่วนวันที่ 2 ก.ย. รถนักท่องเที่ยวชาว มาเลเซียที่ยังเหลืออยู่เป็นจำนวนมาก ได้พร้อมกันเดินทางกลับประเทศทั้งนี้เนื่องในวันที่ 3 ก.ย.โรงเรียนจะเปิดเทอม ซึ่ง การจราจรเริ่มติดขัด ที่หน้าด่านสะเดา ตั้งแต่เวลา 09:00 น. โดยติดสะสมระยะทาง 2 กม. จนถึงเวลา 22:00 น. โดยมีท้ายแถวประมาณ 500 เมตรจากด่านสะเดา จนกระทั่งเวลา 23.00 น ด่านตรวจคนเข้าเมืองทั้ง 2 ประเทศปิดเวลาทำการ
ส่งผลให้รถนักท่องเที่ยวกว่า 200 คันและนักท่องเที่ยวกว่า 300 -400 คนติดค้างอยู่ที่หน้าด่านสะเดา บางคนถึงกับตกใจทำอะไรไม่ถูก หลังจากขับรถตามหลังกันมาจนมาเจอประตูด่านสะเดาปิดในขณะรถยังเต็มถนนกาญจนวิชอีกหลายร้อยคัน หลายรายประทับตราหนังสือเดินทางผ่านด่านไทยแล้วรอเข้าด่านมาเลย์ฯ เจอ ด่านมาเลย์ปิดประตูต่อหน้า
ด้านเจ้าหน้าที่ ด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดา บอกว่าช่วงเวลา 23.000 เจ้าหน้าที่ด่านบูกิตกายูฮิตัม มาปิดประตูรั้วประเทศมาเลเซียทันที โดนไม่สนใจว่า มีคนมาเลย์ค้างอยู่เป็นจำนวนมาก ส่วนด่านตรวจคนเข้าเมืองไทยประตูไม่เคยปิด แต่ก็ต้องหยุดให้บริการทันที่เพราะมาเลยฯปิดก่อน ในส่วนของหนังสือเดินทางซึ่งหลายคนได้รับการประทับตราแล้ว จะต้องทำการยกเลิก แล้วค่อยประทับตราใหม่อีกครั้ง
ทำให้นักท่องเที่ยวหลายคนรู้สึกผิดหวัง และเครียด จนมีการต่อว่าเจ้าหน้าที่มาเลย์ ว่าไม่เห็นใจเพราะบางคน มีเด็กมาด้วย และหลายคนที่อยู่ฝั่งไทยช่วงท้ายแถวยังไม่รู้ว่าด่านปิดแล้ว สร้างความสับสนอลหม่านเป็นอย่างมาก และหลายคนกลับรถเพื่อหาที่พักที่เมืองด่าน นอก อ.สะเดา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 01.00 น ของวันที่ 3 ก.ย. มีรถนักท่องเที่ยวกว่า 50 คันยังคงจอดอยู่ที่หน้าด่านสะเดา คาดว่าคนขับและครอบครัวนอนค้างอยู่บนรถ รอข้ามด่านในตอนเช้าตรู่ซึ่งเริ่มเปิดด่านตั้งแต่ เวลา 05.00 น.
ด้าน ดร.สิทธิพงษ์ สิทธิภัทรประภา นายกสมาคมโรงแรมบอกว่าโรงแรมในพื้นที่บ้านด่านนอกส่วนใหญ่เต็มหมดแล้วและ ออกมาตำหนิเจ้าหน้าที่ ไม่สามารถระบายรถได้หมดในเวลาทำการ จนมีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก ซึ่งเหตุการณ์นี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบหลาย 10 ปี โดยจะนำโดยจะนำเรื่องนี้ไปหารือกับการท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นการด่วน
ทั้งนี้มีรายงานเพิ่มเติมว่า ถนนมุ่งหน้าสู่ด่านพรมแดนสะเดา ไปยังประเทศมาเลเซีย ในช่วงเร่งด่วนของวันปกติก็มีการจราจรที่ติดขัดอยู่แล้ว เฉลี่ยมีรถบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่มากกว่า 1,000 คันต่อวันผ่านด่านฯ พอตรงกับวันหยุดหรือช่วงเทศกาลฯ จะมีรถของนักท่องเที่ยวรวมเข้ามาด้วย ทำให้การจราจรยิ่งติดขัดหนัก ในขณะที่การดำเนินการแก้ไขในเรื่องนี้ จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยังไม่เห็นเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนแต่อย่างใด จนประชาชนในพื้นที่มักจะบอกว่าไม่เห็นมีการแก้ไขหรือทำอะไรเลย
