ที่วัดกกต้อง ต.ฟากท่า อ.ฟากท่า จ.อุตรดิตถ์ นายสมหวัง พ่วงบาโพ ผู้ว่าฯจ.อุตรดิตถ์ ประธานพิธีถวายเครื่อง บวงสรวง บายศรี และพวงมาลัยพระธาตุมหาจุฬามณีแก้วศรีโพธิ์วา เจ้าปู่สุวรรณนาคราช แม่ย่าแก้วคำกลองนาคิณี และ พญานาค 4 ตระกูล โดยมีนายวารุจ ศิริวัฒน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.)จ.อุตรดิตถ์ เขต 2 พรรคเพื่อไทย , นายสุรพันธ์ เจริญทรัพย์ วัฒนธรรมจังหวัดอุตรดิตถ์ , นายอำเภอฟากท่า , สภาวัฒนธรรม , ผู้นำท้องถิ่นท้องที่ และ พี่น้องประชาชนอำเภอฟากท่า นุ่งขาว และ ผ้าทอพื้นเมือง ร่วมในกิจกรรมดังกล่าวเป็ยจำนวนมาก 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะที่พราหมณ์ประกอบพิธีบวงสรวง บอกล่าวชุมนุมเทวหาทั้ง 8 ทิศ กล่าวบูชาเจ้าปู่สุวรรณนาคราช แม่ย่าแก้วคำกลองนาคิณี และพญานาค 4 ตระกูล ได้เกิดปรากฏกลุ่มเมฆลอยตัวต่ำปกคลุมทั่วบริเวณพิธี ฟ้าร้องเสียงดัง และเกิดลมพัดแรง ประมาณ 30 นาทีก่อนสลายไป ชาวบ้านต่างยกมือสาธุ จากนั้นผู้ว่าฯจ.อุตรดิตถ์ ประธานตัดริบบิ้น “เปิดเมืองพญานาคที่ฟากท่า”
ขณะที่บรรยากาศบริเวณหน้าพระธาตุมหาจุฬามณีแก้วศรีโพธิ์วา พี่น้องประชาชนต่างใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพ ธูปมงคลที่จุดไว้ขณะประกอบพิธีบวงสรวง ที่ปรากฏเป็นเลขบนธูปมงคล 054 โดยกลุ่มนักเสี่ยงโชคบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า จะได้นำไปเสี่ยงโชคในงวดวันที่ 16 ก.ย.66 นี้ด้วย
นายสุรพันธ์ เจริญทรัพย์ วัฒนธรรมจังหวัดอุตรดิตถ์ กล่าวว่า จากคำบอกเล่าผู้เฒ่าผู้แก่ และ ภูมิปัญญาบ้านกกต้อง วัดกกต้อง ต.ฟากท่า มีเรื่องเล่าตำนานพญานาค ว่า โบราณสถานพระธาตุมหาจุฬามณีแก้วศรีโพธิ์วา เป็นเจดีย์พุทธสถานบรรจุ พระบรมสารีริกธาตุ ส่วนพระอุระ ของพระพุทธเจ้า ที่มีมานาน 300 กว่าปี เป็นเมืองชายแดนของกรุงอยุธยาสืบเนื่องมาสยามประเทศ ซึ่งมีถ้ำและมีพ่อปู่แม่ย่าพญานาค ปกป้องคุ้มครองดูแลเจดีย์พระธาตุอยู่ คือ เจ้าปู่สุวรรณนาคราช เป็นพญานาคราช ที่อยู่ในตระกลูวิรูปักขะ พระวรกายสีทอง เศียรและปล้องพระนาภีสีทอง เป็นพญานาคราชที่ดูแลและปกครองอาณาเขตลุ่มแม่น้ำยมและน่าน
อดีตเคยเป็นสหาย กับ เจ้าปู่ศรีสุทโธฯ แต่มีเหตุให้ทั้งสองพระองค์ บาดหมางกัน เพราะแข่งขันกันขุดลำน้ำ เจ้าปู่ศรีสุทโธฯ ขุดแม่น้ำโขง และเจ้าปู่สุวรรณนาคราช ขุดแม่น้ำน่าน ใครชนะได้ปลาบึกไปครอง ผลปรากฏว่า เจ้าปู่ศรีสุทโธฯ ชนะ ในแม่น้ำโขงจึงมีปลาบึก เพราะขุดได้ตรงใหญ่และยาวกว่า ส่วนแม่น้ำน่าน ขุดยากเพราะคดเคี้ยวตามทิวภูเขา จึงแคบและสั้นกว่า และในส่วนของพระมเหสีคือนางพญาแก้วคำกลองนาคิณี หรือเจ้าย่าแก้วคำกลองนาคิณี เป็นพญานาคิณีที่อยู่ในตระกลูฉัพพะยาปุตตะ มีพระวรกายสีม่วงเม็ดมะปราง บางครั้งอาจจะเห็นเป็นสีขาว – ทองในช่วงจำศีล มีพระเศียรและปล้องพระนาภีสีทอง เป็นบุตรขององค์กาลนาคราช พ่อปู่แม่ย่าจึงดูแลและปกครองอาณาเขตลุ่มแม่น้ำยมและน่าน เป็นกษัตริย์ปกครองนาคราชฝั่งภาคเหนือทั้งหมด
จากตำนานพญานาคดังกล่าว ที่วัดกกต้องแห่งนี้ จึงมีรูปปั้นพญานาค 4 ตระกูลทั้งใหญ่ เล็กเป็นจำนวนมาก และโอบล้อมพระธาตุมหาจุฬามณีแก้วศรีโพธิ์วา โดยชาวฟากท่าเชื่อว่าปกปักษ์รักษาคุ้มครอง และ ความอุดมสมบูรณ์ เนื่องจากพญานาคเป็นผู้ให้น้ำและทำให้เกิดฝนในแต่ละปี ดังนั้นจึงมีผลต่อการประกอบอาชีพเกษตรกรรมและความอุดมสมบูรณ์ ดังนั้นพี่น้องประชาชนอำเภอฟากท่า ต่างพร้อมใจจัดเครื่องบวงสรวงพระธาตุมหาจุฬามณีแก้วศรีโพธิ์วา และพ่อปู่แม่ย่าพญานาค และเปิดนครบาลดาล เปิดเมืองพญานาคที่ฟากท่า ให้ประชาชน นักท่องเที่ยวแวะไหว้องค์พญานาค เป็นการนำทุนทางวัฒนธรรม หรือ Soft Power ที่โดดเด่นและเป็นอัตลักษณ์ของอำเภอฟากท่า จ.อุตรดิตถ์ ความเชื่อเกี่ยวกับพญานาค มาพัฒนาต่อยอด สร้างเศรษฐกิจฐานราก และส่งเสริมการท่องเที่ยว และยังสอดคล้องตามนโยบายของรัฐบาล กระทรวงวัฒนธรรม และสอดคล้องกับ 12 เป้าหมายร่วมของจังหวัดอุตรดิตถ์ที่ว่า “อุตรดิตถ์เที่ยวได้ทั้งปี 365 วัน ที่อุตรดิตถ์”
