ภูเก็ต จนท.ตำรวจร่วมกับชุดปฏิบัติการ AITF รวบ 3 สาวเคนยา คาสนามบิน พบว่าซุกโคเคนหนักรวม 2,857 กรัม ภายในช่องท้อง ใช้เวลา 2 วันจนขับถ่ายออกมาหมด
เมื่อวันที่ 6 ก.ย.66 มีรายงานว่า พ.ต.อ.สลาน สันติศาสนกุล ผกก.สภ.สาคู พ.ต.ท.รัตนวุฒิ หนูแก้ว รองผกก.สส.สภ.สาคู นำโดย พ.ต.ท.ชำนาญ อินทานนท์ สว.สส.สภ.สาคู และชุดสืบสวน สภ.สาคู ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาชาวเคนยา 3 ราย ประกอบด้วย นางสาวเฟต วานซ่า มูเชมบิ อายุ 26 ปี ชาวเคนยา พร้อมด้วยของ โคเคน น้ำหนักร่วมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 1,620 กรัม นางสาวเนลี่ กาเชลี่ ลูลี่ อายุ 26 ปี พร้อมด้วยของ โคเคน น้ำหนักร่วมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 765 กรัม และนางสาวเกรฮ วานกาลี่ กาโรกิ อายุ 34 ปี พร้อมด้วยของกลาง โคเคน น้ำหนักร่วมสิ่งห่อหุ้มประมาณ 472 กรัม รวมของกลางโคเคนของทั้ง 3 คน น้ำหนักร่วมสิ่งห่อหุ้มทั้งหมดประมาณ 2,857 กรัม โดยสามารถจับกุมได้ที่ บริเวณสนามบินภูเก็ต ม.6 ต.ไม้ขาว อ.ถลาง จ.ภูเก็ต
สำหรับการจับกุมดังกล่าว สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 3 ก.ย. 66 ชุดสืบสวน สภ.สาคู ได้รับการประสานจาก ป.ป.ส. ว่าจะมีชาวต่างชาตินำเข้าโคเคนเป็นจำนวนมาก เมื่อเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.สาคู ได้รับแจ้งแล้ว จึงรีบเดินทางไปยังสนามบินภูเก็ต ได้ร่วมกับชุดปฏิบัติการภารกิจสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติด ผ่านท่าอากาศยาน (AirportInterdiction Taskforce :AITF) เมื่อพบชาวต่างชาติกลุ่มดังกล่าวจึงทำการตรวจค้นตัว แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย จึงนำตัวไปเอ็กซเรย์ที่โรงพยาบาลถลาง ผลการเอ็กซเรย์ พบสิ่งแปลกปลอมภายในช่องท้องเป็นจำนวนมาก
ข่าวน่าสนใจ:
จากนั้นได้ควบคุมกลุ่มดังกล่าวกลับไปยังศุลกากรท่าอากาศยานภูเก็ต เพื่อให้ดำเนินการให้ชาวต่างชาติขับถ่ายสิ่งแปลกปลอมออกมาภายในท้องซึ่งใช้เวลา 2 วัน จนสามารถขับถ่ายสิ่งแปลกปลอมออกมาจนหมด พบว่าเป็น โคเคน ด้านเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.สาคู เจ้าหน้า ป.ป.ส. และเจ้าหน้าที่ศุลกากร ประจำสนามบินภูเก็ต จึงได้ร่วมกันจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย จากการการสอบถามผู้ต้องหายังไม่ยินยอมให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ และไม่ให้ความร่วมมือแต่อย่างใด
เบื้องต้นได้แจ้งข้อกล่าวว่า “นำยาเสพติดให้โทษในประเภท 2 โคคาอีน เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต และมียาเสพติดให้โทษในประเภท 2 โคคาอีน ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน” นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.สาคู ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: