ฉะเชิงเทรา – นายก อบจ.แปดริ้ว ตั้งโต๊ะแจงเดือด หลังสื่อนำเสนอข่าวชาวบ้านร้องถนนพังนานนับสิบปีหน่วยงานในพื้นที่ไร้งบซ่อมเหตุจากเป็นพื้นที่คาบเกี่ยว 2 ตำบล ระบุทำหนังสือสอบถามไม่มีคำตอบกลับจากหน่วยงานในพื้นที่ เผยหาก อบจ.เข้าไปดำเนินการโดยพละการมีสิทธิติดคุก ยันพร้อมดูแลประชาชนในทุกพื้นที่ไม่ฝักใฝ่เลือกพรรคพวกฝ่ายใด
วันที่ 8 ก.ย.66 เวลา 19.30 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการเผยแพร่คลิปข่าว จากฝ่ายประชาสัมพันธ์องค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา (อบจ.) ซึ่งเป็นคลิปภาพของนายกิตติ เป้าเปี่ยมทรัพย์ นายก อบจ.ฉะเชิงเทรา ที่ได้ออกมานั่งโต๊ะแถลงข่าวโต้ตอบอย่างดุเดือด หลังจากมีสื่อดิจิตอลทีวีสำนักหนึ่งได้มีการลงพื้นที่เข้ามานำเสนอข่าว เกี่ยวกับการร้องเรียนของชาวบ้านในพื้นที่ ต.หัวสำโรง และ ต.แปลงยาว ที่มีเนื้อหาพาดพิงมายัง อบจ.ฉะเชิงเทรา
ข่าวน่าสนใจ:
เกี่ยวกับการซ่อมแซมถนนสายบ้านใหม่-บ้านต้นตะกู ที่ยังไม่ได้มีการจัดสรรเงินงบประมาณเข้ามาซ่อมแซมให้แก่ อปท.ในพื้นที่ หลังจากถนนสายดังกล่าวเป็นหลุมบ่อ พังชำรุดเสียหายมานานนับ 10 ปี ตามที่มีการระบุของสื่อสำนักดังกล่าว ที่ได้มีการนำเสนอข่าวออกไป ซึ่งในคลิปนี้ นายกิตติ ได้กล่าวถึงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า ตนเองรู้สึกไม่สบายใจทืมีสำนักข่าวโทรทัศน์ช่องหนึ่ง ที่ได้มีการนำเสนอข่าวออกไปว่า อบจ.ฉะเชิงเทรา เลือกที่รักมักที่ชังให้กับพี่น้องประชาชนชาว จ.ฉะเชิงเทรา
จึงอยากนำเรียนต่อสื่อมวลชนว่า ตนเองนั้นเป็นนายก อบจ.ฉะเชิงเทรา ต้องดูแลทุกข์สุขของประชาชนในเขตของ จ.ฉะเชิงเทรา ไม่เกี่ยวกับพรรคพวกหรือเพื่อนฝูง จึงอยากขอนำเรียนว่ามีสื่อมวลชนที่ไปออกข่าวว่า อบจ.ฉะเชิงเทรา ไม่ได้ทำถนนให้กับตำบลหัวสำโรง ตำบลแปลงยาว จึงอยากนำเรียนว่าเดิมเขามีการเขียนแผนขอมาใน 2569 แต่ตนเองได้มีการปรับเปลี่ยนมาให้เร็วขึ้นในปี 2566 แต่ถนนที่เขาขอมานั้นไม่ใช่ถนนของ อบจ.ฉะเชิงเทรา
แต่เป็นถนนที่อยู่ในความรับผิดชอบของ อบต. หรือเทศบาลที่ขอมา จึงได้ทำเรื่องสอบถามไปยัง อบต. ก่อนที่จะนำมาเป็นข้อบัญญัติ ว่าจะอนุญาตให้เราเข้าไปสร้างถนนให้หรือไม่ แต่ทาง อบต.หัวสำโรงนั้นไม่ตอบกลับมา โดยมีทาง อบต.แปลงยาว ได้มีหนังสือตอบกลับมา จึงได้นำงบประมาณปี 2566 เข้าเป็นข้อบัญญัติ ณ ปัจจุบันนี้ จนเป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว และผ่านสภาเห็นชอบไปแล้ว และจะเข้าไปดำเนินการทำถนนให้ในเร็วๆ นี้ ด้วยเงินงบประมาณกว่า 6 ล้านบาท
จึงขอตอบผ่านทางสื่อมวลชนว่า หลังจากทาง อบจ.ฉะเชิงเทรา ได้ฟังช่องโทรทัศน์ช่องดังกล่าวออกอากาศไปแล้วนั้น ไม่ตรงกับความเป็นจริง จึงอยากบอกตรงๆ ว่า “อบจ.ฉะเชิงเทรา ต้องดูแลทุกข์ของประชาชนเสมอไปไม่ว่าเขาจะเป็นใคร และในเขต อ.แปลงยาว นั้นได้ให้เงินงบประมาณไปอย่างมากไม่แพ้ที่อื่นเลย จึงอยากฝากผ่านทางสื่อด้วยว่า ผมนั้นทำอะไรเพื่อประชาชน ดูแลประชาชน ประชาชนคือเจ้านายของผม ผมจะทำให้ดีที่สุด แต่พื้นที่ไม่ใช่พื้นที่ของ อบจ. เมื่อทำหนังสือสอบถามไปแล้วเขาไม่ตอบ ผมจะเข้าไปทำให้ได้หรือไม่ ผมต้องติดคุกนะครับ ในข้อหาบุกรุก”
เขาต้องตอบกลับมาจึงจะเข้าไปทำได้ จึงอยากฝากผ่านทางสื่อมวลชนด้วยความเคารพ แต่ของทาง อบต.แปลงยาวนั้น จะเข้าไปทำให้แล้ว ด้วยการอนุมัติเงินงบประมาณกว่า 6 ล้านบาทที่ผ่านสภาไปแล้ว โดยทำเฉพาะถนนในเขต ต.แปลงยาว แต่ใน ต.หัวสำโรง เขาไม่ตอบก็ยังไม่กล้าเข้าไปทำ เพราะเกรงว่าจะถูกฟ้องร้องข้อหาบุกรุกหรือถูกดำเนินคดีได้ โดยถนนสายนี้มีระยะทางความยาวทั้งสิ้นประมาณ 4 กม.เศษ จะต้องใช้งบประมาณตลอดทั้งสายประมาณ 12 ล้านบาท
แต่ขณะนี้จะเข้าไปทำให้แก่ทาง อบต.แปลงยาว เพียงแห่งเดียว 6 ล้านบาทเศษก่อน ส่วน อบต.หัวสำโรง เขาไม่ตอบกลับมาแล้วตนก็เข้าไปทำไม่ได้ หากเขาอนุญาตแล้วจึงจะเข้าไปทำได้ แต่ถ้าหากเขาจะตอบกลับมาในภายหลัง จึงจะสามารถเข้าไปทำให้ได้ แต่ขณะนี้ทราบมาว่าเขาไม่ต้องการแล้ว โดยมีการบอกกล่าวผ่านมากับทางบุคคลอื่นว่า เขาไม่เอาแล้วงบ อบจ. ทั้งยังระบุด้วยว่าเขามีงบประมาณอยู่แล้วเยอะแยะไป เขาจึงไม่ตอบกลับมายัง อบจ. โดยมีการพูดกันออกมาให้ทราบ ผ่านทางคนรู้จักแบบปากเปล่า จึงไม่ได้มีหลักฐานอะไรที่แน่ชัด โดยตนก็ไม่อยากไปว่าใคร นายกิตติ กล่าว
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับพื้นที่ อ.แปลงยาว นั้น ถือเป็นแหล่งที่ตั้งของโรงงานอุตสาหกรรมจำนวนมาก โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ ต.หัวสำโรง นั้น มีนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ตั้งอยู่ในพื้นที่ด้วย 1 แห่ง จึงเชื่อว่าทาง อบต.หัวสำโรง น่าจะมีเงินงบประมาณจากการจัดเก็บได้มากเพียงพอแล้ว จึงได้มีการปฏิเสธเงินงบประมาณจากทาง อบจ. ตามที่นายกิตติ ระบุในคลิปการแถลงข่าวในครั้งนี้ ว่าทาง อบต.หัวสำโรงนั้น ไม่ต้องการงบประมาณจากทาง อบจ.ฉะเชิงเทรา แล้ว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: