สระแก้ว – จังหวัดสระแก้วเรียกประชุมหน่วยงาน กรณีปัญหาบุกรุกพื้นที่ป่าและปัญหาช้างป่าลงมากินพืชผลการเกษตรกรและทำร้ายชาวบ้าน ในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยมีหน่วยงานที่รับผิดชอบ กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืช เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าฯ เข้าร่วมหาแนวทางแก้ไข ระบุ มีช้างถึง 300 ตัว ออกมาในพื้นที่รอยติดต่อเขตป่ารอยต่อ แนะนำเปลี่ยนไปปลูกพืชที่ช้างไม่ชอบกิน ฉีดยาคุมช้างตัวเมีย และผลักดันช้างออกไปเท่านั้น ขณะที่สำนักนายกฯ เยี่ยวยาผู้เสียชีวิตจากกรณีช้างทำร้าย 1 แสนบาท
เมื่อวันที่ 13 ก.ย.66 ที่ผ่านมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายเชาวเนตร ยิ้มประเสริฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าในเขตพื้นที่จังหวัดสระแก้ว ที่ห้องประชุมสระขวัญ ศาลากลางจังหวัดสระแก้ว ชั้น 3 ต.ท่าเกษม อ.เมืองสระแก้ว จ.สระแก้ว โดยมี นายชาตรี ผดุงพงษ์ ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสระแก้ว ,นายสมบูรณ์ สมจิตร์ นายช่างสำรวจอาวุโส สำนักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระแก้ว ,นายธีรวัฒน์ อ่อนสำลี ผอ.การส่วนจัดการที่ดินป่าไม้ สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 9 สาขาปราจีนบุรี ,นายวีระพงศ์ โคระวัตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอ่างฤาไน, นางสาววิลาสินี ไชยจันทร์ ผอ.ส่วนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ,นายอภิศักดิ์ คชินทร ป่าไม้สระแก้ว, นายทัศนะ บันพิมาย เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ และชุดผลักดันช้างป่า พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยที่ประชุมได้ขอให้ตรวจสอบแนวเขตพื้นป่าสำรวจและกำหนดเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าอนุรักษ์ตามกฎหมายและพื้นที่คุ้มครองในจังหวัดสระแก้ว และให้สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 9 สาขาปราจีนบุรี ตรวจสอบแนวเขตพื้นที่จากการสำรวจและกำหนดเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ เป็นพื้นที่ป่าอนุรักษ์ตามกฎหมาย พื้นที่คุ้มครอง อุทยานแห่งชาติปางสีดาและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ให้ชัดเจน
ทั้งนี้ ที่ประชุมดังกล่าว ได้หารือกรณีพื้นที่ทับซ้อนกับพื้นที่ที่อยู่ในความดูแลของกรมป่าไม้ เช่น ป่าชุมชน โดยสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 9 สาขาปราจีนบุรี ขอความร่วมมือในการตรวจสอบการทับซ้อนของพื้นที่ เพื่อเตรียมการผนวกเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน จังหวัดฉะเชิงเทรา สระแก้ว จันทบุรี ระยอง และชลบุรี ซึ่งอยู่ในความดูแลของสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 2 ศรีราชา พร้อมส่งรายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานของพื้นที่ สำหรับการผนวกเป็นเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ในส่วนของพื้นที่จังหวัดสระแก้วด้วย ซึ่งพื้นที่ดังกล่าว ทับซ้อนกับสำนักปฏิรูปที่ดินจังหวัดสระแก้ว และแจ้งให้สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสระแก้วทราบ เพื่อนำเข้าที่ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่าจังหวัดสระแก้ว ปีงบประมาณ 2566 ต่อไป
ขณะที่ นายเชาวเนตร ยิ้มประเสริฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว กล่าวว่า ปัญหาเรื่องช้างป่าลงมาจากเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าอ่างฤาไน โดยลงมากินพืชผลทางการเกษตรกรของชาวบ้านจนได้รับความเสียหาย และเข้ามาทำร้ายชาวบ้านได้รับบาดเจ็บสาหัส ในพื้นที่ ต.พระเพลิง อ.เขาฉกรรจ์ จ.สระแก้ว ถึงขนาดนอนรักษาตัวที่ รพ.เขาฉกรรจ์ นั้น ซึ่งได้รับการเยี่ยวยาด้วยเงินเพียงเล็กน้อย ถือว่า มันไม่คุ้ม จำเป็นต้องหาแนวทางในการป้องกันและแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน
ส่วน นายทัศนะ บันพิมาย เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ และชุดผลักดันช้างป่า กล่าวว่า ช้างป่าที่ลงมาในพื้นที่หลายจุด เช่น ที่อำเภอเมืองสระแก้ว ,ตำบลพระเพลิง อ.เขาฉกรรจ์ ,ตำบลวังใหม่ ตำบลวังทอง อ.วังสมบูรณ์ , ตำบลตาหลังใน อ.วังน้ำเย็น นั้น มีช้างป่ากว่า 300 ตัว ที่ลงจากเขาอ่างฤาไน ลงมากินข้าวของและพืชผลทางการเกษตรของประชาชน เช่น อ้อย กล้วย มะพร้าว พืชผลไม้ยืนต้น ซึ่งช้างอีกชุดที่ลงมาอยู่ในพื้นที่ ตำบลตาหลังใน บ้านบ่อลูกรัง ต.คลองหินปูน และรอยต่อ ต.วังน้ำเย็น ก็เป็นช้างป่าอีกชุด ที่เจ้าหน้าที่ชุดผลักดันช้าง เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าอ่างฤาไน เตรียมพร้อมอยู่แล้ว ปัจจุบันเจ้าหน้าที่ทำได้แค่เพียงเข้าไปผลักดันช้างออกไปเท่านั้น
ส่วน นายสมใจ พุทธเสนา นายอำเภอเขาฉกรรจ์ ได้พูดในที่ประชุมระบุว่า คือกรณีปัญหาช้างป่า ถือเป็นภัยพิบัติที่ชาวบ้านประสบภัยเรื่องช้าง ชาวบ้านจำเป็นต้องตั้งรับปัญหาช้างตลอดอย่างนี้ ไม่มีทางแก้ไขบ้างเลยหรือ ทุกอย่างต้องแก้ไขได้ เพื่อหาทางออกได้ ถ้าเราทำ ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าอ่างฤาไน ได้พูดในที่ประชุมว่า ต้องปรับเปลี่ยนการปลูกพืช ไม่ให้ช้างชอบกิน หรือพืชที่ช้างไม่กิน ซึ่งช้างป่า 300 ตัว พื้นที่มันเป็นพื้นที่ราบ สภาพมีอาหารในพื้นที่ ในทางปฏิบัติมีแหล่งน้ำ ซึ่งตอนระยะนี้ทางเจ้าหน้าที่ก็จะมีการป้องควบคุมประชากรช้างป่า โดยการฉีดวัคซีนช้างตัวเมีย เพื่อเป็นการคุมกำเนิดช้างป่าด้วยทางหนึ่ง
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมดังกล่าว ได้มีการพูดถึงการเยียวยาสำหรับชาวบ้านหรือผู้ที่ถูกช้างป่าทำร้ายในช่วงที่ผ่านมา โดยทางกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธ์พืช ได้รับการประสานจากสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่องการจ่ายเงินค่าเยี่ยวยาให้กับผู้ที่ประสบภัยพิบัติในเรื่องถูกช้างป่าทำร้ายจนถึงแก่ชีวิต จะมีค่าเยี่ยวยาให้ 1 แสนบาท กรณีที่เสียชีวิต ขณะที่ทางกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพืช ก็จะมีให้อีกด้วยบางส่วน ส่วนทางด้านสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสระแก้ว ปัจจุบันทำได้เพียงแค่การบรรเทาทุกข์เท่านั้น
————————–
ข่าว-ภาพโดย/สมศักดิ์ ปัญญาสัย ทีมข่าวสระแก้ว
