แม่ร้องสื่อ ลูกชายและเพื่อนไปร่วมการแข่งขันฟุตซอลที่โรงเรียนแห่งหนึ่งย่านลาดกระบัง ถูกคนร้ายย่องขึนรถของโรงเรียนซึ่งประตูเสีย และจอดอยู่ในที่เปลี่ยว ไปขโมยโทรศัพท์ของเด็ก ๆ ไป 10 เครื่อง รวมมูลค่ากว่า 163,900 บาท พอทราบเรื่องจากลูกจึงทำการกดแอพพลิเคชั่นตามหาโทรศัพท์ของรูปจนมาได้เบาะแสเป็นภาพผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งกำลังยืนกดปิดโทรศัพท์ของลูก
จากกรณี ผู้ใช้เฟสบุ๊ค นามว่า “เดินสายไปกับบังวาน” ได้โพสภาพ 3 รูป รูปที่ 1 เป็นภาพชายคนหนึ่งยืนอยู่ในร้านสะดวกซื้อ รูปที่ 2 เป็นชายคนดังกล่าวขี่รถจักยานยนต์ และรูปที่ 3 เป็นภาพที่ชายคนดังกล่าวยืนถือโทรศัพท์ พร้อมระบุข้อความว่า แจ้งข่าวประชาสัมพันธ์ บุคคลผู้นี้ได้เข้ามาทำการขโมยโทรศัพท์น้องๆนักกีฬาฟุตซอลของโรงเรียนเทพศิรินทร์ สมุทรปราการ ที่ได้มาทำการแข่งขันฟุตซอลที่สนามโรงเรียนพรตพิทยพยัต ลาดกระบัง ไปทั้งหมด 9 เครื่อง พี่น้องท่านใดเคยเห็นหรือรู้จักหรือได้เบาะแสเกี่ยวกับคนนี้โปรดกรุณาติดต่อกลับมายังเพจได้เลยครับ ตอนนี้ ผปค.น้องๆได้ทำการแจ้งความไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว #อย่างปล่อยให้คนชั่วลอยนวล
ข่าวน่าสนใจ:
- ทนายเกรียง พา สาวนักแข่งรถจักรยานยนต์ทีมชาติไทย แจ้งความดำเนินคดีกับนายกสมาคม ข้อหาหมิ่นประมาท และ พรบ.คอม
- อำเภองาวเตรียมจัดงาน “มหกรรมชาติพันธุ์จังหวัดลำปาง”
- ศค.จชต. สร้างการรับรู้สัญจร เพื่อขับเคลื่อนนโยบายการศึกษา “เรียนดี มีความสุข”…
- หนุ่มวัย 21 นัดเคลียร์กับรุ่นน้องวัย 16 แต่คุยกันไม่ลงตัวเกิดชกต่อยกัน ก่อนชักมีดแทงรุ่นน้องดับ
ล่าสุดเมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 20 กันยายน 2566 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับ นางสาว นุ้ย อายุ 45 ปี ซึ่งเป็นคุณแม่ของหนึ่งในเด็กที่ถูกขโมยโทรศัพท์ไป ได้นำใบแจ้งความมาให้ผู้สื่อข่าวดูพบว่า โทรศัพท์ของเด็กที่ถูกขโมยไปทั้งหมด 10 เครื่อง รวมมูลค่า 163,900 บาท
นางสาว นุ้ย เล่าว่า เมื่อวันที่ 18 กันยายน ที่ผ่านมา ลูกมีการแข่งขันที่โรงเรียนแห่งหนึ่งย่านลาดกระบัง หลังจากที่จบเกม เขาก็กลับมาที่รถ แล้วเขายืมโทรศัพท์เพื่อนโทรมาหา บอกตนว่าโทรศัพท์หาย รวมของคนอื่นๆด้วย10 เครื่อง ทั้งคันรถเลย ทำให้ตนตกใจมาก เลยถามลูกว่าขอดูกล้องเขารึยัง ลูกบอกว่าทางโรงเรียนบอกว่ากล้องเสีย เราก็เปิดจีพีเอสของลูกว่ามันอยู่ตรงไหน เราก็ขับตาม เพราะมันขึ้นโชว์อยู่ มันก็เป็นเหมือนปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง และเราก็ตามไป พอดูในกล้องแล้วเหมือนเขาปิดเครื่องตรงนั้น ซึ่งเป็นมุมที่อยู่ข้างเซเว่น ตนก็พยายามขอดูกล้องจากร้านเซเว่น แต่ทางเซเว่นให้ไปนำใบแจ้งความมาก่อน ตนจึงจะให้เด็กไปแจ้งความ ส่วนทางอาจารย์เขาก็มาที่ปั้มน้ำมัน เพื่อหวังที่จะขอดูกล้อง แต่ก็ไม่ได้ จึงพาเด็กเดินทางไปแจ้งความแล้ว พากลับมาขอดูกล้องที่ปั้ม และเซเว่น พอไปถึงเขาบอกว่ามันเป็นเวลาที่ไม่มีคนทำงาน ตนก็เลยเข้าไปในเซเว่นแล้วบอกพนักงานว่า ลูกของตนมาเล่นกีฬาแถวนี้ แล้วโดนขโมยโทรศัพท์ไปหมดเลย ประมาณ 10 เครื่อง พวกพนักงานเขาก็ตกใจ น้องบอกว่าพี่มีใบแจ้งความมาไหม ก็เลยเรียกอาจารย์มา เขาเปิดให้ และให้ดูเวลาว่า ที่จีพีเอสมันปิด เวลากี่โมง เขาก็เลยเข้าไปซูมดูเวลานั้นได้ เห็นว่ามีคนร้าย ใส่ชุดนี้ เด็กนักเรียนก็บอกว่าเห็นคนนี้เดินป้วนเปี้ยนอยู่ เขาก็เลยเรียกให้ไปชี้ว่าคนไหน เขาก็ชี้ว่าคนนี้เลย
คือในวันนั้นมีการแข่งขันหลายคู่ คนนอกสามารถเข้าไปได้ เลยเหมือนกับผู้ปกครองเข้าไปดู ส่วนโทรศัพท์ของเด็กๆ เขาอยู่บนรถของโรงเรียน แต่จังหวะที่ประตูรถมันเสีย ปิดไม่ได้ แต่เขาก็ใช้วิธีให้เด็กเก็บให้ดีแล้วใช้เชือกผูกรัดประตูไว้ และที่จอดรถตรงนั้นมันเปลี่ยวและลึก เด็ก ๆ แข่งเป็นทีมสุดท้ายของวันนั้น นักกีฬาทีมอื่น ๆ เขาก็กลับหมดแล้ว ช่วงที่หายเป็นช่วงที่น้องกำลังลงไปแข่งกัน ทุกคนต้องอยู่ในสนาม แม้กระทั่งอาจารย์ก็อยู่ในสนามกันหมด ตนรู้สึกสงสารน้องที่ต้องใช้โทรศัพท์ บางคนพ่อแม่ก็ซื้อให้ ยังผ่อนอยู่ก็มี เด็กที่ผ่อนเองก็มี ประวัติข้อมูลอะไรต่างๆ เขาเรียนก็ต้องใช้ คนร้ายเอาไปก็หวังจะได้เงิน คุณจะมาลักขโมยง่ายๆแบบนี้มันก็ไม่สมควร
นางสาว นุ้ย เล่าอีกว่า ลูกของตนตอนนี้มีอาการซึม ๆ เหมือนกับอยากได้ของตัวเองคืน ก็คงคิดว่าทำไม เราก็ไม่ได้วางไว้ในที่ไม่ปลอดภัย คนยังมาหยิบขโมยไปได้ เขาก็เศร้าเพราะมีทั้งรูป ความทรงจำ ข้อมูลต่างๆมากมาย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: