ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) นายศรัณย์วุฒิ ศรัณย์เกตุ อดีต ส.ส.จังหวัดอุตรดิตถ์ และ น.ส.รสรินทร์ ศรัณย์เกตุ ลูกสาวซึ่งเป็นที่ปรึกษา ประสานงาน และ ติดตามเรื่องการแก้ไขปัญหาที่ดินให้กับราษฎรได้รับผลกระทบจากการสร้างเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ พร้อมด้วยตัวแทนพี่น้องประชาชน อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ กว่า 30 คน นำโดยนายวิทูล นะถา ประธานคณะทำงานแก้ไขปัญหาที่ดินให้ราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากการ สร้างเขื่อนสิริกิติ์ เดินทางจากจังหวัดอุตรดิตถ์ มายังกระทรวง พม.เพื่อยืนเอกสารและหนังสือ นายวราวุธ ศิลปะ อาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ และ นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวง พม. ขอความเมตาเร่งรัดนำเรื่องร่างพระราชกฤษฎีกา จัดตั้งนิคมสร้างตนเองลำน้ำน่าน จังหวัดอุตรดิตถ์เข้าสู่ ครม.เพื่อให้สามารถดำเนินการออกเอกสาร สิทธิ์ ให้กับพี่น้องประชาชน อ.ท่าปลา ซึ่งเสียสละที่อยู่อาศัย ที่ดินทำกิน เพื่อสร้างเขื่อนสิริกิติ์ หลังรอคอยมานาน 55 ปี
ตัวแทนราษฎรอำเภอท่าปลาได้นำสำเนาหนังสือราชการ ที่เกี่ยวกับขั้นตอน ความคืบหน้าการ ดำเนินงานเรื่องที่ดิน จำนวน 4 ฉบับใส่กรอบขนาดใหญ่ พร้อม ซองสีน้ำตาลด้านในคือหนังสือเพื่อยื่น รมว.พัฒนาสังคม และความมั่นคงมนุษย์ และ ปลัดกระทรวง พม. และสำเนารายชื่อผู้ได้รับสิทธิ์ที่ดินอยู่อาศัยและทำกินในพื้นที่นิคมสร้างตนเองลำน้ำน่าน จ.อุตรดิตถ์ 1,013 ราย เมื่อไปถึงนายศรัณย์วุฒิ และ น.ส.รสรินทร์ ศรัณย์เกตุ ได้ประสาน จนท.ของกระทรวง พม. เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับความสะดวก และเข้าถึง จนท.ที่เกี่ยวข้อง จัดห้องประชุมชั้น 1 เพื่อรับทราบปัญหา ทั้งนี้นายศรัณย์วุฒิ เป็นตัวแทนพี่น้องประชาชน อ.ท่าปลา กล่าวถึงที่มาที่ไป ความเสียสละ ความทุกข์ยาก ตลอด 55 ปีหลังจากอพยพจากการสร้างเขื่อนสิริกิติ์ และยังไร้ซึ่งเอกสารสิทธิ์ โดยนายโชคชัย วิเชียรชัยยะ ผู้ตรวจราชการฯ และ น.ส.นภาพร เมฆาผ่องอำไพ รองอธิบดีกระทรง พม.รับทราบความต้องกร ปัญหา และ รับมอบหนังสือเพื่อนำเสนอจาก รมว.พัฒนาสังคมและความ มั่นคงมนุษย์ และ ปลัดกระทรวง พม. ดำเนินการแก้ไขปัญหาให้กับราษฎรอำเภอท่าปลา
นายศรัณย์วุฒิ กล่าวว่า ปัญหาที่ดินพี่น้องประชาชน อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ ที่เสียสละที่ดินทำกิน ที่อยู่อาศัย จากที่อุดมสมบูรณ์ เพื่อสร้างเขื่อนสิริกิติ์ และย้ายมาทำกิน อาศัยที่ดินราชการจัดสรรให้ ครอบครัวละ 15 ไร่ ตั้งแต่ปี 2511 นอกจาก 55 ปี จะหนีน้ำ มาอดน้ำแล้ว ปัญหาที่คาราคาซัง เหมือนโรคเรื้อรัง คือ ที่ดินนั้นไม่มีเอกสารสิทธิ์ หรือโฉนด มีเพียง น.ค.1 รับรองการทำกินและอาศัยเท่านั้น ซึ่งจริงๆแล้ว การดำเนินงานต่างๆไม่ได้ติดขัดหรือผิดต่อข้อกฎหมาย ขอเรียกร้องสิทธ์ที่ดินทำกินให้กับชาว อ.ท่าปลา รัฐบาลที่ผ่านมาจ่อจะเข้า ครม.อยู่แล้ว เมื่อติดช่วงเลือกตั้ง วันนี้ได้รัฐบาลใหม่ ชาวบ้านจึงมาติดตาม เร่งรัด และฝากถึงนายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯรัฐมนตรี ช่วยชาวท่าปลาได้มีเอกสารทสิทธิ์ ตามที่พวกเขาพึ่งได้รับ 55 ปี นายวิทูล กล่าวว่า 55 ปี ชาวอำเภอท่าปลาที่อพยพจากการสร้างเขื่อนสิริกิติ์ได้รับหนังสือ น.ค.1 รวมทั้งสิ้น 1,013 รายครอบครัวละ 15 ไร่ ยังไม่ได้รับเอกสารสิทธิ์เป็นโฉนดที่ดินทำกิน ตามที่ราชการรับปาก ไร้มรดกส่งต่อให้ลูกหลาน การ รวมกลุ่มในครั้งนี้ต้องการยื่นหนังสือเพื่อขอความเมตตาจาก นายวราวุธ ศิลปะ อาชา รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ เร่งแก้ไขปัญหา ทั้งนี้รัฐบาลที่ผ่านเตรียมจะเข้าสู่ ครม.อนุมัติแล้ว แต่มีการถอนเรื่องจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เมื่อมีรัฐบาล, นายกฯรัฐมนตรี และ รมว.พม.คนใหม่ ขอช่วยผลักดัน นำเรื่องเข้าสู่ ครม.ออกร่างพระราชกฤษฎีกา จัดตั้งนิคมสร้างตนเองลำน้ำน่าน จังหวัดอุตรดิตถ์ ให้ชาวท่าปลา ปรับเปลี่ยน น.ค.1 เป็น น.ค.2 และ น.ค.3 หรือโฉนดที่ดิน
“ขอความเมตตา แก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างจริงจัง ชาว อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ ได้เสียสละที่อยู่อาศัยและที่ดินทำกินอันอุดม สมบูรณ์ เพื่อก่อสร้างเขื่อนสิริกิติ์ ให้คนทั้งประเทศมีไฟฟ้าใช้ พวกเราต่อสู้ ดิ้นรนทุกช่องทางเพื่อให้ได้รับเอกสารสิทธิ์ ขอขอบคุณ นายศรัณย์วุฒิและน.ส.รสรินทร์ ศรัณย์เกตุ ที่ไม่ทอดทิ้งชาว อ.ท่าปลา เป็นที่ปรึกษา ให้คำแนะนำ ร่วมต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ ชี้ช่องทาง ช่วยเหลือ เพื่อให้เข้าถึงหน่วยงาน การดำเนินงานจะได้ต่อเนื่อง ไม่สะดุด เพราะอยากให้ชาวบ้านได้เอกสารสิทธิ์เป็นมรดกลูกหลาน” นายวิทูลกล่าว
ข่าวน่าสนใจ:
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: