จากกรณีเหตุการณ์ ช่วงเย็นของวันที่ 25 ก.ย.66 เรือสปีดโบ๊ทแบบ 2 เครื่องยนต์ พุ่งชนคู่รัก ชายต่างชาติกับหญิงไทย และ ถูกใบพัดเรือฟันร่างจมหายลงสู่ก้นทะเล เหตุเกิดบริเวณ หาดเทียน บ้านเกาะล้าน หมู่ 7 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี โดยขณะที่ พบร่างผู้เสียชีวิต เป็นหญิงไทยเพียงรายเดียว ทราบชื่อคือ นางสาว แอน (นามสมมติ) อายุ 20 ปี ถูกใบพัดเรือฟันเข้าตามจุดต่างๆ ของร่างกายจนเป็นแผลเหวอะหวะ ท่อนขาข้างขวาขาดสะบั้น ส่วนฝ่ายชายชาวต่างชาติ ทราบเบื้องต้นทราบว่า เป็นชาวรัสเซีย ยังจมหายไปในทะเล ทีมนักดำน้ำ มูลนิธิกู้ภัยสว่างบริบูรณ์ฯเมืองพัทยา พยายามดำน้ำค้นหา นานกว่า 3 ชม. แต่ก็ต้องยกเลิกภาระกิจ เนื่องจากกระแสใต้น้ำค่อนข้างแรง ส่วนคนขับเรือ ถูกตำรวจ สภ.เมืองพัทยา ควบคุมตัวได้แล้ว ทราบชื่อ คือ นาย ธวัชชัย ชมพูพวง อายุ 19 ปี อ้างว่าไม่รู้ตัวว่าขับเรือชน นทท.เบื้องต้น ถูกตำรวจตั้งข้อหา กระทำการโดยประมาทจนทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
ล่าสุดเมื่อเวลา 07.30 น. ( 27 ก.ย.66 ) ตำรวจ สภ.เมืองพัทยาประจำเกาะล้าน ได้รับแจ้งจากญาติผู้เสียชีวิตว่าพบศพลอยน้ำขึ้นมาเกยโขดหิน ฝั่งทางทิศเหนือของหาดเทียน บ้านเกาะบ้าน ม.7 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี จึงรีบรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ แล้วพร้อมด้วย หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ฯ เมืองพัทยา รุดไปทำการตรวจสอบ
เบื้องต้นพบศพชายชาวต่างชาติ ลอยคว่ำหน้าติดกับโขดหิน ห่างจากจุดอุบัติเหตุ เรือสปีดโบ๊ทพุ่งชนประมาณ 60-70 เมตร โดยสภาพศพ นุ่งกางเกงว่ายน้ำสีน้ำเงินตัวเดียว มีร่องรอยถูกใบพัดเรือเข้าที่ไหล่ซ้าย กลางแผ่นหลัง 2 แผล และบริเวณศีรษะถูกเรือกระแทก เสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 24 ชม. ทางตำรวจได้มอบหมาย ให้ทีมกู้ภัยนำร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาจากน้ำ เพื่อส่งศพชันสูตรและตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคล ที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ อย่างละเอียดอีกครั้ง
เบื้องต้นญาติของผู้ตายซึ่งเป็นหญิงไทย คนที่พบคนแรกเปิดเผยได้มานอนพักที่เกาะล้าน เพื่อพยายามหาผู้เสียชีวิตตั้งแต่วันแรก และเมื่อเช้าได้เดินทางออกมาตามหาตามปกติ และเดินมาที่โขดหินจนมาพบและได้ยืนยันว่า ผู้ตายคือ ชาวรัสเซีย เหยื่ออุบัติเหตุถูกเรือสปีดโบ๊ตพุ่งชน และ ใบพัดเรือฟันร่าง จมหายไปในทะเล
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ส่วนหนึ่งของอุบัติเหตุครั้งนี้มาจากบริเวณชายหาดที่นักท่องเที่ยวลงไปว่ายน้ำ ไม่มีทุ่นกันแนวเขตว่ายน้ำ ซึ่งเป็นสาเหตุส่วนหนึ่ง ซึ่งแต่ก่อนมีแต่ได้ชำรุดเสียหายไป ซึ่งวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ไขเพราะอาจจะเกิดเหตุกการณ์ซ้ำแบบนี้อีกครั้ง
