ตรัง “ศาลเจ้าซียับ” เปิดศาลไหว้พระจันทร์อย่างเรียบง่าย แปลก นำหอยขมเป็นเครื่องไหว้มงคล สื่อถึงความมีกินไม่อดอยาก กับความเชื่อ หากได้กินหอยขมในคืนเดือนเพ็ญจะมีดวงตาสุขสกาวสดใส
วันที่ 29 กันยายน 66 เวลา 19.00 น.ที่ศาลเจ้าซียับ ศาลเจ้าเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี ที่แฝงตัวอยู่ในย่านตึกเก่า ถ.กันตัง ต.ทับเที่ยง อ.เมืองตรัง เปิดศาลเจ้าในเทศกาลไหว้พระจันทร์ ให้ประชาชนได้ร่วมไหว้พระจันทร์ และไหว้สักการะองค์ศักดิ์สิทธิ์ภายในศาลเจ้า เพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งทางคณะกรรมศาลเจ้าได้จัดโต๊ะไหว้พระจันทร์ตามแบบชาวจีนกวางตุ้ง ที่นอกจากจะมีขนมไหว้พระจันทร์ ขนมเปี๊ยะ ขนมโก๋ และผลไม้มงคลแล้วนั้น บนโต๊ะไหว้พระจันทร์ยังมีหอยขมหรือหอยนา เผือก รากบัว กระจับเขาควาย อ้อย เป็นของไหว้มงคลสำหรับเทศกาลนี้ด้วย
ในขณะเดียวกันบริเวณหน้าศาลเจ้ายังได้จัดโต๊ะ-เก้าอี้ ให้ผู้ที่มาไหว้พระจันทร์ได้นั่งรับประทานแกงหอยขม บะหมี่ ดื่มน้ำชาร่วมกัน เพราะชาวไทยเชื้อสายจีนกวางตุ้งที่จังหวัดตรังมีความ เชื่อว่า หอยขมหรือหอยนา หมายถึงความอุดมสมบูรณ์ เปรียบเหมือนสุภาษิตที่ว่า “ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ” หากใครได้รับประทานหอยขมในคืนไหว้พระจันทร์ มีดวงตาที่สว่างไสว ครอบครัวมีความสุขสมบูรณ์ มีกินไม่อดอยาก
ข่าวน่าสนใจ:
โดยบรรยากาศภายในศาลเจ้าเป็นไปด้วยความเรียบง่าย อบอุ่น พ่อแม่จูงบุตรหลาน มาไหว้พระจันทร์เพื่อความเป็นศิริมงคล และร่วมสืบสานวัฒนธรรมอันดีงาม ในขณะที่ผู้สูงวัยได้มาพบปะพูดคุยกัน
นพ.วิชิต อร่ามนิตย์ ผู้ประสานงานศาลเจ้าซียับ บอกว่า การที่มีหอยขม หรือหอยนา โดยภาษาจีนเรียกว่า จิ่น หลอ เป็นเครื่องไหว้ในเทศกาลไหว้พระจันทร์ หมายถึงความไม่อดอยาก คนจีนบอกว่าถ้าไม่มีอาหารให้เดินไปที่นาอย่างน้อยก็มีหอยให้กิน และหากหากได้กินหอยในคืนเดือนเพ็ญหรือคืนพระจันทร์เต็มดวง ดวงตาจะกลับมาสดใส ดวงตากลับมาสุขสกาวเหมือนดวงตาวัยหนุ่มสาว คืนนี้ศาลเจ้าได้แจกจ่ายแกงหอย และผัดหมี่ให้ผู้ร่วมงานได้รับประทาน นอกจากนี้ของที่ใช้ไหว้ยังสื่อความหมายถึงภาษา วัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ ของจีนกวางตุ้ง เช่น กระจับเขาควาย หมายถึงความฉลาดหลักแหลม รากบัว หมายถึงความสวยงาม เจิดจรัส เหมือนดาวล้อมดวงจันทร์ เผือกหมายถึงมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ปกปักรักษา การปกป้องบ้านเมือง ที่เชื่อมโยงกับประวัติศาสตร์การกู้ชาติของชาวจีน ที่จะโค่นล้มมองโกล จึงนัดหมายในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 8 โดยเอาประเพณีมอบขนมไหว้พระจันทร์ให้กันมาบังหน้า ตบตาพวกมองโกล แอบสอดจดหมายในไส้ขนมเปี๊ยะเพื่อนัดแนะวัน จนในที่สุดสามารถโค่นล้มมองโกลได้สำเร็จ
โดยศาลเจ้าซียับ มาจากการที่ชาวจีนกวางตุ้งจาก 4 อำเภอ ย้ายมาตั้งรกรากไม่ว่าจะในประเทศใดของโลก เมื่อตั้งหลักปักฐานได้ก็จะจัดตั้งศาลเจ้าซียับขึ้นที่ประเทศนั้นๆ ศาลเจ้าซียับที่จังหวัดตรังถือเป็นแห่งเดียวในประเทศไทย มีอายุกว่า 100 ปี เดิมบริเวณนี้เป็นสวนพริกไทย ศาลเจ้าเป็นเพียงกระท่อมเล็กๆ เมื่อพระยารัษฎานุประดิษฐ์ย้ายเมืองจากอำเภอกันตังมาที่เมืองทับเที่ยง ก็ได้รื้อสวนพริกไทยออกไปแล้วสร้างตึกแถวย่านเมืองเก่านี้ขึ้นมา ศาลเจ้าก็ได้ตั้งอยู่ตรงนี้มาตั้งแต่นั้นมา และปรับสถานะเป็นสมาคมญาติมิตรสามัคคี ซึ่งศาลเจ้าซียับจะเปิดให้คนทั่วไปเข้าสักการะองค์ศักดิ์สิทธิ์เฉพาะเทศกาลสำคัญเท่านั้น
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: