ตรัง-ขานรับ 1 ต.ค. ฟรีวีซ่า ศาลเจ้าตรัง ชวนนักท่องเที่ยวจีนเที่ยวงานกินเจตรัง เก่าแก่ที่สุดในประเทศ ชาวตรังพร้อมต้อนรับดูแล เมืองเล็ก ๆ สงบปลอดภัย ชูจุดขาย ชวนคนจีนกลับมาดูเมล็ดพันธุ์จีนโพ้นทะเลงอกงามบนแผ่นดินสยาม หวังดึงเม็ดเงินขับเคลื่น ศก. เผย ช่วงเทศกาล ยอดจองที่พัก-ตั๋วเครื่องบิน-ร้านอาหาร เต็ม
นายจิระศักดิ์ ทับเที่ยง ประชาสัมพันธ์ศาลเจ้ากิวอ่องเอี่ย ศาลเจ้าเก่าแก่ของจังหวัดตรัง กล่าวว่า ทุก ๆ ศาลเจ้าในจังหวัดตรัง จะเริ่มพิธีปั้งเอี๋ยหรือวางหลักทหาร ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณการเริ่มกินเจของจังหวัดตรัง ซึ่งปีนี้จังหวัดตรังมีเทศกาลถือศีลกินผักระหว่างวันที่ 15-23 ตุลาคม เชื่อว่ามาตรการฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวจีนวันที่ 1 ตุลาคม จะส่งผลให้จังหวัดตรังมีนักท่องเที่ยวชาวจีนสนใจมาท่องเที่ยวในวิถีกินเจแบบตรังมากขึ้น เพราะเป็นการกินเจในแบบดั้งเดิมที่สืบทอดกันมายาวนาน ทั้งเรื่องราวของความเชื่อ การกิน การอยู่ การใช้ชีวิต พิธีกินเจที่ตรังมีความแตกต่างจากที่อื่นในทุกเรื่อง เริ่มต้นตั้งแต่การแต่งกาย เสื้อกินเจชาวตรังจะเป็นผ้าฝ้ายสีข้าว กระดุม 7 เม็ด จะมีผ้าพันขา ส่วนการไปศาลเจ้า จะมีการไหว้พระ เติมน้ำมันตะเกียง การประทับตราคอเสื้อด้านหลัง ทั้งหมดเป็นการใช้ชีวิตในช่วงกินเจ ส่วนการกินก็จะแฝงไปด้วยความเชื่อ กระบวนการในการกินทั้ง 9 วัน จะส่งผลให้ร่างกายและสุขภาพดีขึ้น
นายจิระศักดิ์ กล่าวว่า เทศกาลกินเจจะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เพราะในช่วงเทศกาลตั๋วเครื่องบินเต็ม ที่พักเต็ม ร้านอาหารมียอดจองเต็ม ทุกศาลเจ้ามีการจองโต๊ะรับองค์ศักดิ์สิทธิ์ จองธูปเทียน ทั้งหมดจะเป็นการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัด เมื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติได้มาดูอัตลักษณ์ของเรา เม็ดเงินก็จะตกอยู่กับจังหวัดตรัง ดังนั้นนโยบายฟรีวีซ่า ตนเชื่อว่าจะมีผลต่อนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมายังจังหวัดตรัง เพราะในวิถีความเชื่อ พิธีกรรมต่าง ๆ เหมือนเมล็ดพันธุ์ที่เราได้เอามาจากมณฑลฮกเกี้ยน ประเทศจีน ตามการอพยพมาของชาวจีนโพ้นทะเลในอดีต
เมล็ดพันธุ์เหล่านั้นก็ได้มาฝังอยู่ที่จังหวัดตรัง ประเพณีถือศีลกินผักจังหวัดตรังทั้งหมดก็ได้เจริญงอกงามมาเรื่อยๆ ชาวจีนที่จะเดินทางมาท่องเที่ยวงานกินเจจังหวัดตรังจะได้เห็นว่า เมล็ดพันธุ์ของพวกเขาสู่แดนสยาม ได้มาเจริญกลายเป็นป่าอยู่ที่จังหวัดตรัง และชาวตรังทุกคนพร้อมยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลกินเจ เราเป็นเมืองเล็ก ๆ สงบ แต่เรื่องความปลอดภัย มั่นใจได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ เพราะคนตรังรู้จักกันหมด ช่วยกันสอดส่องดูแลนักท่องเที่ยวเหมือนญาติมิตร
