ที่ตลาดกลางผลไม้นานกกก ต.นานกกก อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นตลาดกลางรับซื้อผลผลิตลองกองที่ใหญ่ที่สุดของภาคเหนือ ชาวสวนทั้งอำเภอลับแลและอำเภอเมืองอุตรดิตถ์ ต่างลำเลียงผลผลิตลองกองที่ตัดสดๆ จากสวน เสนอขายพ่อค้าแม่ค้าคนกลางที่เปิดแผงรับซื้อ ซึ่งเป็นช่วงที่ลองกองออกสู่ตลาดเป็นจำนวนมาก ทำให้บรรยากาศที่ตลาดกลางฯ เนื่องแน่นไปด้วยชาวสวนที่ต้องการขายผลผลิต ในขณะที่ภายในตลาดกลางฯ พ่อค้าแม่ค้าเดินเลือกซื้อ ตกลงราคากับ ชาวสวน พึ่งพอใจก็ขาย แต่ด้วยราคาลองกองปีนี้ไม่สู่ดีนัก เกรดคละรวม อยู่ที่กิโลกรัมละ 10-11 บาท ต่างจากปีที่ผ่านมา เท่าตัว โดยปีที่ผ่านมาเริ่มต้นที่กิโลกรัมละ 20 บาท ทำให้ชาวสวนลองกองลับแลและเมืองอุตรดิตถ์ประสบปัญหา
นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน พร้อมด้วย จนท.ที่เกี่ยวข้องจากกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การรับซื้อผลผลิตลอง รับฟังปัญหาพร้อมเร่งให้ความจัดมาตรการให้ช่วยเหลือ โดยมี นายวรี เล็กอุทัย , นายวารุจ ศิริวัฒน์ , น.ส.กฤษณา สีหลักษณ์ ส.ส.จังหวัดอุตรดิตถ์ พรรคเพื่อไทย และ นายชัยศิริ ศุภรักษ์จินดา นายก อบจ.อุตรดิตถ์ และนายศิวัช ฟูบินทร์ นายอำเภอลับแล ร่วมลงพื้นที่ด้วย
นายกรนิจ กล่าวว่า ด้วยลองกอง ภาคใต้และภาคเหนือ ออกสู่ตลาดพร้อมๆ กัน และเพิ่มขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา เกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ ผลผลิตทั้งประเทศ 77,000 ตัน เพิ่มร้อยละ 84 ส่วนของภาคเหนือ 37,000 ตัน เพิ่มร้อยละ 78 เฉพาะ จ.อุตรดิตถ์มีผลผลิต 30,437 ตัน เพิ่มขึ้นมากถึงร้อยละ 129 เมื่อผลผลิตมากและออกสู่ตลาดพร้อมๆ กัน ส่งผลกระทบต่อราคาที่ตกต่ำ กระทรวงพาณิชย์ ได้สั่งการกรมการค้าภายใน ติดตามสถานการณ์ผลผลิต ที่ จ.อุตรดิตถ์พบว่าผลผลิตออกแล้วร้อยละ 40 คงเหลือประมาณ 18,000 ตัน ซึ่งจากการติดตามลองกองช่อราคายังอยู่ได้ กิโลกรัมละ 35 บาท ที่น่าห่วงคือเกรดคละซึ่งเป็นผลผลิตของเกษตรกรร้อยละ 70 ประมาณ 11,000 ตัน
“กรมการค้าภายใน จึงประสานผู้ประกอบการ ผู้ส่งออก ผู้รวบรวม เข้าเปิดจุดรับซื้อแล้ว 2,500 ตัน โดยร่วมกับห้างท้องถิ่นทั่วประเทศ 125 จุด 25 จังหวัด เปิดขาย 3 รอบแล้ว ที่เหลือได้จัดสรรงบประมาณให้จังหวัดสนับสนุนค่าบริหารจัดการให้ผู้ประกอบการในพื้นที่เข้ามาเร่งซื้อผลผิต 6,000 ตัน เริ่มซื้อแล้วเชื่อว่าภายใน 10 วันบรรยากาศรับซื้อจะคึกคัก เช่น ที่ตลาดนานกกก มี 120 แผง นอกจากนี้ยังเพิ่มในส่วนของจุดจำหน่ายห้างท้องถิ่นอีก 1,000 ตัน 125 จุด และรถโมบายกระทรวงพาณิชย์วิ่งขายในส่วนกรุงเทพ 500 ตัน รวมทั้งหมด 7,000 ตัน จากการติดตามหลังเข้ามากระตุ้นภาคการตลาด ทำให้ราคาเกรดคละอยู่ที่ 13-15 บาท ซึ่งยังพอไปได้”
นายกรนิจ กล่าวว่า เข้าสู่ช่วงผลผลิตลองกองมีอยู่ร้อยละ 60 และเป็นผลไม้ไทยตามฤดูกาลส่งท้ายปี ลองกองลับแลคุณภาพดี เชิญชวนพี่น้องประชาชน ผู้บริโภค ซื้อและรับประทานลองกองลับแล ช่วยเหลือเกษตรกร นอกจากนี้ยังกำชับพาณิชย์จังหวัดและการค้าภายในจังหวัดอุตรดิตถ์ ติดตามการรับซื้อเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของโครงการ ให้เกษตรกรได้รับผลประโยชน์อย่างแท้จริง ไม่ให้ผู้ประกอบการฉวยโอกาสกดราคา และ หยุดรับซื้ออย่างเด็ดขาด
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: