ครอบครัวหนุ่มแรงงานไทย วอนหน่วยงานรัฐเร่งช่วยเหลือลูกชาย หลังถูกจับเป็นตัวประกัน ที่อิสราเอล
จากกรณีที่เกิดมีการปะทะกันในฉนวนกาซ่า ของกลุ่มติดอาวุธฮามาส ก่อเหตุ โจมตีประเทศอิสราเอล หลังก่อเหตุได้มีการจับตัวประกันไปหลายคน โดยหนึ่งในนั้นมี นาย มีนายณัฐพร อ่อนแก้ว อายุ 26 ปีเป็นชาวบ้านหนองแสง หมู่ 5 ต.นามะเขือ อ.ปลาปาก จ.นครพนม ซึ่งได้ไปทำงาน ประเทศอิสราเอล ตั้งแต่ปี 2564
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ ที่บ้านหนองแสง หมู่ 5 ต.นามะเขือ อ.ปลาปาก จ.นครพนม โดยบรรยากาศที่บ้านของนายณัฐพร มีเพื่อนบ้านและญาติ ๆ ที่ทราบข่าวได้เดินทางมา สอบถามข้อมูลและให้กำลังใจครอบครัวนายณัฐพร เป็นจำนวนมาก โดยนั่งมี นายธวัชชัย อ่อนแก้ว อายุ 47 ปี และนาง นางทองคูณ อ่อนแก้ว อายุ 47 ปี ซึ่งเป็นบิดาและมารดาของณัฐพร อ่อนแก้ว หนึ่งในแรงงานไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกันในครั้งนี้ คอยต้อนรับและตอบคำถามต่าง ๆ ตลอดเวลา
นายธวัชชัย เปิดเผยว่า ตนมีบุตร 2 คน คนโตคือนายณัฐพร อายุ 26 ปี ส่วนคนเล็กเป็นลูกสาว อายุ 12 ปี โดย โดยก่อนหน้านี้ตนก็เคยเดินทางไปขายแรงงานที่ประเทศอิสราเอลมาแล้วตอนหลังสุขภาพไม่ดี ป่วยเป็นเบาหวาน จึงได้ให้ลูกชายไปขายแรงงานแทนโดยผ่านกรมแรงงานเสียค่าคอมมิชชั่นไปราวๆ หกหมื่นบาทและได้เดินทางไปทำงานตั้งแต่ปี 2564 โดยทุกวันตนและครอบครัวจะติดต่อกับลูกชายเป็นปกติโดยสนทนาผ่านเฟสบุ๊ค แต่ตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม ก็ไม่สามารถติดต่อลูกชายได้อีก และมาทราบข่าวว่ามีการปะทะกันในพื้นที่ที่ลูกชายทำงานอยู่ และมีคนไทยถูกยิงบาดเจ็บและบางส่วนก็ถูกจับไปเป็นตัวประกัน ซึ่งเมื่อเห็นรูปจากภาพข่าวที่เผยแพร่ทางสื่อต่าง ๆ ก็จำลูกชายได้ทันที
ส่วนนางทองคูณ อ่อนแก้ว อายุ 47 ปี แม่ของนายณัฐพร กล่าวทั้งน้ำตาว่า อยากให้ทางรัฐบาลเร่งให้การช่วยเหลือลูกชาย อย่างปลอดภัยโดยเร็ว ส่วนตัวรู้สึกเป็นห่วงลูกชายมาก หลังทราบข่าวว่าถูกจับเป็นตัวประกันก็นอนไม่หลับ ได้แต่สวดมนต์ภวนาขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองลูกชายให้แคล้วคลาดปลอดภัย โดยนายณัฐพร หรือตั้ม ลูกชาย ได้เดินทางไปทำงานที่ประเทศอสราเอลตั้งแต่ปี 2564 โดยทำงานอยู่ในฟาร์ม เกษตร บริเวณฉนวนกาซ่า ซึ่งเป็นเขตแดนที่มักจะมีการกระทบกระทั่งกันบ่อยมาก ซึ่งตนอยากขอให้รัฐบาลไทยเร่งให้การช่วยเหลือโดยด่วนด้วย โดยตนได้รับการแจ้งข่าวว่าวันนี้ 8 ตุลาคม 2566 นายอำเภอปลาปากจะเดินทางมาสอบถามข้อมูลต่าง ๆ เนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดราชการ จึงยังไม่มีหน่วยงานใด ๆ ติดต่อมา
ส่วนนางศรีสมร ราศี อายุ 53 ปี ป้าของนายวสันต์ มั่นนันท์ ชาวบ้านกุดตาไก้ ที่เดินทางไปทำงานที่อิสราเอลด้วยเช่นกันเปิดเผยว่าหลังเกิดเหตุตนได้พูดคุยติดต่อกับหลานชายตลอดเวลา โดยหลานชายคือนายวสันต์ แจ้งว่าพื้นที่ที่ตนเองอาศัยอยู่ในปัจจุบันจะมีการยิงระเบิดถล่มมาอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา ถ้าเป็นไปได้ก็อยากเดินทางกลับบ้านทันที่ เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงอันตรายมาก จึงอยากให้ทางรัฐบาลหาทางช่วยเหลือด่วนด้วย
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: