8 ต.ค. 2566 จากกรณีที่กลุ่มติดอาวุธฮามาสบุกโจมตีอิสราเอล ส่งผลให้มีแรงงานไทยถูกยิงเสียชีวิต 2 รายและส่วนหนึ่งถูกจับเป็นตัวประกัน ซึ่งหนึ่งในผู้ที่ถูกยิงเสียชีวิตคือนายสมควร พันสะอาด หรือเคน เป็นชาวจังหวัดกาฬสินธุ์ แต่มีภรรยาเป็นชาวนครพนม ถูกยิงขณะกำลังนั่งรับประทานอาหารมื้อเย็น กับเพื่อนร่วมงาน และถูกกลุ่มติดอาวุธบุกโจมตี แต่หนีหลบภัยไม่ทัน จนถูกยิงเสียชีวิต ในที่สุด
นางสาวรุ่งทิวา เรืองฤทธิ์ หรือ บ๋อมอายุ 31ปี อยู่บ้านที่ 49 หมู่ที่ 6 บ้านดงยอ ตำบลนาถ่อน อำเภอธาตุพนม จังหวัดนครพนม ภรรยานายสมควร พันสะอาด หรือเคน อายุ 39ปี ชาว อ.เมือง จ.กาฬสินธุ์ เปิดเผยว่า ตนได้อยู่กินกับนายเคน สามีมากว่า 4ปี ต่อมาจากด้วยปัญหาทางเศรษฐกิจและการแพร่ระบาดของเชื้อโควิค 19 ทำให้ครอบครัวต้องมีหนี้สินจึงต้องตัดสินใจเดินทางไปขายแรงงานที่ประเทศอิสราเอล โดยตนได้กู้เงิน ธ.ก.ส.จำนวน 120,000 บาท เพื่อให้สามีใช้วิ่งเต้นเดินเรื่องไปขายแรงงานยังประเทศอิสราเอล โดยทำงานเป็นคนงานเก็บผลผลิตในสวนกล้วย โดยสมัครผ่านกรมแรงงานอย่างถูกต้องและได้เดนทางประมาณปลายเดือน พฤศจิกายน 2565 ซึ่งก่อนจะถูกยิงเสียชีวิตแค่ 1 ชั่วโมง สามีรู้ว่าเกิดการสู้รบกันจึงได้วีดีโอคอลมาคุยกับตนตั้งแต่เช้า โดยไม่ได้วางโทรศัพท์เลย น.ส.รุ่งทิวา เล่าด้วยอาการน้ำตาคลอเบ้าว่า เพื่อนในแคมป์พักคนงาน เล่าว่า ขณะเกิดเหตุ สามีและเพื่อนร่วมงานกำลังอยู่ระหว่างรับประทานอาหารเย็นและ พักผ่อนอยู่ด้วยกันราว ๆ 30 คนเมื่อถูกโจมตี เพื่อนคนอื่นได้วิ่งหนีไปหมด แต่สามีตนกระโดดหน้าต่างหนีไม่ทัน จึงถูกกลุ่มติดอาวุธจับตัวไป ก่อนถูกรัวยิงจนเสียชีวิตช่วง 5 โมงเย็นกว่าๆ จนช่วงเที่ยงคืนวันที่ 7 ต.ค.66 เพื่อนคนงานในแคมป์ก็ วิดีโอคอลมาบอกตนว่าสามีตนถูกยิงเสียชีวิตแล้ว หลังรู้ข่าวถึงกับช็อก รู้สึกเสียใจมาก กินไม่ได้นอนไม่หลับเลย
นายสิทธิชัย พรมน้อย อายุ 64 ปี กล่าวถึงนายเคน หลานเขยว่า เสียดายต่อการเสียชีวิตของหลานเขยคนนี้มาก เพราะเป็นคนที่อัธยาศัยดีต่อครอบครัวและเพื่อนบ้าน พยายามสูงหนักเอาเบาสู้ต้องการให้ชีวิตความเป็นที่ดีขึ้น แต่ภาระหนี้สินที่สะสมมาตั้งช่วงแพร่ระบาดโควิด 19 และปัญหาการกินอยู่ทำให้ต้องตัดสินใจกู้เงินเพื่อเดินทางไปทำงานยังต่างประเทศ จนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น ทั้งนั้นในหมู่บ้านละแวกใกล้เคียงกัน ยังมีชาวบ้านอีกไม่น้อยที่เดินทางไปทำงานยังประเทศอิสราเอล ก็อดเป็นห่วงถึงความปลอดภัยไม่ได้ จึงอยากขอวิงวอนทางภาครัฐเร่งช่วยเหลือให้ความปลอดภัยต่อชีวิตคนงานไทยที่เหลือด้วย อยากจะให้เดินทางกลับมาก่อนเพื่อรักษาชีวิตในขณะนี้ แต่ก็อดคิดถึงหนี้สินที่กู้ยืมมาเพื่อจ่ายค่าคอมมิชชั่นในการเดินทางไปทำงาน ซึ่งยังใช้หนี้ไม่หมดก็มี
สำหรับแนวทางให้ความช่วยเหลือเยียวยา นางสาวรุ่งทิวา เรืองฤทธิ์ แจ้งว่าขณะนี้ได้มีเจ้าหน้าที่ของ สำนักงานแรงงานจังหวัดนครพนมเดินทางมาปลอบขวัญและให้กำลังใจพร้อมทั้งแจ้งถึงสิทธิประโยชน์จากการสูญเสียสามี จากนี้ตนก็จะรอฟังความคืบหน้าถึงการนำร่างสามีกลับมาเพื่อบำเพ็ญกุศลตามประเพณี คาดว่าจะนำร่างไปฌาปกิจยังบ้านเกิดของสามีที่จังหวัดกาฬสินธุ์ต่อไป
