ใจแทบสลายแม่เฒ่า 66 ชัยภูมิ วอนช่วยไร้ที่อยู่ถูกฟ้องไล่ออกจากที่ดินตัวเองในอีกไม่เกินสิ้นเดือนพ.ย.นี้
สุดใจแทบสลายหลังไม่รู้เรื่องที่มาที่ไปว่าอยู่ดีๆที่ดินที่เหลือสร้างบ้านพักอาศัยของตนเองกับสามีที่พากันเก็บเงินหาซื้อมาได้ตั้งแต่ปี 2522 หลังสามีเสียชีวิตมาตั้งแต่ช่วง4ปีที่ผ่านมา ที่ดินดังกล่าวกลับกลายตกไปเป็นของบุคคลอื่นและจนล่าสุดมีคำสั่งศาลจากกรมบังคับคดีมาถึงบ้าน ให้แม่เฒ่ารายนี้ต้องรีบย้ายออกจากพื้นที่ดังกล่าวอีกภายในไม่เกินสิ้นเดือน พ.ย.นี้ ต้องกลายเป็นคนไร้ที่อยู่ยามแก่ไม้ใกล้ฝังวัย66ปีและไม่รู้จะไปพึ่งใครได้อีกแล้ววอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งยื่นมือช่วยเหลือ….
( 21 พ.ย.60 ) ขณะที่จ.ชัยภูมิ นางบุญมี สมศรี อายุ66ปี อยู่บ้านเลขที่165หมู่1ต.หนองบัวระเหว อ.หนองบัวระเหว จ.ชัยภูมิได้ออกมาฝากวิงวอนผ่านสื่อมวลชนเพื่อขอความเป็นธรรมไปถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังจากที่ ที่ดินสร้างบ้านของตนเองที่เหลือไม่ถึงไร่เพียงกว่า 1 งานเศษ ที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัยในปัจจุบันเป็นผืนสุดท้ายของชีวิตที่เหลือได้พอซุกหัวนอนอาศัยอยู่ แต่ปัจจุบันกลับอยู่ดีๆมาถูกฟ้องให้ขับไล่ให้ออกจากที่ดินดังกล่าวภายในไม่เกินสิ้นเดือนพ.ย.นี้ ที่เหลือเวลาอีกไม่ถึง 10 วันที่เหลือจากนี้ไป
โดยนางบุญมี กล่าวว่าที่ดินแปลงดังกล่าวตนและสามีได้ซื้อต่อจากญาติกันมาตั้งเมื่อปี2522 หลังที่ต้องพากันทนทุกข์ไม่มีที่อยู่ต้องขอนอนตามกระท่อมไปทั่วไม่มีที่อยู่ และในช่วงนั้นทั้งตนเองและสามี ได้ช่วยกันพยายามออกรับจ้างหาเงินมาช่วยกันซื้อที่ดินดังกล่าวไว้และได้พากันสร้างบ้านหลังเล็กๆนี้อยู่ด้วยกันมาจนปัจจุบัน เมื่อช่วง 4 ปีก่อนสามีเองได้เสียชีวิตจากไปก่อน
ข่าวน่าสนใจ:
ซึ่งในส่วนที่ดินดังกล่าว เป็นของสามีและตนเองเป็นผู้ครอบครองร่วมกันมาตามหนังสือสัญญาซื้อขายเมื่อปี 2522 ที่ช่วงนี้ซื้อในราคา 1,800 บาท ก็ถือว่าแพงมากแล้ว แต่ต่อมาก็ไม่ทราบได้เช่นกันว่า มีทางญาติได้ขายที่ติดกันให้กับอีกคนและได้นำขึ้นโฉนดเอาไว้โดยมีชื่อสามีตนเองคือนายนายประสิทธิ์ สมศร สามีตนเป็นผู้ครอบครองร่วมกันกับเพื่อบ้านอีกคนที่มาซื้อที่ดินติดกัน โดยถือครองโฉนดใบเดียวกันและไม่ได้แบ่งแยกใบโฉนดที่ดินแย่งไว้ให้ ด้วยความถือใจซื่อเพราะเพื่อนบ้านที่ซื้อก็รู้จักกันมานานแล้ว โดยที่ดินแปลงดังกล่าวตนก็ได้อยู่อาศัยมาตั้งแต่ปี2522ปัจจุบันก็38ปีเศษแล้วแต่ก็ไม่คิดว่าจะมาเจอเหตุการณ์เช่นนี้ได้
ซึ่งเมื่อ4ปีที่ผ่านมาสามีตนมาตายจากตนก็ได้อาศัยอยู่บ้านเพียงลำพังยิ่งมาเจอแบบนี้ก็ไม่รู้จะไปพึ่งใคร และอยู่อย่างไรได้อีกแล้ว ซึ่งล่าสุดมีหนังสือจากศาลและกรมบังคับคดีมาถึงเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาเพื่อให้ตนเองออกจากพื้นที่บ้านของตนเองภายใน 30 วัน และนี่ก็วันที่ 21 แล้ว เหลือเวลาอีกไม่ถึง 10 วัน ก็ไม่รู้จะไปหาที่อยู่ที่ไหนได้อีกแล้ว ซึ่งมีลูกด้วยกัน 2 คนเขาก็หนีหายไปทำงานยังต่างจังหวัดอื่นกันหมดแล้ว
ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าจะไปหาที่อยู่ที่ไหนต่อไปเพราะตนก็ไม่มีดินแปลงอื่นอีกเลยมีเพียงบ้านและที่ดินที่เหลือผืนสุดท้ายของชีวิตจนอายุกว่า 66 ปีแล้ว เพียง 1งานเศษ ที่ตนเองกับสามีร่วมกันหาไว้แห่งนี้เท่านั้นเอง
จึงอยากฝากวิงวอนหน่วยงานผู้มีส่วนเกี่ยวข้องในด้านนี้ช่วยเหลือและให้ความเป็นธรรมในครั้งนี้ด้วย เพราะตนเองไม่รู้จะไปพึ่งใครได้อีกแล้ว ทุกวันนี้คิดหนักกินไม่ได้นอนไม่หลับแม้แต่เวลากินข้าวก็ต้องกินข้าวทั้งน้ำตาจึงขอวอนให้หน่วยที่เกี่ยวข้องช่วยแก้ไขปัญหาให้ด้วย ที่เหลือเวลาอีกไม่ถึง 10 วันแล้ว จะไปหาที่ใหม่ไหนได้อีกแล้ว ซึ่งหวังว่าที่ดินที่เหลือเพียง1งานเศานี้จะเป็นผืนสุดท้ายที่จะอยู่ไปจนหมดลมหายใจครั้งสุดท้ายของชีวิตในครั้งนี้ด้วย
รายงานโดย – Suttipong77kd@cp
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: