กู้ภัยตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกับหลายหน่วยงาน จัดซ้อมแผนกู้ชีพกู้ภัยกรณีเกิดอุบัติเหตุบนท้อง เพื่อเตรียมพร้อมรับมือเทศกาลปีใหม่ 2562 นี้ โดยจำลองสถานการณ์รถยนต์เฉี่ยวชน จักรยานยนต์เสียหลักไปชนต้นไม้มีผู้ได้รับบาดเจ็บติดภายในและมีเพลิงลุกไหม้รถ ซึ่งเป็นอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง
ข่าวน่าสนใจ:
- กกต.ตรัง พร้อมเปิดสนาม จัดเลือกตั้งอบจ. เปิดยิม 4,000 ที่นั่งรับสมัคร พื้นที่กว้างขวางรองรับกองเชียร์ผอ.กกต.ตรัง เผยการข่าวพบ 3…
- ตรัง ชาวบ้านสืบสานอนุรักษ์การปลูกข้าวไร่ไว้กินเองครอบครัวเหลือขาย
- มุกดาหาร ชาวคริสต์นับหมื่น ร่วมฉลอง 84 ปี วีรกรรมแห่งความเชื่อ ณ สักการสถานพระมารดาแห่งมรณสักขีสองคอน
- เพชรบูรณ์ - ว่าที่ผู้สมัครชิง ส.อบจ.เพชรบูรณ์หน้าใหม่ บุกหนักขยันลงพื้นที่
วันที่ 12 ธันวาคม 2561 การจำลองสถานการณ์อุบัติเหตุรถยนต์เฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ ทำให้รถยนต์เสียหลักไปพุ่งชนต้นไม้ รถยนต์เกิดเพลิงลุกไหม้ มีผู้บาดเจ็บติดอยู่ภายใน บนถนนบายพาสชะอำ-ปราณบุรี ช่วงกิโลเมตรที่ 37 ตำบลทับใต้ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นส่วนหนึ่งของการซ้อมแผนกู้ชีพกู้ภัยของหน่วยกู้ภัยตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ เพื่อเตรียมพร้อมกำลังคน อุปกรณ์ เครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ ในช่วงเทศกาลปีใหม่ที่จะถึงนี้ ซึ่งจะมีประชาชนเดินทางกลับภูมิลำเนาและเดินทางท่องเที่ยวเป็นจำนวนมาก โดยในครั้งนี้มีหน่วยงานกู้ชีพ กู้ภัย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม เริ่มตั้งแต่การตรวจสอบที่เกิดเหตุ การแจ้งเหตุ การจัดการจราจรเพื่อป้องกันอุบัติเหตุซ้ำซ้อน การช่วยเหลือผู้ประสบภัย การประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และการระงับเหตุ เพื่อให้ทุกฝ่ายมีความพร้อม มีความเข้าใจในบทบาทหน้าที่ของตนเอง สามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างถูกต้อง ปลอดภัย และรวดเร็ว โดยการฝึกซ้อมครั้งนี้มีผู้เชี่ยวชาญมาให้ความรู้ และดูแลการฝึกอย่างใกล้ชิด ซึ่งผู้เข้ารับการฝึกในแต่ละส่วนสามารถปฏิบัติหน้าที่ ใช้อุปกรณ์เครื่องมือ เครื่องตัดถ่าง ดับเพลิง และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สำหรับการซ้อมแผนรับมืออุบัติเหตุครั้งนี้ มี พ.ต.ต.ณรงค์ฤทธิ์ งามแฉ่ง สารวัตรสถานีตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานในพิธีเปิด ร่วมด้วย นายธนนท์ พรรพีภาส นายอำเภอหัวหิน พร้อมด้วย ผู้แทนจากแขวงทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ , หมวดทางหลวงหัวหิน , ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 4 ประจวบคีรีขันธ์ , หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างหัวหินธรรมสถาน , ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยตำบลทับใต้ , เจ้าหน้าที่ทหาร ศูนย์การทหารราบค่ายธนะรัชต์ , เจ้าหน้าที่ กอ.รมน.หัวหิน และ ตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ ตลอดจน เจ้าหน้าที่และอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์,กู้ภัยมูลนิธิสว่างหัวหินธรรมสถาน เข้าร่วม
พร้อมกันนี้ ยังมีการฝึกซ้อมการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบเหตุจนรถยนต์ถูกล็อกประตู ไม่สามารถเปิดออกได้ ผู้ช่วยเหลือสามารถหาอุปกรณ์ใกล้ตัว เช่น หมอนพิงศีรษะเก้าอี้นั่งในรถยนต์ เมื่อถอดออกมาจะมีเหล็กยาวจำนวน 2 ชิ้นอยู่ด้านใน สามารถนำมาใช้เป็นอุปกรณ์สำคัญในการทุบกระจกรถให้แตกได้อย่างง่ายดายโดยไม่เป็นอันตรายต่อคนช่วยและประชาชนที่ติดอยู่ภายในรถ โดยเลือกงัดด้านล่างตามมุมกระจกซึ่งเป็นส่วนที่อ่อนไหว กระจกจะแตกได้ง่าย ซึ่งผู้ประสบภัยสามารถช่วยเหลือตนเองได้
นายเชษฐดา เตือนจิตร์ พนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ชำนาญการ ทีมดับเพลิง กรุงเทพฯ กล่าวว่า การฝึกซ้อมครั้งนี้ได้จำลองสถานการณ์ออกเป็น 2 ส่วน ส่วนแรก คือการช่วยเหลือกรณีอุบัติเล็กน้อย ที่สามารถใช้เครื่องมือ อุปกรณ์รอบตัวช่วยชีวิต และส่วนที่สองคือการช่วยเหลือกรณีเกิดอุบัติเหตุใหญ่ มีผู้บาดเจ็บหลายราย ซึ่งได้มีการกำหนดสถานการณ์ว่า ขณะช่วยเหลือผู้บาดเจ็บรถยนต์มีเพลิงลุกไหม้ ซึ่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยจะต้องทำงานแข่งกับเวลาโดยมีโจทย์สำคัญคือ จะต้องปลอดภัยทั้งตนเอง และผู้ประสบภัย ทั้งนี้เพื่อเตรียมพร้อมทั้งคนและอุปกรณ์
นายสุวิวัฒน์ พรหมมา หัวหน้าหน่วยกู้ภัยตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ถนนบายพาส ทางหลวงหมายเลข 37 และถนนเพชรเกษม ทางหลวงหมายเลข 4 เป็นถนนสายหลักผ่านลงพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ และจากภาคใต้เดินทางไปยังภูมิภาคต่างๆทั่วประเทศ การฝึกซ้อมแผนจึงเป็นการเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลือประชาชน ลดการสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินลงได้ การเลือกเหตุการณ์ที่รถยนต์ประสบเหตุจนเกิดเพลิงไหม้มาฝึกซ้อมแผนให้เกิดความชำนาญแก่เจ้าหน้าที่กู้ภัยในครั้งนี้ เนื่องจากเป็นอุบัติเหตุที่มักจะเกิดขึ้นบ่อยครั้ง ความชำนาญเครื่องมือและความพร้อมของเจ้าหน้าที่กู้ภัยเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยชีวิตประชาชนที่ประสบเหตุได้
ซึ่งในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ กู้ภัยตำรวจทางหลวงประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยกู้ภัยเครือข่ายพันธมิตร อย่างกู้ภัยสว่างหัวหินธรรมสถาน และกู้ภัยในเครือสว่างทั่วทั้งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีความพร้อมที่จะช่วยเหลือประชาชนตลอดเส้นทาง แต่ทั้งนี้ขอให้ประชาชนที่จะต้องเดินทางไกลในช่วงเทศกาลได้เตรียมความพร้อมตัวเอง โดยเฉพาะคนขับรถ ควรตรวจสุขภาพร่างกายให้พร้อมเดินทางและพักผ่อนอย่างเพียงพอ นอกจากนี้ควรตรวจความพร้อมของรถยนต์ที่ใช้เดินทางเป็นสำคัญด้วย
เรื่อง/ภาพ วิมล ทับคง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: