X

ตรัง ขนหัวลุก!! ชวนมาล่า ท้า ผี เปิดประสบการณ์กุฏิร้าง สีสันงานบุญเดือนสิบ 118 ปี วัดห้วยยอด 

ตรัง สีสันงานบุญ ชวนมา ล่า ท้า ผี เปิดประสบการณ์กุฏิร้าง วัดห้วยยอด นำโลงศพจริงแต่เป็นโลงศพใหม่ที่เขานำมาบริจาคมาตกแต่ง เพื่อให้เรียนรู้ถึงสัจธรรมชีวิต ไม่ได้ตั้งใจมาทำให้ตกใจหรือหลอกเด็ก เราก็จะสื่อถึงแง่คิดว่าให้รู้จักผิดชอบชั่วดีตั้งแต่เนิ่น ๆ และชมวิกหนังจำลองในอดีต และนิทรรศการเปรตบุญเดือนสิบ ในงาน 118 ปี บุญสารทเดือนสิบ วัดห้วยยอด

วัดห้วยยอด ร่วมกับ ชมรมรักษ์เมืองเก่าห้วยยอด เทศบาลตำบลห้วยยอด องค์การบริหารส่วนตำบลห้วยยอด และวัฒนธรรมจังหวัดตรัง จัดกิจกรรมร่วมสืบสานประเพณีวัฒนธรรมไทยปักษ์ใต้ ด้วยการจัดงานส่งเสริมวัฒนธรรมชุมชน งานประเพณีสารทเดือนสิบ ประจำปี 2566 “ส่งตายาย” วันที่ 12-14 ตุลาคม 2566 (3 วัน 3 คืน) ร่วมใจ รวมธรรม 118 ปี บุญสารทเดือนสิบ ณ วัดห้วยยอด อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง

โดยมีพระสมุห์กฎษดา ขนฺติกโร เจ้าอาวาสวัดห้วยยอด ร่วมกับพุทธบริษัทวัดห้วยยอด พลังบวร นักเรียนจิตอาสาโรงเรียนสภาราชินี ร่วมกันประดับตกแต่งหมรับ

และไฮไลท์ภายในงานที่ไม่ควรพลาด ชวนมา ล่า ท้า ผี พร้อมเปิดประสบการณ์แบบขนหัวลุก ไปกับกับเรื่องลี้ลับ ณ กุฏิร้าง วัดห้วยยอด ชมวิกหนังจำลองในสมัยอดีต และชมนิทรรศการ เปรต! บุญเดือนสิบ และบูธจำหน่ายสินค้าอาหารก็ว่า 30 บูธ ให้ชม ชิมช้อป กันอีกด้วย

เพื่อเตรียมความพร้อมต้อนรับเทศกาลงานประเพณีสารทเดือนสิบ ซึ่งเป็นประเพณีไหว้บรรพบุรุษของชาวปักษ์ใต้ที่ได้รับการสืบสานต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่น ที่ได้ถ่ายทอดให้เห็นการระลึกถึงและแสดงความกตัญญูต่อผู้ล่วงลับไปแล้ว โดยได้รับอิทธิพลทางความเชื่อของศาสนาพราหมณ์ผสมกับศาสนาพุทธ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่ออุทิศส่วนกุศลแก่วิญญาณของบรรพชนและญาติผู้ล่วงลับที่จะถูกปล่อยตัวออกมาจากการถูกจองจำในนรกทุกวันแรม 1 ค่ำ เดือน 10 เพื่อกลับมายังโลกมนุษย์ เพื่อขอส่วนบุญแก่ลูกหลานและญาติพี่น้องที่พวกเขาจะเตรียมการอุทิศเพื่อแสดงความกตัญญูต่อผู้ล่วงลับนั้น และจะกลับสู่นรกในวันแรม 15 ค่ำ เดือน 10

สำหรับในพิธีงานบุญสารทเดือนสิบหัวใจสำคัญของการจัดหมรับ จะต้องมีขนม 5 อย่าง ประกอบด้วย ขนมลา เป็นสัญลักษณ์แทนแพรพรรณเครื่องนุ่งหุ่ม ขนมพอง เป็นสัญลักษณ์แทน แพสำหรับบรรพชนผู้ล่วงลับใช้ล่องข้ามห้วงมหรรณพ ขนมกง (ขนมไข่ปลา) เป็นสัญลักษณ์แทนเครื่องประดับ

ขนมดีซำเป็นสัญลักษณ์แทนเงินเบี้ยสำหรับใช้สอย ขนมบ้าเป็นสัญลักษณ์แทนลูกสะบ้าสำหรับบรรพชนจะได้เล่นสะบ้าในวันสงกรานต์ตามความเชื่อแต่โบราณ

อย่างไรก็ดี เมื่อขนมลาเป็นหัวใจสำคัญอันดับหนึ่ง สำหรับประเพณีบุญสารทเดือนสิบ เพราะเป็นสัญลักษณ์ใช้แทนแพรพรรณ เครื่องนุ่งห่ม และเป็นขนมที่ขาดไม่ได้ในการจัดสำรับ รับงานบุญเดือนสิบ ด้วยความเชื่อของคนรุ่นหลังเชื่อว่า หลังจาก ปู่ย่าตายายญาติพี่น้องได้ถึงแก่กรรม ล่วงลับไปแล้วจะไปอยู่อีกภพหนึ่งซึ่งอาจจะไม่มีเสื้อผ้าใช้ หรือมีไม่เพียงพอ จึงได้จัดหาสิ่งของที่คิดว่าน่าจะใช้แทนเสื้อผ้าได้ นำไปทำบุญอุทิศส่วนกุศลส่งให้บรรพบุรุษเหล่านั้น นับเป็นความชื่อที่ละเอียดอ่อน น่ายกย่องสรรเสริญยิ่งนัก แม้ว่าความเชื่อเหล่านี้จะมีมานานแล้วก็ตาม แต่ปัจจุบันก็มิได้เสื่อมสูญไปจากจิตใจของชาวปักษ์บ้านเรา และยังคงเป็นความเชื่อที่ดีงามที่ต้องถ่ายทอดไปยังคนรุ่นหลังต่อไป

พระสมุห์กฎษดา ขนฺติกโร เจ้าอาวาสวัดห้วยยอด บอกว่า หลักจริง ๆ เราอยากให้คนได้ร่วมกันในการสืบสานประเพณีวัฒนธรรม ซึ่งเราจะมีกิจกรรมต่าง ๆอย่างเช่นขบวนแห่หรมับ แห่เปรตแต่งแฟนซี และวันที่ 14 ตุลาคม 2566 ประเพณีงานบุญส่งตายาย โดยกิจกรรมเหล่านี้เป็นความร่วมมือของชาวชุมชนห้วยยอดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมจัดกิจกรรม ทั้งชมรมรักษ์เมืองเก่าห้วยยอด เทศบาลตำบลห้วยยอด อบต.ห้วยยอด วัดห้วยยอด และภาคีเครือข่ายที่เป็นจิตอาสามาร่วมดำเนินกิจกรรมกับเรา และในส่วนของโรงหนังจำลองเราก็จำลองมาจากวิกหนังเก่า และบ้านผีสิง เด็ก ๆได้ซึมซับบรรยากาศแฝงไปด้วยคติธรรมในเรื่องของชีวิตและความตาย สำหรับคนที่ใช้ชีวิตอยู่ นิทรรศการเปรตก็จะมีนัยยะ ในทางพระพุทธศาสนาอยู่แล้วว่าเป็นเรื่องของการประพฤติปฏิบัติตน คนที่ประพฤติดีก็จะสามารถใช้ชีวิตอยู่ดีได้ ตายดีได้ เปรตก็จะเรื่องของการปฏิบัติชั่วก็จะเป็นเรื่องของเปรตไปในที่สุด

ในเรื่องของบรรยากาศก็จะตกแต่งเกี่ยวกับประเพณีวัฒนธรรมเข้ามาเกี่ยวข้อง โดยหลัก ๆในบุญเดือนสิบก็จะเน้นในเรื่องของการจัดเปรต จัดตั้งเปรต กิจกรรมปีนเสาน้ำมัน จัดหมรับสาธิต เพื่อให้เด็ก ๆนักเรียนเยาวชนได้มีความรู้ในเรื่องการจัดงานด้วย

และเรามีจุดทำบุญหลาย ๆ จุด จุดที่ 1 ก็จะเป็นจุดทำบุญโลงศพ จุดทำบุญองค์พระประจำวัน โดยงานจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 12-14 ตุลาคมนี้ งานเริ่มตั้งแต่เวลา 13.00- 21.00 น.

ส่วนทางด้านนายสุจิน ปานสมุท ศิลปินชื่อดังชาวห้วยยอด ผู้ออกแบบตกแต่งบ้านผีสิง บอกว่า แนวคิดนี้หากพูดถึงบ้านผีสิงดูแล้วอาจจะฟังแล้วน่ากลัว แต่จริงๆแล้วเป็นเรื่องของความเป็นความตาย ที่ทุกคนต้องเจอ มันเป็นเรื่องของสัจธรรม ซึ่งคนเราทุกคนต้องเดินทางมาถึงจุดนี้ หนีไม่พ้น เป็นเรื่องราวที่แฝงไว้ด้วยสัจธรรม และเป็นเชิงนิทรรศการ ไม่ได้ให้มองถึงความน่ากลัวเพียงอย่างเดียว หรือว่าหากใครทำบุญน้อยไปแล้วตกนรกไปก็จะเจอแบบนี้ อยากให้เราเข้าไปพิสูจน์ดู เราอยู่แม้เราจะไม่ได้ทำความดีมากแต่เราก็อย่าได้สร้างความเดือดร้อนให้กับใคร
ซึ่งคาดว่าจะช่วยผ่อนคลายสิ่งตรงนี้ไปได้บ้าง ตามตำนานของพระพุทธศาสนา ทุกอย่างเป็นแง่คิดข้อคิดทั้งนั้น บางคนใช้ชีวิตจนลืมไป อย่าตกใจว่าเราจะตาย ตกใจยังไงเราก็ต้องตาย คนกลัวไม่กล้าเตรียมตัว แต่ปัจจุบันนี้ดีขึ้นมีคนไปบริจาคร่างกายทำบุญมากขึ้น โลงศพที่เรามาตกแต่งนั้นเป็นโลงศพจริงแต่เป็นโลงศพใหม่ ที่เขานำมาบริจาค เราทำเพื่อเรียนรู้ถึงสัจธรรม ไม่ได้ตั้งใจมาทำให้ตกใจหรือหลอกเด็ก เราก็จะสื่อถึงแง่คิดว่าให้รู้จักผิดชอบชั่วดีตั้งแต่เนิ่นๆ และโดยด้านหน้าทางเข้าก็จะตั้งเป็นโลงศพพร้อมเขียนข้อความให้คนที่มาเที่ยวร่วมบุญโลงศพไว้ด้านหน้าด้วย

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน