เชียงราย-“ครูตี๋”คนไทยรายแรกรับรางวัล “Chang-Lin Tien Distinguished Leadership Award” เจ้าตัวหวังคนรุ่นใหม่สานต่อ ชูโฮงเฮียนแม่น้ำของต้นแบบศูนย์เรียนรู้ระบบนิเวศกลางเวทีรางวัลโลก
13 ต.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2023 ตามเวลาท้องถิ่น ณ สำนักงานมูลนิธิเอเชีย ( The Asia Foundation: TAF) กรุงซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา ได้มีการมอบรางวัล Chang-Lin Tien Distinguished Leadership Award แก่บุคคลที่ได้รับคัดเลือก โดยปีนี้นายนิวัฒน์ ร้อยแก้ว หรือ “ครูตี๋” ประธานกลุ่มรักษ์เชียงของ ได้รับรางวัลผู้นำแนวหน้า (Leaders on the Frontlines) ซึ่งเป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับรางวัลนี้ และเป็นบุคคลที่ 6 ที่ได้รับรางวัลดังกล่าว นับตั้งแต่มีการจัดตั้งขึ้น
นายนิวัฒน์กล่าวบนเวทีระหว่างการรับรางวัลว่า ตลอดเส้นทางการพัฒนาเพื่อตอบสนองต่อความต้องการของมนุษย์อย่างสุดขั้ว ได้ก่อให้เกิดผลกระทบมากมายกับโลกใบนี้ ทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม ได้ถูกแปรเปลี่ยนเป็นเงินตรา แม่น้ำ ป่าเขา ความอุดมสมบูรณ์ ถูกทำลายและเปลี่ยนแปลง โดยไม่ได้เล็งเห็นคุณค่าที่สำคัญของสิ่งเหล่านี้อย่างจริงจัง การพัฒนาในลุ่มน้ำโขงตลอดสองทศวรรษที่ผ่านมา คงอยู่ในมือของรัฐกับทุนเท่านั้น ประชาชนซึ่งเป็นหุ้นส่วนใหญ่กลับถูกละเลย และการเข้าถึงหรือการมีส่วนร่วม การสร้างเขื่อนบนสายน้ำโขง ปัจจุบันมีถึง 14 เขื่อน และยังจะสร้างอีกต่อไป
“การระเบิดแก่งแม่น้ำโขงเพื่อการเดินเรือพาณิชย์ โครงการเหล่านี้เพียงเพื่อตอบสนองในเรื่องของพลังงานและการค้า แต่สิ่งเกิดขึ้นมีผลกระทบกับแม่น้ำ ระบบนิเวศ และประชาชนมากมายหลายสิบล้านคน เขามองเห็นว่าแก่งหินผา คือหินโสโครกที่เป็นอุปสรรคต่อการเดินเรือ แต่ชาวบ้านมองเห็นว่าแก่งหินผาคือบ้านของปลา เกาะดอนคือบ้านของนก มองแม่น้ำโขงคือชีวิต วิถี วัฒนธรรม ประชาชนในลุ่มน้ำโขงเรียกร้องให้มีการหยุดสร้างเขื่อน ให้มีการแก้ไขเยียวยา แม่น้ำโขงและคนลุ่มน้ำโขง ข้อเรียกร้องของชาวบ้านได้ชี้ให้เห็นถึงความเข้าใจและเห็นความสำคัญของธรรมชาติ” นายนิวัฒน์กล่าว
ข่าวน่าสนใจ:
- นักท่องเที่ยวแห่ชมดอกไม้งามดอยตุง ชิมอาหารพื้นถิ่น ถ่ายรูปดอกไม้สวย
- บ้านใหญ่พรรคเพื่อไทยเชียงราย เปิดตัวผู้สมัครนายก อบจ.พร้อมกับนำทีมผู้สมัคร สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ทั้ง 36 เขต ในนามพรรคเพื่อไทย
- คึกคักวันแรก สมัครนายก อบจ.เชียงราย กองเชียร์ล้นทะลัก อาทิตาธร เบอร์ 1 สลักจิฤฏดิ์ เบอร์ 2
ครูตี๋กล่าวว่า การให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนและการขับเคลื่อนนโยบายพัฒนาที่ให้ความสำคัญกับธรรมชาติเพื่อให้เกิดความสมดุลระหว่างความต้องการของมนุษย์และธรรมชาติที่มีอยู่จึงเป็นสิ่งจำเป็นที่สุดในภาวะความเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลก ที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรงและรวดเร็วเพื่อความอยู่รอด อนาคตของโลกต้องพากันเดินไปสู่โลกที่เป็นของพวกเราทุกคนเท่านั้น ไม่มีของฉันของเธอ
นายนิวัฒน์ ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่าว่า ตนยินดีที่เรื่องราวของการปกป้องแม่น้ำโขงได้เผยแพร่ออกไปทั่วโลก การรับรางวัลครั้งนี้จึงไม่ใช่การยินดีต่อตนเองอย่างเดียว แต่เป็นความปีติที่ภาคประชาชนซึ่งทำงานด้านการปกป้องทรัพยากรธรรมชาติมายาวนานถูกพูดถึงมากกว่าความเป็นชาติ เพราะปัจจุบันนี้ปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการพัฒนาโดยไม่คำนึงถึงสิทธิมนุยชน ล้วนเป็นจุดเด่นที่หลายประเทศกำลังต่อสู้ ตนจึงอยากใช้โอกาสและเวทีของรางวัลนี้เผยแพร่ทางในการดูแลทรัพยากรสิ่งแวดล้อมและสนับสนุนให้คนทุกส่วนหันมาสนใจทรัพยากรร่วมกันไม่ใช่แค่ทรัพยากรของประเทศใดประเทศหนึ่ง
นายนิวัฒน์ กล่าวด้วยว่าโดยการเดินทางมารับรางวัลครั้งนี้ตนมีโอกาสได้เจอคนรุ่นใหม่หลายประเทศที่มีศักยภาพในการเป็นผู้นำหลายด้านโดยเฉพาะด้านระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อม ตนจึงได้นำเสนอเรื่องราวของโฮงเฮียนน้ำของที่ขณะนี้ทุกฝ่ายซึ่งให้การสนับสนุนกำลังร่วมกันพัฒนาเพื่อให้เป็นแหล่งเรียนรู้ระบบนิเวศทางธรรมชาติ ที่อยู่กับชุมชนซึ่งทำควบคู่กันไปกับกิจกรรมเคลื่อนไหวต่อต้านโครงการพัฒนาขนาดใหญ่
“เรื่องการต่อต้าน เรายังทำอยู่ แต่เราต้องมีเชิงรับด้วย จะเอาแต่เดินต้านอย่างเดียวก็ไม่ได้ต้องบอกเล่าความสวยงามให้เห็นด้วยไปพร้อมกับการเปิดแหล่งเรียนรู้ที่จับต้องได้เป็นวิทยาศาสตร์มากขึ้นเพราะเด็กรุ่นใหม่เขาไม่ได้ฟังเรื่องเล่าอย่างเดียวแล้ว เขาต้องการทดลอง ทดสอบและโฮงเฮียนน้ำของจะเป็นแหล่งเรียนรู้นั้น แก่ๆ อย่างเราตายไป คนเด็ก หนุ่มสาวจะได้สานต่อ”ครูตี๋ กล่าว ประธานกลุ่มรักเชียงของกล่าวว่า จากการเดินทางมาสหรัฐอเมริกานั้น ตนและเครือข่ายได้เยี่ยม เขตอนุรักษ์ธรรมชาติ Jasper Ridge Biological ของมหาวิทยาลัยแสตนฟอร์ดซึ่งก่อตั้งขึ้นมาหลายปีแล้วเป็นตัวอย่างเขตอนุรักษ์ที่น่าชื่นชมเพราะไม่ใช่แค่ความสวยงามแต่เป็นการพัฒนาเป็นห้องเรียน เป็นข้อมูลเป็นตำราขนาดใหญ่ของการถ่ายทอดควารู้ด้านนิเวศวิทยาโดยเชื่อว่าหากโฮงเฮียนน้ำของ พัฒนาต่อก็สามารถทำหน้าที่ได้ไม่ต่างจากเขตอนุรักษ์ดังกล่าว
จูเลียน โรด ( Julian Rgoads) ผู้ช่วยผู้อำนวยการโครงการแลกเปลี่ยนผู้นำมูลนิธิเอเชียกล่าวว่า รางวัลฉาง หลิน เทียน (Chang-Lin Tien Distinguished Leadership ) เป็นรางวัลที่จัดขึ้นราว 20 ปีก่อนเพื่อเชิดชูเกียรติความสามารถและความสำเร็จของดร.ฉาง หลิน เทียน อดีตประธานคณะกรรมการมูลนิธิเอเชียและอดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย สาขาเบิร์กลีย์ ผู้ล่วงลับโดยการสรรหาผู้นำจากหลากหลายประเทศในทวีปเอเชียแปซิฟิกที่มีคุณสมบัติในการเป็นผู้นำแห่งการเปลี่ยนแปลงสังคมในด้านต่างๆ อาทิด้านการศึกษา วิชาการ สิ่งแวดล้อม ธุรกิจ ซึ่งผู้นำเหล่านั้นมีบทบาทสำคัญในหลายบริบทนอกจากจะเปลี่ยนแปลงชุมชนตัวเองแล้ว ยังมีผลต่อการสร้างการรับรู้ในสังคมภายนอกด้วย ซึ่งนายนิวัฒน์ เป็นผู้นำคนที่ 6 ที่ได้รับ รางวัลนี้
นายจูเลียน กล่าวด้วยว่าเหตุผลที่ทางมูลนิธิฯมอบรางวัลนี้ให้นายนิวัฒน์ ร้อยแก้ว เนื่องจากเป็นผู้นำที่เสียสละการทำงานเพื่อขับเคลื่อนประเด็นสิ่งแวดล้อมมานานหลายทศวรรษโดยเฉพาะเรื่องการเคลื่อนไหวเพื่อปกป้องแม่น้ำโขงจากโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ ทางมูลนิธิจึงเห็นว่านายนิวัฒน์ คู่ควรที่จะได้รับการประกาศเกียรติคุณนี้
และสามารถเชื่อมต่อการทำงานร่วมกับเครือข่ายของอีกหลายภาคส่วนที่มูลนิธิเอเชีย ทำงานด้วยโดยเฉพาะผู้นำรุ่นใหม่ ที่ทางมูลนิธิให้การสนับสนุน
ทั้งนี้สำหรับปี 2023 นี้ทางมูลนิธิเอเชียมอบรางวัลด้านผู้นำแก่ บุคคล 2 ราย คือรางวัล “ครูตี๋” นิวัฒน์ ร้อยแก้ว ได้รับด้าน Leaders on the Frontlines และนางแนนซี เพโลซี ประธานกิตติมศักดิ์สภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐอเมริกา ได้รับด้านล Lifetime Leadership Award ซึ่งในเวทีมีการกล่าวปาฐกถาโดยนางชาร์ลอตต์ เพรา รองประธานกองทุน Bezos EarthFund ซึ่งทำงานส่งเสริมพลังงานสะอาดและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ข่าว: วรพล ตะติ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: