ตรัง-เวทีสาธารณะปชช.บางส่วนเห็นด้วยหนุนให้เกิดสุราก้าวหน้า เพื่อต่อยอดผลผลิตทางการเกษตรนำมาพัฒนาต่อยอดทำเป็นผลิตภัณฑ์ สร้างงานสร้างรายได้ แต่ไม่เห็นด้วยเปิดเสรี จะต้องวางกรอบกฎหมายให้ชัดเจน เพื่อป้องกันการมอมเมาประชาชนและเยาวชนอย่าให้เข้าถึงได้ง่าย ด้านผู้ประกอบการสุรา เบียร์ชุมชนหนุนเปิดสุราก้าวหน้าขอพื้นที่โฆษณาได้ แต่ต้องอยู่ในกรอบที่เหมาะสม
โรงแรมวัฒนาพาร์ค อ.เมือง จ.ตรัง ได้เปิดเวทีสาธารณะสื่อสารความห่วงใยประเด็นสุราเสรี จ.ตรัง โดยมีภาคีเครือข่ายหลายองค์กรร่วมวงเสวนา เช่น เครือข่ายองค์กรงดเหล้าจ.ตรัง เยาวชนแกนนำ ตัวแทนเครือข่ายมูลนิธิเมาไม่ขับ จ.ตรัง ผู้ประกอบการสุราชุมชน และคราฟเบียร์ ตัวแทนผู้ได้รับผลกระทบเมาแล้วขับ ภาคประชาชน และตัวแทนส.ส.ในพื้นที่ รวมประมาณ 60 คน เพื่อให้ประชาชนและภาคส่วนต่างๆในระดับพื้นที่เกิดความเข้าใจต่อประเด็นสุราเสรีสุราก้าวหน้าและผลกระทบที่เกิดขึ้นต่อการเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบาย และได้ทราบถึงข้อห่วงใยความกังวลของภาคส่วนต่างๆและแนวคิดของภาคส่วนต่างๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินสถานการณ์และรับฟังความคิดเห็นของประชาชนที่มีต่อนโยบายสุราเสรีและความห่วงใยต่อผลกระทบที่จะเกิดขึ้น และเพื่อจะทำข้อเสนอแนะต่อการกระบวนการขับเคลื่อนและท่าทีของหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่เพื่อนำเสนอต่อผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องต่อไป
ทั้งนี้ ส่วนใหญ่ในเวทีเห็นด้วยที่จะส่งเสริมสุราก้าวหน้า แต่เปิดเสรีไม่ได้ เพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไม่ใช่สินค้าปกติ แต่เป็นสินค้าที่ต้องควบคุม ซึ่งที่ผ่านมาสุราเสรีถูกพูดถึงกันมาในวงการเมือง และสังคมไทย นำไปสู่การผลักดันเป็นนโยบาย การแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเครือข่ายที่ทำงานด้านสุขภาวะเกิดความห่วงใย และมีความกังวลใจหากนโยบายดังกล่าวถูกผลักดันเข้ารัฐสภาผ่านกลไกของการเมืองและรัฐบาล หากปราศจากการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนที่เป็นเจ้าของประเทศ เพราะเครื่องดื่มแอลกอฮอล เป็นสินค้าเฉพาะ จำเป็นที่ต้องควบคุมในการจำหน่าย เนื่องด้วยเป็นสินค้านำมาซึ่งผลกระทบต่อสังคม เช่น การเกิดอุบัติเหตุ จากการเมาแล้วขับ การทะเลาะวิวาท เป็นต้นเหตุของอาชญากรรมต่าง ๆ เป็นต้น ถ้าจะมีกฎหมายหรือนโยบายเกี่ยวกับเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ต้องฟังความคิดเห็นของประชาชน เพื่อป้องกันผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อสังคมไทย แต่ทั้งนี้ เครือข่ายประชาคมจังหวัดตรัง มีความห่วงใย ต่อสถานการณ์ หากแต่นโยบายสุราเสรีผ่านการพิจรณาโดยรัฐสภา จริงในอนาคต อาจก่อให้เกิดผลกระทบมากมาย จึงจัดให้มีเวทีสาธารณะรับฟังความคิดเห็นของประชาชน เพื่อเป็นการหาข้อสรุปที่เป็นกลางและมาจากทุกฝ่าย เสนอต่อฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
นายธีระวัฒน์ สุทธินนท์ ผู้อำนวยการเครือข่ายชมรมจิตอาสาศาสนานำสุข ในมุมมองประเด็นของร้านค้าส่วนตัวมองว่าเป็นการกระจายอำนาจไม่ให้รายได้ตกอยู่ในผู้มีอำนาจที่จะเข้ามากอบโกยเม็ดเงินขนาดใหญ่ เป็นการเพิ่มช่องทางในการเลี้ยงชีพให้แก่กลุ่มร้านค้าหรือเกษตรกรที่มีผลผลิตเหลือจากการค้าขายได้เป็นอีกหนึ่งช่องทางในการแปลผลทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้นและสามารถนำเงินมาเลี้ยงดูครอบครัวให้มีฐานะที่ดีขึ้นได้ แต่ต้องไม่เอื้อทุนใหญ่ ไม่เพิ่มการบริโภค ต้องคุ้มครองเด็กและเยาวชน การใช้สื่อ จะต้องคุ้มครองผู้บริโภค ไม่เพิ่มผลกระทบระยะสั้นและระยะยาว
ข่าวน่าสนใจ:
- คึกคัก นาย"บุ่นเล้ง" อดีตนายกอบจ.ตรัง นำทีมนายกบุ่นเล้ง สมัครครบ 30 เขต ท่ามกลางกองเชียร์คับคั่ง
- รับสมัคร นายกอบจ.-ส.อบจ.ตรัง วันแรกคึกคัก! บ้านใหญ่ตระกูลโล่ฯ-ส.ส.ตรังทุกพรรค-กองเชียร์นับพัน แห่ให้กำลังใจ “ทีมนายกบุ่นเล้ง” สู้ศึกอีกสมัย…
- ตรัง "โลกเปลี่ยน เราไม่เปลี่ยน" บอกรักทะเลด้วยสองมือ ณ หาดฉางหลาง ทะเลตรัง ก้าวขา-พาสองมือเก็บขยะทะเล รังสรรค์งานศิลป์
ส่วนนายประสิทธิ์ สำนักเหยา ผู้ประกอบการสุราก้าวหน้า บอกว่า รัฐควรจะสนับสนุนให้เกิดสุราก้าวหน้า เพราะเป็นการเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปสามารถทำธุรกิจได้ โดยนำผลผลิตทางการเกษตรของประชาชนในชุมชนมาต่อยอดทำเป็นผลิตภัณฑ์ สร้างงาน สร้างรายได้เข้าชุมชน แก้ปัญหาทุนผูกขาดที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน รัฐควรเปิดกว้างมากขึ้น สำหรับผลิตภัณฑ์จากผู้ประกอบการรายย่อยที่หวังสร้างงาน สร้างรายได้ ต่อยอดผลิตภัณฑ์จากสินค้าเกษตรของไทย และ รัฐควรเปิดโอกาสให้มีการโฆษณาสินค้าของตัวเองได้บ้าง แต่ก็ต้องมาร่วมกันวางกรอบแนวทางในการโฆษณาให้ออกมาว่าผ่านช่องทางไหน และโฆษณาอย่างเหมาะสม ไม่เป็นการมอมเมาเยาวชนทุกฝ่ายต้องร่วมกันวางกรอบในเรื่องนี้
ด้านตัวแทนเยาวชน ก็บอกว่า เห็นด้วยเรื่องสุราก้าวหน้า เพราะเป็นการนำสินค้าการเกษตรของไทยมาต่อยอดทำผลิตภัณฑ์ เกิดการสร้างงานในพื้นที่ แต่ไม่เห็นด้วยการเปิดเสรี เพราะจะทำให้เยาวชนเข้าถึงได้ง่าย
ขณะที่นายเอิ้น วรรณรักษ์ ตัวแทนเครือข่ายมูลนิธิเมาไม่ขับ บอกว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับเรื่องการแก้กฎหมายสุราก้าวหน้า หรือสุราเสรี โรงกลั่น โรงต้ม เป็นแค่ผลประโยชน์ของบางคนบางกลุ่ม แต่ผลกระทบจะเกิดในวงกว้าง เป็นห่วงน้องๆเยาวชนและประชาชน ห่วงว่าจะเข้าถึงได้ง่าย หาซื้อง่าย ดื่มง่ายอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุมากขึ้น ซึ่งอุบัติเหตุประเทศไทยเฉลี่ยชม.ละ 1 คน พวกเราจึงไม่เห็นด้วย
ส่วนนางรัชฐิรัชฎ์ ซุ่นสั้น วิทยากรเครือข่ายพัฒนาคุณภาพชีวิต ซึ่งเป็นผู้ได้รับกระทบจากเมาแล้วขับ บอกว่า ถ้าเรื่องสุราก้าวหน้า เพื่อให้เกิดการประกอบอาชีพ เป็นการกระจายรายได้ มีสินค้าเกิดขึ้นในชุมชน เพื่อสร้างงาน เกิดรายได้ เห็นได้ แต่ไม่เห็นด้วยเรื่องเปิดสุราเสรี ต้องมีการควบคุมขนาดที่ผ่านมามีการควบคุมแต่อุบัติเหตุจากเมาแล้วขับก็ยังเกิดขึ้นตลอดเวลา จึงยันยัน ก้าวหน้าได้ในเรื่องการประกอบอาชีพ แต่เสรีไม่ได้ และรัฐต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: