ผู้สื่อข่าว จ.พัทลุง รายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 11.00 น.วัน(ที่ 14 ต.ค. 66) ร.ต.อ.วิโรจน์ บุญแข รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพัทลุง ได้รับแจ้งจาก จนท.โรงพยาบาลพัทลุงว่ามีเหตุคนถูกสะเก็ดระเบิดได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในระหว่าวนำส่ง รพ.พัทลุง จึงแจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบ จากนั้นจึงรุดไปที่ห้องฉุกเฉิน รพ.พัทลุง ทราบว่าผู้เสียชีวิตรายนี้ คือ นายกรทอง ปานสว่าง อายุ 49 ปี อยู่บ้านเลขที่ 206 หมู่ที่ 2 ต.เขาเจียก อ.เมืองพัทลุง โดยนายกรทองมีสภาพขาด้านซ้ายด้วนต้องใส่ขาเทียม ส่วนสภาพศพมีแผลที่บริเวณขวาด้านขวา แขนขวา ศีรษะ บริเวณลำตัวจำนวนหลายแห่งจนเป็นแผลฉกรรจ์ทนพิษบาดแผลไม่ไหวจนเสียชีวิตในเวลาต่อมา
ต่อมา ร.ต.อ.วิโรจน์ บุญแข รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองพัทลุง พ.ต.อ.ธนสิทธิ์ จงหวัง ผกก.สภ.เมืองพัทลุง พ.ต.ท.ประสิทธิ์ สิงหพล รอง ผกก.(สอบสวน) พ.ต.ท.หาญพล รามด้วง รอง ผกก(สส.)ฯ พ.ต.ต.สุทิน แดงช่วง สว.สส.ฯ นายตำรวจที่เกี่ยวข้อง จนท.เก็บกู้ระเบิด ภ.จว.พัทลุง และ จนท.พิสูจน์หลักฐานจังหวัดพัทลุง ลงพื้นที่ตรวจสอบสถายที่เกิดเหตุบริเวณขนำยกพื้นสูงที่ต่อเป็นเพิงกับบริเวณหลังบ้านจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียวแบบก่ออิฐถือปืนบ้านเลขที่ 54 ซอย 19 ต.คูหาสวรรค์ อ.เมืองพัทลุง (ในเขตเทศบาลเมืองพัทลุง)
ในที่เกิดเหตุบนพื้นปูนซีเมนต์หน้าขนำหลังดังกล่าว ตร.พบกองเลือดตกอยู่หลายกอง ส่วนบนพื้นขนำ ตร.พบโซ่เหล็กสภาพใหม่ได้ผูกติดกับฝาเหล็กของขนำ โดยโซ่เหล็กถูกนำมาผูกกับแม่แรงยกรถยนต์ขนาด 1 ตัน โดยมีสลักติดอยู่กับโซ่เหล็ก และพบกระเดื่องตกอยู่ใกล้กัน 1 ชิ้น ส่วนระเบิดลูกดังกล่าวเป็นระเบิดชนิด วี 40 ซึ่งตำรวจและผู้เกี่ยวข้องรู้สึกงุนงงต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าว
จากการสอบสวนในเบื้องต้นจากนายธรรมรงค์ แสนคำ อายุ 54 ปี เจ้าของบ้านหลังดังกล่าว ได้ความว่าก่อนเกิดเหตุตนได้ปิดประตูบ้านไปร่วมทำบุญประเพณีวันสารทเดือน 10 ที่วัดภูผาภิมุข ในเขตเทศบาลเมืองพัทลุง เมื่อกลับมาบ้านเพื่ออาบน้ำและรับประทานอาหารมือเที่ยงกับพบร่างนายกรทองฯนอนจมกองเลือดอยู่บนพื้นหน้าขนำ ตนจะยกแบบก็ยกไม่รอด ตนจึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิพัทลุงการกุศลได้รับทราบ และได้นำร่างผู้บาดเจ็บสาหัสส่ง รพ.พัทลุงในเวลาต่อมาและเสียชีวิตในเวลาต่อมาดังกล่าว ซึ่งจุดดังกล่าวสามารถเดินข้างบ้านไปยังจุดเกิดเหตุได้
ทางด้านนายธรรมรงค์กล่าวอีกว่า ผู้ตายเป็นเพื่อนรักของหลานชายตนที่ทำงานในกรุงเทพฯ ส่วนสาเหตุที่ผู้ตายมาบ้านตนโดยมี จยย.ฮอนด้า ทะเบียน กวง.345 พัทลุง เป็นยานพาหนะในครั้งนี้ น่าจะมาพบหลานชายของตนซึ่งเป็นเพื่อนรักของผู้ตายที่ผู้ตายคาดว่าหลานชายของตนน่าจะมาร่วมทำบุญวันสารทเดือน 10 แต่หลานชายของตนไม่ได้มา จนมีเหตุสะเทือนใจดังกล่าวเกิดขึ้น ส่วนพฤติกรรมการเล่นระเบิดของผู้ตายตนไม่มีส่วนรู้เห็นแต่อย่างใด
นายธรรมรงค์ฯ กล่าวอีกว่า ผู้ตายมีภรรยาเป็นนางพยาบาล ณ โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.พัทลุง ในยามที่มีปัญหาทางครอบครัวผู้ตายก็จะขี่ จยย.คันดังกล่าวมาพบตนและเล่าเรื่องปัญหาภายในครอบครัวให้ตนฟังเป็นประจำในฐานะตนเองเป็นญาติผู้ใหญ่ของเพื่อนของเขา แต่ตนก็ไม่เคยไปเกี่ยวข้องกับปัญหาภายในครอบครัวของผู้ตาย โดยตนบอกว่าหากไม่สบายใจก็มาหาตนได้ตลอดเวลา พร้อมเขียนเบอร์โทรศัพท์ติดไว้ที่หน้าบ้าน เพื่อให้ผู้ตายโทรตามหาในยามที่ตนไม่อยู่บ้าน ในส่วนการพูดคุยกันนั้นปกติจะพูดกันหน้าบ้านหรือในบ้าน ส่วนหลังบ้านไม่มีการนั่งพูดคุยกันแต่อย่างใด
