สระแก้ว – สั่งให้มีการระดมเจ้าหน้าที่ อส.และชุดป้องกันเฝ้าระวังช้างป่า 3 ตำบล จำนวนกว่า 300 คน ผลักดันช้างป่า ทำลายพืชผลเกษตรเสียหายรายวัน สร้างความหวาดกลัวให้ชาวบ้าน บริเวณพื้นที่เขาภูหีบ รอยต่อ ต.วังน้ำเย็น ต.ตาหลังใน และ ต.คลองหินปูน โดยล่าสุด ช่วงเช้าวันนี้ ช้าง 5 ตัว ได้เข้าทำลายพืชผลการเกษตรของชาวบ้านในพื้นที่บ้านโคกสนั่นพัฒนา ต.วังน้ำเย็น อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 15 ต.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเกิดความเสียหายอย่างต่อเนื่องมานานกว่า 4 เดือน จากปัญหาช้างป่า 7-8 ตัว จากพื้นที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าอ่างฤาไน ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก อพยพเข้ามาปักหลักในพื้นที่โดยรอบแนบเทือกเขาภูหีบ-เขาจันทร์ รอยต่อระหว่างพื้นที่ ต.วังน้ำเย็น ต.ตาหลังใน และ ต.คลองหินปูน อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว สร้างความเสียหายและสร้างความเดือดร้อนหวาดกลัวให้กับประชาชน มีพื้นที่การเกษตรถูกทำลายกัดกินและทำลายพืชผลทางการเกษตรต่อเนื่อง จนมีการร้องเรียนไปยัง นายปริญญา โพธิสัตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว ขอให้มีการดำเนิการแก้ไขปัญหานี้อย่างเร่งด่วนในช่วงที่ผ่านมา
ทั้งนี้ เมื่อ 2 วันก่อน ช้างกลุ่มดังกล่าวได้เข้าพื้นที่ชุมชนโดยเฉพาะบ้านบ่อลูกรัง ม.6 ต.คลองหินปูน โดยออกมาเดินบนถนนสาธารณะ เส้นทางเชื่อมต่อ ต.คลองหินปูน ทำให้นายอำนาจ พิพิธกุล นายก อบต.ตาหลังใน จึงได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พร้อมด้วยพนักงาน อบต.ตาหลังใน ลงพื้นที่ติดตั้งป้ายแจ้งเตือนผู้ขับขี่ยานพาหนะระวังช้างป่าและสัตว์ป่าข้ามถนน (CAUTION ELEPHANT CROSSING) บริเวณไหล่ทางถนนเขตพื้นที่รอยต่อระหว่าง ต.ตาหลังใน – ต.คลองหินปูน ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร โดย อบต.ตาหลังใน ได้แจ้งเตือนให้ผู้ขับขี่ยานพาหนะเส้นทางดังกล่าว ใช้ความระมัดระวังและชะลอความเร็ว เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุรถชนช้างป่าหรือสัตว์ป่าที่เดินข้ามถนน รวมทั้งจัดชุดเจ้าหน้าที่เฝ้าตรวจและออกเดินลาดตระเวนรอบพื้นที่ เพื่อคอยผลักดันช้างกลับเข้าป่าเป็นระยะด้วย
ล่าสุด ภายหลังมีการประชุมเพื่อแก้ปัญหาดังกล่าว นายกิจจา เสาวรส นายอำเภอวังน้ำเย็น ได้สั่งการให้ฝ่ายปกครองทั้ง 3 ตำบล ประกอบด้วย ต.วังน้ำเย็น ต.ตาหลังใน และต.คลองหินปูน ระดมชาวบ้าน ชุดป้องกันเฝ้าระวังช้างป่าและชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ของทั้ง 3 ตำบล เข้าร่วมกับเจ้าหน้าที่ อส. เทศบาลเมืองวังน้ำเย็น เจ้าหน้าที่ปกครอง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และเจ้าหน้าที่ชุดผลักดันช้างป่าของเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน รวมกว่า 300 คน เข้าร่วมผลักดันช้างป่าจำนวนดังกล่าวออกจากพื้นที่ เพื่อให้กลับไปหากินในพื้นที่เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าอ่างฤาไน เขตป่ารอยต่อ 5 จังหวัด โดยช่วงเช้าวันนี้ (15 ต.ค.) ชาวบ้านแจ้งว่า ช้างป่าจำนวน 5 ตัว ได้บุกเข้าทำลายพืชผลการเกษตร สวนมะละกอ ในพื้นที่บ้านโคกสนั่นพัฒนา ม.15 ต.วังน้ำเย็น ส่วนอีก 3 ตัว อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกัน
ข่าวน่าสนใจ:
- ตรัง "เมนูลูกปลาปิ้งเครื่อง" จับปลาสดๆจากแหล่งน้ำธรรมชาติ ปรุงเป็นอาหารพื้นบ้านแสนอร่อย
- ระทึก ไฟไหม้โรงงานผลิตกล่องโฟมใส่อาหารหวิดวอดหมดหลัง
- บ้านใหญ่พรรคเพื่อไทยเชียงราย เปิดตัวผู้สมัครนายก อบจ.พร้อมกับนำทีมผู้สมัคร สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ทั้ง 36 เขต ในนามพรรคเพื่อไทย
- ระทึก เพลิงไหม้บ้าน 2 ชั้นวอดทั้งหลัง น้องแมว 7 ชีวิต รอดตายหวุดหวิด โดย 3 ตัวโดนไฟลวกบาดเจ็บ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตั้่งแต่เวลา 09.00 น.เป็นต้นมา ชุดผลักดันช้างจำนวนดังกล่าว ได้รวมตัวกันที่จุดรวมพลบ้านโคกสนั่นพัฒนา ม.15 ต.วังน้ำเย็น อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว เพื่อแบ่งกลุ่มและกระจายกำลังเพื่อค้นหาช้างป่ากลุ่มดังกล่าว เบื้องต้น มีกระจายอยู่ตามแนวเทือกเขาภูหีบ รวมประมาณ 8 ตัว ซึ่งหากพบความเคลื่อนไหวของช้าง จะรายงานให้เจ้าหน้าที่ทราบ เพื่อส่งทีมชุดผลักดันช้างป่าที่ความชำนาญ เข้าผลักดันช้างออกจากจุดต่าง ๆ เพื่อต้อนให้ช้างป่ากลับไปสู่พื้นที่ป่า เขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าอ่างฤาไน ตามเส้นทางที่วางไว้
อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า การระดมเข้าผลักดันช้างดังกล่าว มีนายฐานิสร์ เทียนทอง นายก อบจ.สระแก้ว เดินทางลงพื้นที่เพื่อให้กำลังใจเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ร่วมกับ นายวันชัย นารีรักษ์ นายกเทศมนตรีเมืองวังน้ำเย็น ,นายชัยวัฒน์ สุริยันต์ กำนันตำบลคลองหินปูน ,นายชาตรี ผดุงพงษ์ ผอ.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสระแก้ว พร้อมด้วยผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฝ่ายปครอง เข้าร่วมปฏิบัติการครั้งนี้ โดยจัดแบ่งกันเข้าตรวจสอบเป็นชุด เพื่อเข้าตรวจสอบจุดที่ช้างหลบซ่อนอยู่ตามหุบเขาและแนวเทือกเขาภูหีบ เบื้องต้น พบตัวแล้วแล้ว 3 ตัว จากทั้งหมด 7-8 ตัว เตรียมผลักดันให้ช้างออกจากพื้นที่ไปยังเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า ภายในวันนี้
—————————-
ภาพโดย/ชุดผลักดันช้างป่า ,อส.วังน้ำเย็น
ข่าว-ภาพโดย/สมศักดิ์ ปัญญาสัย ทีมข่าวสระแก้ว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: