X

สาวเย็บผ้าชัยภูมิวอนช่วยใกล้ถูกยึดบ้านหมดตัวโดนหลอกซื้อรถไถต้องใช้หนี้แทนนับล้าน!

ชัยภูมิ – วอนอดีต 2 ผัวเมียดีเจดังหลอกให้ซื้อรถไถราคานับล้านให้ แต่แอบนำไปขายก่อนพากันหลบหนีไปต่างประเทศ ติดต่อทางญาติให้ช่วยกลับไม่มีใครออกมาช่วยแสดงความรับผิดชอบ จนถูกดำเนินคดีต้องชดใช้หนี้แทนนับล้าน ใกล้หมดตัว ทั้งมีภาระเลี้ยงพ่อป่วยพิการติดเตียงต้องมีคนดูแลใกล้ชิด ทั้งแม่พิการหูตาไม่ดี สามีก็ป่วยทำงานหนักไม่ได้ และยังต้องมีภาระเลี้ยงส่งเสียลูกเรียนอีก 2 คน ซึ่งหากต่อจากนี้ไปอีกไม่กี่วันถูกดำเนินคดีเร่งติดตามยึดทรัพย์บ้านที่ดินที่มีทั้งหมดไปใช้หนี้แทน ก็ไม่รู้ชะตากรรมว่าครอบครัวเธอทั้งหมดจะไปพึ่งใครหาที่อยู่ไหนได้อีกแล้ว!

( 13 ธค.61 ) ที่จ.ชัยภูมิ ชีวิตสุดเศร้าของ นางบรรจง ดีมาก อายุ 48 ปี สาวอาชีพเย็บผ้ารายนี้ ที่ปัจจุบันอยู่บ้านเลขที่ 326 หมู่ที่ 2 ตำบลคอนสวรรค์ อ.คอนสวรรค์ จังหวัดชัยภูมิ ออกมาวอนขอความช่วยเหลือผ่านสื่อมวลชนไปถึงผู้ที่มาหลอกตัวเองครั้งนี้ เกิดขึ้นมาตั้งแต่เมื่อประมาณเดือนมีนาคม ปี 2557 ซึ่งตนเองถูก 2 ผัวเมียซึ่งเป็นอดีตดีเจนักจัดรายการวิทยุดังในพื้นที่ คือ นายกมล รักษาพล อายุ 41 ปี มีภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 109 หมู่ 11 ตำบลนาฝาย อ.เมืองจ.ชัยภูมิ และนางสาวอุบลวรรณ อินเขื่อนพเนาว์ อายุ 40 ปี หลอกให้ตนเองไปซื้อรถไถแทรกเตอร์ ยี่ห้อยันม่าร์ ในราคา 1,146,800 บาท เพื่อมาหางานรับจ้างไถไร่นาร่วมกัน

โดยอ้างว่าฝ่ายเขาติดแบล็คลิสต์ไม่สามารถทำสัญญาซื้อได้ จึงให้ตนเองหลงเชื่อและไปทำสัญญาซื้อให้ร่วมกันแทนเพื่อที่จะหางานรับจ้างช่วยกันให้ และต้องทำสัญญาชำระค่างวดรวม 72 งวด โดยตนเองเป็นคนซื้อ และนายกมล รักษาพล เป็นคนค้ำให้แทนและจะเป็นคนออกค่าใช้จ่ายในการดำเนินการทั้งหมดให้ และหลังจากได้รับส่งมอบรถมาแล้ว ทั้ง 2 ผัวเมียแสบก็ได้นำรถไถแทรกเตอร์คันดังกล่าวขึ้นรถเทรลเลอร์มุ่งหน้าไปจังหวัดนครราชสีมาทันที

จังหวัด

ซึ่งช่วงนั้นอ้างว่าจะนำรถไปรับจ้างไถนาให้แล้วจะแบ่งรายได้ให้ ซึ่งอีก 2 เดือนต่อมา กลับมี จนท.บริษัทรถไถ มาขอตรวจเช็กสภาพรถที่บ้านของตนเอง ซึ่งเธอก็ได้แจ้งกับ จนท.ไปว่ารถไถไม่ได้อยู่ในพื้นที่บ้าน เพราะผู้ค้ำคือนายกมล รักษาพล และนางสาวอุบลวรรณ  อินเขื่อนพเนาว์  ผู้ค้ำประกันได้ขอนำไปรับจ้างไถนาอยู่ในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา  และตนเองได้ติดต่อไปยัง 2 ผัวเมียแสบ ก็อ้างว่ารถไถยังทำงานอยู่นอกพื้นที่และได้รับการบ่ายเบี่ยงที่จะให้ตัวเธอและจนท.บริษัทไปพบเพื่อขอตรวจสภาพรถมาตลอด จนในที่สุดไม่สามารถติดต่อทั้ง 2 คนได้อีกเลย หายเงียบไปทั้งคนและรถไถแทรกเตอร์ ที่มีราคากว่าล้านบาทเศษ และยังขาดการชำระค่างวดตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ซึ่งเมื่อเธอ นางบรรจง  ในนามผู้ซื้อไม่สามารถนำรถมาแสดงต่อพนง.ตามเงื่อนไขได้และขาดส่งค่างวดติดต่อกันหลายงวด

ทางด้านบริษัทรถไถจึงได้แจ้งความข้อหาแก่นางบรรจงและนายกมล ผู้ค้ำพร้อมนางอุบลวรรณ ในข้อหาร่วมกันยักยอกทรัพย์  ต่อมานายกมลและนางสาวอุบลวรรณ ได้หลบหนีจึงถูกศาลออกหมายจับ และตนเองก็ต้องเป็นผู้ต้องหาไปด้วย และขอมอบตัวต่อสู้คดีเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ว่าเธอนั้นไม่มีส่วนรู้เห็นในการกระทำของสอง 2 ผัวเมียดังกล่าว

แต่หลักฐานของเธอที่ได้นำมาแสดงต่อศาลไม่มีน้ำหนักเพียงพอ จนล่าสุดเธอ เหยื่อถูกหลอกรายนี้จึงถูกศาลชั้นต้นตัดสินให้เธอชดใช้ค่าเสียหายให้แก่บริษัทรถไถเป็นเงินรวมกว่า 900,000 บาท ส่วนนายกมล รักษาพล อดีตดีเจดังติดต่อไม่ได้ และตนเองก็พยายามไปติดต่อญาติเขาก็ไม่มีใครออกมาแสดงความรับผิดชอบ อ้างว่าเขาได้หลบหนีไปทำงานที่ต่างประเทศแล้ว ทางญาติก็ติดต่อไม่ได้ ส่วนภรรยาของดีเจดังที่หลบหนีไปแล้ว คือนางสาวอุบลวรรณ อินเขื่อนพเนาว์ ถูกจนท.ตร.ติดตามจับกุมตัวได้ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ระหว่างหลบหนีหมายจับ ขณะที่กำลังจะหลบหนีไปหาสามีที่ต่างประเทศ และถูกควบคุมตัวมาดำเนินคดีจนศาลตัดสินจำคุก 3 ปี

และล่าสุด สาวเย็บผ้าที่ถูกหลอกรายนี้ คือนางบรรจง ดีมาก ก็ต้องรับชะตากรรมตามคำสั่งชดใช้หนี้ทั้งหมดกว่า 900,000 บาท ที่กำลังจะถูกบังคับคดียึดทรัพย์สินที่มีทั้งหมดทั้งบ้านที่ดินไปใช้หนี้ให้กับบริษัทรถไถดังกล่าว ที่เป็นทรัพย์สินสุดท้ายที่มีของครอบครัว ที่ต้องใช้ให้พ่อที่ป่วยติดเตียง แม่พิการหูหนวกตามองไม่ค่อยเห็น และสามีที่ป่วยทำงานหนักไม่ได้ รวมทั้งตนเองเป็นเสาหลักของครอบครัวที่ยังต้องรับจ้างเย็บผ้าหาเงินส่งเสียลูกเรียนในปัจจุบันอีก  2 คน

ซึ่ง ณ วันนี้เธอเองไม่รู้จะไปพึ่งใครได้อีกแล้ว ที่หากในอีกไม่กี่วันนี้ถูกบังคับคดียึดทรัพย์บ้านที่อาศัยทั้งหมด ก็ไม่รู้จะพาครอบครัวทั้งหมดไปอยู่ไหนได้อีกแล้ว จึงอยากออกมาวอนขอความเป็นธรรมและขอวอนเห็นใจจากอดีตดีเจดัง ที่มาหลอกให้ซื้อรถไถให้ครั้งนี้ แล้วเอารถไปขายปล่อยให้ตนเองต้องรับชะตากรรมเช่นนี้ ซึ่งอยากให้นายกมล  รักษาพล ที่ขณะนี้ยังหลบหนีอยู่ให้กลับมามอบตัว และหาเงินมาคืนให้บริษัทรถหรือนำรถไถแทรกเตอร์มาคืนให้กับบริษัทด้วย

ซึ่งครั้งนี้ตัวเธอเองไม่ได้เป็นคนก่อเรื่องขึ้น และอยากขอฝากข้อเตือนใจให้สังคมอีกครั้งว่า สังคมไทยทุกวันนี้อยู่ยาก อย่าหลงเชื่อคนง่าย อย่าดูแค่หน้าตาและฐานะทางการงาน แม้กระทั่งกับคนรอบข้างที่คิดว่าเชื่อใจได้มากเกินไปเหมือนเช่นกับตัวเธอ เธอเองไม่เคยคิดว่าจะโดนคนที่เคยคิดว่าเป็นคนของสังคม เป็นดีเจและมาตีสนิทจนเกิดความเชื่อรักกันนับถือกันมาเหมือนญาติพี่น้อง กลับทำกับเธอได้ถึงเพียงนี้ จนต้องกลายเป็นผู้ต้องหาตกเป็นจำเลยต้องชดใช้หนื้ที่เธอไม่ได้ก่อเป็นจำนวนมากที่ทั้งชีวิตก็ไม่เคยเจอเงินล้าน ซึ่งชาตินี้ทั้งชาติก็หาใช้เขาไม่หมด และอยากวิงวอนให้ จนท.ตร.หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ช่วยเร่งติดตามจับอดีตดีเจดังรายนี้มาลงโทษให้ได้ ซึ่งขณะนี้ตัวเธอเองต้องวิ่งเต้นหาเงินเพื่อมาต่อสู้คดีหมดเงินไปหลายแสนบาทแล้ว แต่สุดท้ายก็ต้องชดใช้หนี้เงินเกือบ 1 ล้านบาทที่ตัวเธอเองไม่ได้ก่อขึ้น และที่อยู่อาศัยทรัพย์ที่มีทั้งหมดกำลังจะถูกยึดไปเพื่อใช้หนี้ค่ารถไถแทนครั้งนี้ และก็ไม่รู้ว่าชีวิตครอบครัวที่ปัจจุบันตนเองมีภาระต้องเลี้ยงดูอีกจำนวนมากจะพากันอยู่ได้อย่างไรต่อไป

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of สุทธิพงศ์ เสฏฐรังสี

สุทธิพงศ์ เสฏฐรังสี

น้อมรับการทำหน้าที่สื่อเพื่อประชาชนมายาวนานกว่า25ปีเพื่อชาวชัยภูมิพร้อมเป็นเครือข่ายการทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีในนามสมาคมนักข่าวจังหวัดชัยภูมิและชมรมสื่อมวลชนชัยภูมิพร้อมรับใช้ชาวชัยภูมิและเป็นเวทีให้กับประชาชนทุกท่านตลอดไปมีอะไรเดือดเนื้อร้อนใจติดต่อมาที่ทีมงาน77ข่าวเด็ดชัยภูมิเราได้หรือที่[email protected]