ชัยภูมิ – ผู้เป็นแม่-ภรรยา หลังเปิดโลงขอดูหน้าศพลูก-สามี ถึงร้องไห้โฮจนเป็นลมยืนยันเป็นศพลูกชาย-สามี ที่เสียชีวิตในอิสราเอลจริง!
เมื่อเวลา 15.50 น.วันที่ 20 ตุลาคม 2566 ล่าสุดหลังวันนี้มีการส่งร่างแรงงานชาวไทยที่เสียชีวิตอยู่ที่อิสราเอล ชุดแรกรวม 8 ศพ และส่วนหนึ่งเป็นแรงงานชาว จ.ชัยภูมิ ในครั้งนี้ด้วย 1 ราย ที่หลังศพถึงสนามบินในประเทศไทยแล้วตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา และได้นำร่างแรงงชาว จ.ชัยภูมิ 1 ราย ขึ้นรถตู้ป้ายทะเบียน 1 นข 2558 หมวดจังหวัดกรุงเทพฯ เพื่อนำร่างของ นายอานันต์ เพชรแก้ว อายุ 39 ปี เดินทางส่งให้ญาติรอรับศพถึงบ้านเกิด เลขที่ 41 ม.3 บ.โนนเชือก ต.ส้มป่อย อ.จัตุรัส จ.ชัยภูมิ หลังแรงงานชาว จ.ชัยภูมิ ในครั้งนี้ได้เดินทางไปทำงานที่อิสราเอลมาแล้ว 2 ปี 5 เดือน(ยังไม่ครบสัญญา 5 ปี)
ที่ล่าสุดมีการตรวจยืนยันแล้วว่าเป็นผู้เสียชีวิตตั้งแต่เกิดสงครามกลุ่มฮามาสบุกถล่มอิสราเอลในวันแรก ที่ถูกระเบิดยิงใส่บ้านพักคนงานมีคนเสียชีวิตรวม 5 ราย และตรวจยืนยันหาว่าเป็นแรงงานประเทศใดยังไม่ได้อีก 3 ราย และในวันนี้ 1 ใน 3 ศพ เป็นแรงงานกลายเป็นแรงงานชาวจังหวัดชัยภูมิ
จนล่าสุดวันนี้เมื่อเมื่อ 15.50 น.ที่ผ่านมา รถตู้ดังกล่าวได้นำร่างแรงงานชาวชัยภูมิ กลับมาถึงบ้านเกิดให้กับญาติชาว จ.ชัยภูมิ รายนี้แล้ว โดยใส่มาในโลงแบบป้องกันมาอย่างดี
ก่อนที่ทางครอบครัวและญาติยืนยันว่าจะขอเปิดท้ายรถรับศพเอง พอรถมาถึงบริเวณหน้าบ้าน พนักงานขับรถได้ให้ญาติและภรรยาได้มาจุดธูปจำนวน 16 ดอก โดยมีดอกไม้ดาวเรือง เพื่อเชิญวิญญาณของนายอานันต์ ฯลงจากรถ จุดบริเวณหน้ารถ บริเวณหน้ารถ ภรรยาของผู้เสียชีวิตจับบริเวณป้ายชื่อหน้ารถ ยืนยันว่าเป็นชื่อของสามีตนจริง หลังจากนั้นก็ได้นำธูปไปปักลงดินพร้อมเรียกชื่อสามีกลับบ้านตามประเพณี
ซึ่งหลังจากที่ทำพิธีอัญเชิญเวลาลงจากรถแล้วก็เป็นหน้าที่เชิญวิญญาณของทางศาสนาที่บ้านเกิด หลังจากนั้นก็ได้ก็ได้นำร่างลงจากรถ ซึ่งตอนที่จะนำร่างลงมาก็ได้นำพวงหรีดของทางหน่วยงานที่นำมาจากกรุงเทพฯ ซึ่งหลังจากนั้นก็ได้นำโลงลงรถมาเพื่อที่จะทำการเปิดโลงเพื่อให้ญาติและครอบครัวดูว่าเป็นร่างของนายอานันต์ จริงหรือไม่
หลังจากที่ทางญาติและครอบครัว ยังทำใจไม่ได้ว่าไม่น่าจะใช่ศพลูกและสามีตัวเอง ได้หมุนน็อตที่ปิดฝาโลงมาอย่างแน่นหนาแล้ว และ ทำการเปิดฝาโลง พอเปิดถุงซิปออกมาแล้ว ทางญาติก็ได้ดูหน้าอันไร้วิญญาณของ นายอานันต์ ทางด้าน นางอ้อยใจ ชัยศรี ภรรยาของนายอานันต์ และบุตรสาว วัย 11 ขวบ รวมถึงนาง ไพรวัลย์ เพชรแก้ว อายุ 58 ปี ผู้เป็นแม่ของนายอานันต์ เพชรแก้ว ยืนยันว่าเป็นร่างของสามีและลูกชายตัวเองจริง พร้อมร้องไห้ออกมาอย่างหนัก จนผู้เป็นแม่เป็นลมล้มทั้งยืน ที่เห็นสภาพศพแล้วสภาพใบหน้าลูกยังพอดูเค้าโครงได้ แต่บวมขึ้นเท่านั้น อีกทั้งยังมีสภาพเหมือนไฟไหม้บริเวณใบหน้า แต่ญาติก็ได้นำร่างออกจากโลงที่มาจากอิสราเอล ก่อนที่จะนำบรรจุเข้าโลงเย็นใบใหม่ และ ได้เชิญญาติและครอบครัวออกจากบริเวณดังกล่าว เพื่อจะนำร่างบรรจุใส่โลงเย็นใบใหม่
ขณะที่กำลังเปลี่ยนถ่ายโลงนั้นแม่และภรรยาของผู้เสียชีวิตได้เกิดร้องไห้ออกมาไม่หยุดจนเป็นลมไปอีกพักใหญ่หลายครั้ง ก่อนที่รถพยาบาลจะมารับตัวไปรักษา ส่วนการประกอบพิธีทางศาสนานั้นทางญาติและครอบครัวก็จะได้หารือกันอีกครั้งก่อนว่าน่าจะนำร่างเพื่อทำพิธีตามศาสนาไว้กี่วัน ซึ่งหลังจากนี้ก็จะทำพิธีทางศาสนาในช่วงนี้ไปก่อน
ด้าน นางสาวภิตินันท์ สินธุพันธ์ประทุม นักวิชาการแรงงาน ชำนาญการพิเศษ รักษาราชการแทนจัดหางานจังหวัดชัยภูมิ กล่าวว่า ในส่วนของเรื่องสิทธิประโยชน์ของผู้เสียชีวิตนั้นทางตัวแทนจัดหางานจังหวัดชัยภูมิ ก็ได้เข้ามาดูแล ซึ่งในการจัดงานศพผู้ประกันตนมาตรา 39 ก็จะได้ค่าจัดงานศพเป็นเงินจำนวน 50,000 บาท ถ้าในกรณีจดทะเบียนสมรส ทางครอบครัวก็จะได้เงินเดือน เดือนละ 4 หมื่นบาท จนกระทั่งเสียชีวิตหรือแต่งงานใหม่ และ บุตรของผู้เสียชีวิตจะได้รับเงินเดือนละ 8,000 บาทในทุกๆ เดือน ส่วนประกันสังคมของผู้เสียชีวิตนั้น จะได้รับเงินที่ของผู้เสียชีวิตออมไว้ทั้งหมด 104,665 บาท เงินสงเคราะห์ผู้เสียชีวิต 28,800 บาท ซึ่งทั้งหมดจะได้รับหลังจากที่ร่างกลับถึงภูมิลำเนา ซึ่งจะนำจ่ายให้กับทายาทอีกด้วยต่อไป
