ตำรวจรวบคาหนังคาเขา แก๊งลักลอบตัดสายเคเบิ้ลระบบสัญญานสื่อสารของโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ตใต้ดิน ขณะที่ตัวแทนผู้เสียหายเผยผู้ก่อเหตุมีความรู้ถึงทำได้
เมื่อเวลา 03.00 น. วันที่ 23 ต.ค.66 นายอนุชา เสรีรัฐ อายุ 56 ปี รักษาการผู้จัดการส่วนตอนนอก บริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด เข้าแจ้งความ ร.ต.อ.บุชิต ทิมา รอง สว.(สอบสวน) สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ว่ามีกลุ่มคนร้ายลักลอบตัดสายเคเบิ้ลระบบสัญญานสื่อสารของโทรศัพท์และอินเตอร์เน็ต ซึ่งเป็นสายเมนขนาดใหญ่เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 4 นิ้ว ที่ร้อยท่อฝังใต้ดิน ภายในชอยแจ้งวัฒนะปากเกร็ด6 ถนนแจ้งวัฒนะ ต.ปากเกร็ด จึงไปตรวจสอบพร้อมด้วย พ.ต.ท. ก้องพิสิษฐ์ พฤกษาชีวะ รอง ผกก.ป พ.ต.ท.พรนารายณ์ แสงทอง สวป.สภ.ปากเกร็ดและกำลังเจ้าหน้าที่สายตรวจ
ในที่เกิดเหตุบริเวณท้ายซอยพบกลุ่มคนร้ายกำลังลักลอบตัดสายสายเคเบิ้ลอยู่ในบ่อร้อยสายสัญญานในดินที่ฝังตามแนวถนน จึงนำกำลังเข้าจับกุมคัวไว้ได้ 7 คน ประกอบด้วย นาย สุริยน กังก๋ง อายุ 27 ปี ขาวจังหวัดกาฬสินธุ์ นายศิลาวิชญ์ สาหัส อายุ 20 ปี ชาวจังหวัดนครพนม นายหรรษา นามมนตรี อายุ 34 ปี ชาวจังหวัดอุทัยธานี นายกรกต สินปรุ อายุ 35 ปี ชาวจัวหวัดนครราชสีมา นาย นพรัช ชัยยุทธภูมิ อายุ 28 ปี ชาวกทม. นาย นัดธิวา นามี อายุ 34 ปีชาวจังหวัดศรีสะเกษ และนาย พายุ เปรียบกล้า อายุ 39 ปี ขาวจังหวัดระยอง พร้อมของกลาง รถปิกอัพยี่ห้ออีซูซุ สีขาวหมายเลขทะเบียน ฒฒ 3512 กทม. รถปิกอัพยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน 2 ผฉ 8929 กทม. รถปิกอัพยี่ห้ออีซูซุ สีขาว หมายเลขทะเบียน 3 ฒย 2126 กทม. รถบรรทุก 6 ล้อ ยี่ห้ออีซูซุ หมายเลขทะเบียน 70-4496 พะเยาสายเคเบิ้ลสื่อสารเคเบิ้ล ยาว 1 เมตร จำนวน 2 ท่อน คีมตัดสาย จำนวน 10 อัน ในความผิดฐาน “ ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะ ”
นายอนุชา กล่าวว่า ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายเฝ้าระวังของบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด พบว่าสัญญานโทรศัพท์และสัญญานอินเตอร์เน็ตที่อยู่ในโซนของพื้นที่ถนนแจ้งวัฒนะและติวานนท์ อ.ปากเกร็ด ได้หายไปจากระบบ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ขุดเฝ้าระวังได้มีการติดตามในเรื่องนี้มาตั้งแต่คืนวันที่ 19 ต.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากสายเคเบิ้ลใต้ดินบริเวณหน้าปั้มน้ำมันเอสโซ่ ถนนติวานนท์ ต.บ้านใหม่ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ถูกคนร้ายลักลอบตัดและมีการลักลอบตัดมาเป็นระยะๆตามถนนสายต่างๆ ซึ่งคนร้ายจะมีความรู้และความชำนาญในวิธีการลักลอบตัดสาย เนื่องจากต้องเปิดฝาบ่อท่อพัก จากนั้นจะต้องลงไปในบ่อพักเพื่อตัดสาย ก่อนเปิดบ่อพักที่อยู่ถัดไปในระยะห่างกัน 200 เมตร ใช้เชือกผูกกับรถในการดึงสายขึ้นมาจากใต้ดิน จากนั้นจะตัดเป็นท่อนเพื่อนำไปขายให้กับกลุ่มนายทุนในตลาดมืด ในราคาหลักแสนบาท เนื่องจากสายสัญญานเป็นทองแดงบริสุทธิ์ โดยสร้างความเสียหายกับทางบริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัดหลักหลายล้านบาท
นายอนุชา กล่าวต่อว่ากลุ่มคนร้ายจะเลือกเวลาลงมือก่อเหตุในช่วงดึก โดยแต่งกายและใส่เสื้อสะท้อนแสง ทำทีเหมือนเป็นเจ้าหน้าที่มาปฏิบัติงาน เพื่อตบตาไม่ให้ผู้ที่สัญจรผ่านไปมาสงสัย สำหรับในการก่อเหตุในลักษณะนี้เกิดขึ้นเป็นระยะๆทั่งในพื้นที่กทม.และปริมณฑล สร้างความเสียหายนับร้อยล้านบาท ซึ่งในการก่อเหตุครั้งนี้ทำให้สัญญานโทรศัพท์ราว 3 พันคู่สายและสัญญานอินเตอร์เน็ตไม่สามารถให้การได้ โดยต้องใช้เวลา 2-3 วัน ในการแก้ไขเนื่องจากเป็นสายเมนหลักของระบบสัญญาน
