พังงา-ปรับเกณฑ์แจกเงินดิจิทัลชักวุ่น ชาวพังงามีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยบอกดับความฝันของหลายคน
เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2566 จากกรณีที่คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เตรียมเสนอ 3 ทางเลือกกลุ่มเป้าหมายผู้ใช้เงินดิจิทัล ให้นายกรัฐมนตรีพิจารณา จากเดิมที่แจกทั่วหน้า เป็นแบ่งเกณฑ์การรับเงินดิจิทัลเป็น 3 แนวทาง 1.จ่ายเฉพาะกลุ่มผู้มีรายได้น้อย ซึ่งมีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 15-16 ล้านคน ใช้งบประมาณ 1.6 แสนล้านบาท 2.มีรายได้เดือนละ 25,000 บาท หรือมีเงินฝากในบัญชี 1 แสนบาท จะเหลือผู้ที่ได้รับสิทธิ 43 ล้านคน ใช้งบประมาณ 4.3 แสนล้านบาท 3. ผู้ที่มีรายได้เกินเดือนละ 50,000 บาท หรือมีเงินฝากในบัญชี 5 แสนบาท จะเหลือผู้ได้รับสิทธิ 49 ล้านคน ใช้งบประมาณ 4.9 แสนล้านบาท ล่าสุดได้สอบถามความคิดเห็นของชาวพังงา พบว่ามีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย
นายอภิเดช หิโตปกรณ์ อาชีพนักธุรกิจ กล่าวว่า ตนเห็นด้วยกับนโยบายแจกเงินดิจิทัลของรัฐบาล ยิ่งมีการมาปรับเกณฑ์ใหม่ก็ยิ่งเห็นด้วย เพราะจะเป็นผลดีขึ้น ถ้าแจกคนจนจริง ๆ 2 หมื่นก็แจกได้ จริงถ้าให้ได้ประโยชน์จริง ๆ ก็ควรจะแจกให้เยอะ ให้ได้วอลลุ่มมากพอจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ถ้าน้อยไปก็อาจจะไม่ได้ผล อยากให้แจกให้ถึงกลุ่มคนจนให้เยอะ ๆ ในส่วนของการใช้จ่ายก็เห็นด้วยกับการให้ใช้ในอำเภอ หรือในจังหวัด สำหรับการแจกเงินดิจิทัลนั้น เป็นนโยบายที่ดีใช้งบประมาณถึงมือประชาชนโดยตรง จากการใช้งบประมาณที่ต้องผ่านไม่ต้องผ่านนักการเมือง ปลัดกระทรวง อธิบดี ผู้ว่า นายอำเภอ นายกท้องถิ่น มาเป็นประชาชนได้รับเงินงบประมาณโดยตรงจากเงินดิจิทัลได้ใช้จ่ายเองกับมือ
ข่าวน่าสนใจ:
ขณะที่ นายคณิต หงส์สวัสดิกุล อาชีพเกษตรกร กล่าวว่า ตนเองไม่เห็นด้วยกับการปรับเกณฑ์การแจกเงินดิจิทัล เพราะถือว่าเป็นการเลือกปฏิบัติ ตนเองเป็นคนหนึ่งที่เลือกพรรคเพื่อไทยมา และชื่นชอบในนโยบายแจกเงินดิจิทัลแบบทั่วหน้า เป็นเป็นการใช้ยาแรงในการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ แต่การที่คณะอนุกรรมการขับเคลื่อนนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต เตรียมเสนอ 3 ทางเลือกกลุ่มเป้าหมายผู้ใช้เงินดิจิทัลนั้น คิดว่าเป็นการเลือกปฏิบัติขัดแย้งกับตอนที่พรรคเพื่อไทยหาเสียงไว้ เป็นการดับความหวังของคนหลายคน ดังนั้นควรจะแจกแบบทั่วหน้าเหมือนเดิม ส่วนใครที่ไม่อยากได้ก็ไม่ต้องไปใช้ ซึ่งก็จะหมดอายุเองใน 6 เดือน สำหรับเกณฑ์แจกคนจนนั้นมันก็เป็นนโยบายบัตรคนจนของลุงตู่นั่นเอง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: