จากการที่มีข่าวว่ากลุ่มติดอาวุธฮามาส จะปล่อยตัวประกัน ที่จับไปตั้งแต่วันที่ 7 ตุลาคม 2566 จำนวน กว่า 50 คนทำให้ญาติ ๆ ของแรงงานไทยที่ถูกจับตัวไปและบางคนยังไม่รู้ชะตากรรมต่างมีความหวัง และรอลุ้นรายชื่อตัวประกันที่จะถูกปล่อยตัวอย่างใจจดใจจ่อ
นางราตรี เหลินต้ายซ้าย ชาวอำเภอโพนสวรรค์ ภรรยาของนายพัฒนายุทธ ต้อนโสกรี หนึ่งในสี่ของแรงงานชาวไทยที่ถูกกลุ่มฮามาสจับตัวไปเป็นตัวประกัน ตั้งแต่เช้าตรู่ของวันที่ 7 ต.ค. 2566ก็เป้นอีกคนหนึ่งที่เฝ้าคอยและติดตามข่าวคราวดังกล่าวอย่างใกล้ชิด โดยนางราตรีเปิดเผยว่า สามีคือนายพัฒนายุทธ ได้ไปทำงานที่ประเทศอิสราเอล โดยทำหน้าที่รีดนมวัวในฟาร์มเกษตรนานกว่า 2 ปี แล้ว ได้เงินเดือนราวๆ ห้าหมื่น บาท ซึ่งที่ทำงานอยู่ห่างจากจุดสู้รบประมาณ 6 กิโลเมตร และในวันที่ 7 ตุลาคม ตนก็ยังวิดีโอคอล ติดต่อพูดคุยกับสามีได้ปกติ แต่หลังจากที่คุยกันได้ไม่ถึง 10 นาทีสัญญาณโทรศัพท์ได้ถูกตัดขาดหายไปอย่างกระทันหัน และ หลังจากนั้นก็ติดต่อกับสามีไม่ได้อีกเลย ทุกวันนี้ตนตกอยู่ในสภาพที่กินไม่ได้นอนไม่หลับ ร้องไห้จนแทบไม่มีน้ำตาจะไหล เพราะเป็นห่วงและคิดถึงสามี ไม่รู้เป็นตายร้ายดีอย่างไร แต่ก็ยังมีความหวังว่าสามียังมีชีวิตอยู่ และจะกลับมาอย่างปลอดภัย ทุกวันนี้ไม่มีข่าวสารหรือความคืบหน้าเกี่ยวกับ นายพัฒนายุทธ สามีของตนจากทางการใดๆ เลย ตั้งแต่วันที่ 7 เป็นต้นมาก็ไม่รู้ว่าจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร สอบถามใครก็ไม่มีคำตอบ รู้สึกสับสนไปหมด ข่าวบางกระแสก็ว่ายังคงมีชีวิตอยู่ แต่ก็ยังไม่สามารถติดต่อหากันได้
โดยนางราตรีกล่าวด้วยสีหน้าค่อนข้างสิ้นหวังและแสดงความกังวลเกี่ยวกับหนี้สินและรายจ่ายที่จำเป็นของครอบครัว เพราะเหตุการณ์ความรุนแรงเกิดขึ้นก่อนที่เงินเดือนของสามี จะออกเพียงสองวัน ทำให้ขณะนี้ไม่มีเงินเหลือให้ใช้จ่าย ซึ่งปกติสามีจะส่งมาให้ใช้จ่ายเป็นประจำทุกเดือน โดยขณะนี้ใกล้ถึงกำหนดชำระหนี้ค่างวดรถและค่าเทอมค่าอุปกรณ์ของลูกที่ต้องจ่ายแล้วทำให้ตนยิ่งกังวลและหนักใจเป็นอย่างมาก ทั้งนี้ยังได้ตัดพ้อหน่วยงานของรัฐต่างๆ หลังจากที่เคยติดต่อมาตอนแรกๆ แต่ไม่มีการยืนยันว่าสามียังมีชีวิตอยู่หรือไม่
