สระแก้ว – ครอบครัวสุดเศร้า แม่ของ”น้องบอล” ร่ำไห้รับเถ้ากระดูกลูกชาย หลังถูกฆ่าโหดยัดถุงดำทิ้งน้ำ ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา ระบุ ทำไมโหดร้ายกันขนาดนี้ ด้านรอง ผกก.ตำรวจเมืองปอยเปต บอกกับญาติว่า ตำรวจกำลังสืบสวนและทราบเบาะแสผู้ก่อเหตุแล้ว เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างดำเนินการพร้อมขอแสดงความเสียใจกับญาติ
เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 27 ต.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณหน้าด่านผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ญาติของ นายผดุงเกียรติ คำวิต๊ะ หรือ น้องบอล อายุ 31 ปี ที่อยู่ 133 ม.1 ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ซึ่งเดินทางไปทำงานในบ่อนออนไลน์ฝั่งปอยเปต ประเทศกัมพูชา และถูกฆ่ายัดถุงดำทิ้งศพที่บริเวณบ่อน้ำใกล้ทุ่งนา ทางด้านทิศใต้ ของบ้านกูบธม เมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา ห่างจากชายแดนไทย-กัมพูชา บริเวณด่านปอยเปต-คลองลึก เกือบ 50 กม. เมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งชาวบ้านพบเห็นชายหลายคนใช้รถตุ๊ก ๆ แบบพ่วงข้างนำถุงดำขนาดใหญ่มาโยนทิ้งบ่อน้ำดังกล่าว ซึ่งมีการพูดคุยกันเป็นภาษาไทย โดยพบศพสภาพเปลือยเปล่า ถูกทุบตีด้วยของแข็ง จนร่างกายบวมช้ำทั้งร่าง โดยเฉพาะที่ใบหน้าบวมบูด ซึ่งญาติอนุญาตให้ทำการเผาศพเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 26 ต.ค.เนื่องจากศพขึ้นอืดและส่งกลิ่นเหม็น เพื่อนำเถ้ากระดูกมามอบให้กับญาติในช่วงบ่ายวันนี้ ที่บริเวณที่ทำการกองร้อยทหารพรานที่ 1201 ชุดควบคุมกรมทหารพรานที่ 12 โดยมี พ.ต.ท.เรียน เซาะเพรียะ รองผู้กำกับการสถานีตำรวจปอยเปต ,พ.ต.อัศวิน เสาทอง ผบ.ร้อย ทพ.1201 ,เจ้าหน้าที่ สน.ปทก.ไทย-กัมพูชา และทีมงานกลุ่มช่วยเหลือคนไทยที่ตกทุกข์ได้ยากในต่างแดน ร่วมกันนำห่อผ้าบรรจุเถ้ากระดูกมามอบให้กับทางญาติผู้ตายที่เดินทางมาจำนวน 7 คน จาก จ.เชียงราย
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง น.ส.มาลาริน วงศ์มูล อายุ 51 ปี ที่อยู่ 133 ม.1 ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย แม่ของ”น้องบอล”ผู้เสียชีวิต เซ็นต์ชื่อรับมอบเถ้ากระดูกลูกชาย จากรองผู้กำกับการตำรวจปอยเปตแล้ว ได้ปล่อยโฮร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจ ขณะที่ญาติ ๆ ช่วยกันนำเถ้ากระดูกที่เจ้าหน้าที่กัมพูชาห่อใส่ผ้าขาว เพื่อนำใส่หม้อดินที่เตรียมไว้ สำหรับนำกลับไปบำเพ็ญกุศลทางศาสนาที่บ้านเกิดที่ จ.เชียงราย ซึ่งระหว่างพูดคุยกัน พ.ต.ท.เรียน เซาะเพรียะ รองผู้กำกับการสถานีตำรวจปอยเปต ได้บอกกับญาติว่า ตำรวจกัมพูชากำลังสืบสวนและทราบเบาะแสผู้ก่อเหตุแล้ว เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างดำเนินการตามกฎหมาย พร้อมกับแสดงความเสียใจกับญาติในครั้งนี้
น.ส.มาลารินฯ แม่ของ”น้องบอล” ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวว่า น้องบอลเดินทางมาทำงานที่ฝั่งปอยเปตได้ปีกว่า มีพี่น้อง 2 คน ส่งเงินให้ครอบครัวบ้าง ทำมาก็ใช้จ่ายไป ซึ่งก่อนเกิดเหตุไม่รู้เลยว่า ลูกไปทำอะไรบ้าง รู้แค่ว่ามาทำงานเวป โทรคุยกันไม่บ่อย เพราะลูกเป็นคนไม่ค่อยพูด ต้องการให้เรื่องนี้เป็นอุทาหรณ์ให้กับคนที่เดินทางไปทำงานกัมพูชา เมื่อได้รับกระดูกก็จะเอาไปทำบุญให้น้อง ส่วนเงินช่วยเหลือหรือค่าชดเชยอะไรต่าง ๆ ไม่รู้จะไปเรียกร้องจากใคร เราอยู่ฝั่งไทยเห็นแค่ภาพที่มีการส่งไปให้ดู ซึ่งเมื่อเห็นก็ยืนยันได้ว่า เป็นลูกชายของตนเอง ศพโดนทุบตี ทำไมถึงใจดำใจร้ายขนาดนี้ เหตุไม่ได้เกิดฝั่งไทยเรา จึงไม่รู้จะไปเอาเรื่องกับใคร ขอให้เจ้าหน้าที่สอบสวนและเอาคนผิดมาลงโทษให้ได้
ข่าวน่าสนใจ:
- ทำลายท่อซิ่ง!! รถ จยย.เสียงดังผิดกฎหมาย หลังระดมกวาดล้างจับกุมใช้มาตรการเข้มจับ-ปรับ 2,000 บาท ยึดท่อ ทำเอ็มโอยูผู้ปกครอง
- ป.ป.ช.ลงพื้นที่การรุกล้ำทางเข้าและกีดขวางการจราจร หน้าด่านคลองลึก-ตลาดโรงเกลือ จ.สระแก้ว
- สภาพการจราจรสระแก้วมุ่งหน้าช่องเขาตะโก ไปบุรีรัมย์และอีสานใต้เคลื่อนตัวได้ คาดตั้งแต่ค่ำนี้เป็นต้นไปรถเริ่มหนาแน่น
- สระแก้ว จัดพิธีรับพระราชทาน “พระพุทธสิรินธรเทพรัตน์มงคลภูวดลสันติ”
“แม่เห็นรูปก็รู้ว่า ใช่ลูกแม่แน่นอน ลูกบอกไปทำงานเว็บ ก่อนจะเสียชีวิตก็โทรมาพูดคุยกันปกติ ไม่ได้ถามอะไร หลังจากนี้ก็จะเอากระดูกกลับไปทำบุญให้เค้า ใครเป็นญาติก็เป็นห่วงทุกคน ไม่อยากให้เรื่องมันเกิดแบบนี้ อยากให้กรณีของลูกชายเป็นอุทาหรณ์ให้คนอื่น ๆ ที่ไปทำงานฝั่งปอยเปต” แม่ของ”น้องบอล”
ส่วน น.ส.กันยา ไชยภา อายุ 35 ปี พี่สาวของคนตาย กล่าวว่า อยากให้เจ้าหน้าที่สืบสวนให้รู้ว่า เป็นใครที่ทำกับน้องเราขนาดนี้ เพราะคนทั้งคน มีอะไรก็คุยกันดี ๆ เพราะน้องเค้าไม่มีโอกาสได้พูดได้อธิบาย ตายโดยที่ไม่ได้บอกได้ถามอะไร โดยน้องคนนี้ ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยได้คุยกัน ส่วนใหญ่ก็ต่างคนต่างไปทำงาน กระทั่งได้รับข่าวกับกลุ่มเพื่อนที่นำภาพหรือโพสต์ของน้องมาให้ดู ซึ่งปกติไม่ได้พูดหรือโพสต์แบบนี้ กระทั่งได้ข้อมูลและว่า มีคนเสียชีวิต จนเห็นรูปและยืนยันว่า เป็นน้องชาย จึงอยากเตือนคนที่จะไปทำงานฝั่งปอยเปต หากอยากไปขอให้ไปอย่างถูกต้อง ส่วนคดีอยากให้หาคนผิดมาลงโทษ เพราะน้องเราทั้งคน ชีวิตทั้งชีวิต
ส่วน คุณเบิร์ด หรือ ผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อว่า “ก็แค่ คนธรรมดา” และเป็นทีมงานกลุ่มช่วยเหลือคนไทยที่ตกทุกข์ได้ยากในต่างแดน เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 24 ต.ค.มีกรณีช่วยเหลือคนไทยที่ถูกแทงกลับจากฝั่งกัมพูชา ซึ่งเป็นเวลาเดียวกับกรณีของนายผดุงเกียรติ หรือน้องบอล ซึ่งทราบข้อมูลเบื้องลึกว่า วันนั้นช่วงตี 5 มีชาวบ้านแถวหมู่บ้านที่พบศพ แจ้งว่า ศพในถุงดำเป็นคนไทยขับรถเข้าไปแล้วเอาถุงไปทิ้ง ช่วงเช้าชาวบ้านพบศพ จึงแจ้งตำรวจกัมพูชา ซึ่งตอนแรกไม่รู้ว่า เป็นใคร กระทั่งได้ภาพจากทีมงาน ได้ภาพศพและรายละเอียด กระทั่งทราบชื่อคนตาย จึงประสานไปทางแม่คนตายให้เดินทางมาที่ด่านคลองลึก ตอนแรกจะเอาศพกลับ แต่ทางเราให้ทีมงานไปขอเปิดโลงดู ศพมีการขึ้นอืดและมีกลิ่นเหม็นแล้ว จึงประสานแม่คนตายว่า น่าจะต้องเผาแล้วเอากระดูกกลับมาจะสะดวกกว่า จึงมีการเผาและเอาเถ้ากระดูกมามอบให้
โดยคุณเบิร์ดฯ บอกว่า เบื้องต้นคนไทยในต่างแดนที่เข้าไปทำงานข้างในฝั่งปอยเปต อยากให้ข้อมูลว่า ทุกคนอย่าคิดว่า ตัวเองถือหนังสือเดินทางหรือบอร์ดเดอร์พาสจะเข้าไปถูกต้องตามกฎหมายก็จริง แต่หากไปทำงานโดยไม่ผ่านระบบเอ็มโอยูหรือไม่มีชื่อในระบบการเดินทางข้ามไปทำงานในต่างประเทศ จะไม่ได้รับสิทธิ์ใด ๆ เวลามีปัญหาเจ็บป่วยล้มตาย การช่วยเหลือจากทางการไทยค่อนข้างจะยาก เพราะมีหลายคนเข้าใจผิดว่า ทำไมทางการไทยไม่ช่วยเหลือ ซึ่งต้องดูตัวคุณเองด้วยว่า คุณเข้าไปแบบไหน ถูกต้องหรือไม่ เพราะเช็คจากระบบของ ตม.รู้ทันทีว่า เดินทางเข้าไปเที่ยวหรือไปทำงาน
อย่างไรก็ตาม สำหรับข้อมูลเบื้องลึกที่น้องบอลฯ ถูกฆาตกรรมนั้น ทางทีมงานกลุ่มช่วยเหลือคนไทยที่ตกทุกข์ได้ยากในต่างแดน ให้ข้อมูลว่า จากข้อมูลเชิงลึก กรณีนี้น้องน่าจะติดการพนัน และดึงเงินของบ่อนไปใช้ และไม่ใช่บ่อนของคนจีน ก่อนเสียชีวิตก็ยังไปขอยืมเงินจากแฟนเก่า 50,000 บาทและเพื่อน ๆ ซึ่งจากข้อมูลเชิงลึก ตอนแรกก็เข้าไปทำงานปกติ จนเป็นที่ไว้วางใจให้คอยดูแลเงิน และน่าจะหมุนเงินไม่ทัน จึงมีการถ่ายโอนเงินไปใช้จ่ายและเล่นสล๊อต ตอนแรกบอกว่า ประมาณ 2 แสน แต่จากข้อมูลเพิ่มเติมน่าจะถึง 6 แสนบาท กระทั่ง ถูกเรียกซ้อมปกติไม่ถึงขนาดตาย แต่น่าจะเป็นการพลั้งมือ จนทำให้น้องหมดสติหรือเสียชีวิต จึงนำไปสู่การนำร่างไปทิ้ง และจากข้อมูลที่มีการไล่ตรวจสอบ ตอนนี้เจ้าหน้าที่่เข้าไปสอบสวนคนเห็นเหตุการณ์และกล้องวงจรปิด จนได้เบาะแสผู้ก่อเหตุแล้ว
——————————-
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: