วินาทีที่กู้ภัยเร่งช่วยชีวิตหญิงสาว หลังขี่รถจักรยานยนต์พุ่งชนรถพ่วง 18 ล้อจนติดคาล้อหน้ารถบรรทุกพ่วงเจ็บสาหัส ขณะที่พบว่ารถบรรทุกพ่วงกลับรถในที่ห้ามกลับ
เมื่อเวลา 18.30 น.วันที่ 30 ต.ค.66 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ชัยพฤกษ์ จ.นนทบุรี พร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊งและทีมกู้ชีพจาก ร.พ.ปากเกร็ด 2 เดินทางเข้าตรวจสอบหลังจากได้รับแจ้งมีรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อชนกับรถ จยย.มีผู้บาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบนถนนทางหลวงหมายเลข 345 ขาออกเชิงสะพานข้ามคลองบางตะไนย์ ต.คลองข่อย อ.ปากเกร็ด จึงรุดเข้าตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุพบรถ จยย.ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่น เอ็ม-สแลซ สีเทา-ดำ ทะเบียน 1กญ 2718 ตาก อยู่ในลักษณะพุ่งชนอัดติดกับล้อหน้าของรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อยี่ห้อ อีซูซุ ส่วนหัว ทะเบียน 61-2140 กทม ท้ายพ่วงทะเบียน 78-2463 กทมโดยที่รถบรรทุกพ่วงนั้นจอดลักษณะตีวงเลี้ยวกลับรถและขวางถนนอยู่ อีกทั่งยังพบว่าจุดเกิดเหตุนั้นเป็นช่องทางที่ห้ามกลับรถ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ต้องเร่งช่วยเหลือ น.ส.ศิราพร พรหมวิชัย อายุประมาณ 30 ปีเป็นผู้ขับขี่รถ จยย.ได้รับบาดเจ็บสาหัสยังอยู่ในสภาพที่นั่งค่อมอยู่บนรถ จยย.แต่ก็ยังมีสติ ทีมกู้ชีพและกู้ภัยต้องพยายามช่วยกันเคลื่อนย้ายลงจากรถ จยย.ก่อนที่จะนำตัวส่ง ร.พ.ปากเกร็ด 2
นายทอง สังฃพงษ์ อายุ 45 ปีคนขับรถบรรทุกพ่วงกล่าวว่าตนเองขับรถออกมาจากโกดังใกล้ที่เกิดเหตุเพื่อมาตีวงเลี้ยวกลับรถขึ้นสะพาน ขณะนั้นไม่มีรถอื่นแต่ก็เห็นรถ จยย.คันดังกล่าวอยู่ห่างประมาณ 50 เมตรขี่พุ่งตรงเข้ามาตนเองเข้าใจว่ารถ จยย.นั้นจะชะลอแต่กับพุ่งเข้ามาชนอย่างแรงทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น ขณะเดียวกันหลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งเคลื่อนย้ายรถออกเป็นการเร่งด่วนเนื่องจากรถติดมีระยะทางกว่า 1 กิโลเมตรโดยใช้เวลาประมาณ1 ชั่วโมงเคลื่อนย้ายรถออกและเปิดการจราจรได้เป็นปกติ
