สุราษฎร์ธานี-จังหวัดสุราษฎร์ธานีร่วมกับเทศบาลนครสุราษฎร์ธานีจัดพิธีอัญเชิญและฉลองถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในงานชักพระทอดผ้าป่าและแข่งเรือยาวจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประจำปี 2566
เมื่อช่วงค่ำวันที่ 29 ต.ค.66 ที่ผ่านมา ที่บริเวณลานอเนกประสงค์ริมเขื่อนแม่น้ำตาปี ข้างวัดกลางเก่า เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ได้จัดพิธีอัญเชิญและฉลองถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในงานชักพระทอดผ้าป่าและแข่งเรือยาวจังหวัดสุราษฎร์ธานีประจำปี 2566 โดยมีนายเจษฎา จิตรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธาน พร้อมด้วย นางดาเรศ จิตรัตน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสุราษฎร์ธานี นายประเสริฐ บุญประสพ นายกเทศมนตรีนครสุราษฎร์ธานี หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารและสมาชิกสภาเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี ร่วมพิธีอัญเชิญถ้วยพระราชทาน 5 รางวัล ประกอบด้วย ถ้วยพระราชทานรางวัลชนะเลิศการแข่งเรือยาว 30 -32 ฝีพาย และ ประเภท 20-22 ฝีพาย ถ้วยพระราชทานรางวัลชนะเลิศการประกวดเรือพนมพระทางบกขนาดใหญ่และขนาดเล็ก และถ้วยพระราชทานรางวัลชนะเลิศการประกวดหุ้มผ้าป่า ประจำปี 2566
ข่าวน่าสนใจ:
นอกจากนี้ยังมี นายนาเกซ ซิงค์ เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐอินเดียประจำประเทศไทย นายอาหมัด ฟาห์มี่ อาหมัด ซากาวี กงสุลใหญ่มาเลเซียประจำจังหวัดสงขลา นายเซอร์กาน่า พริงกานู กงสุลใหญ่สาธารณรัฐอินโดนีเซียประจำจังหวัดสงขลา และ นางฟิตเตรีย ไฟซาเนีย ภริยา และนายกสมาคมสตรีอินโดนีเซีย สถานกงสุลอินโดนีเซียจังหวัดสงขลา ร่วมพิธีอันทรงเกียรติดังกล่าว
การจัดพิธีอัญเชิญและฉลองถ้วยพระราชทานฯ ในครั้งนี้ จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่และสมพระเกียรติ โดย ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้ประกอบพิธีถวายความเคารพ เบื้องหน้าพระบรมสาทิสลักษณ์และกล่าวสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ จากนั้น ได้เป็นประธานกล่าวเปิดกิจกรรมการแสดงแสงสีเสียงฉลองถ้วยพระราชทานในงานชักพระทอดผ้าป่าและแข่งเรือยาวจังหวัดสุราษฎร์ธานีประจำปี 2566 ซึ่งเป็นนำเสนอในลักษณะสื่อผสม ทั้งการแสดงทางวัฒนธรรม ชุด พระบารมี รุ่งเรืองระวีประเพณีชักพระ ฯ มีด้วยกัน 4 องค์ ประกอบด้วย องค์ที่ 1 ปฐมบทแห่งความเพียร องค์ที่ 2 รอยเท้าผ่านเปลี่ยนห้วงเวลาสู่วิถี องค์ที่ 3 คุณค่าคน คุณค่าเมือง เรืองระวี และ องค์ที่ 4 สืบประเพณี อันล้ำค่า สถาพร จากนั้นได้มีการแสดงโชว์ขบวนแห่เรือพนมพระทางบก และรถต้นเทียนพรรษาจากจังหวัดอุบลราชธานี พร้อมด้วยนางรำนางลากอย่างสวยงาม เป็นที่ตื่นตาตื่นใจของประชาชนและนักท่องเที่ยวที่มารอชมอยู่ตลอดเส้นทาง.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: