X

ชัยภูมิสุดเวทนา ด.ช.9 ขวบป่วยชอบหนีออกบ้านเร่ร่อนขอทานนอนริมถนนไปทั่ว!

ชัยภูมิ – ชาวบ้านสุดเวทนาวอนหน่วยงานเกี่ยวข้อง เร่งยืนมือช่วยครอบครัว ด.ช.9 ขวบ ป่วยพิการทางสมองมาตั้งแต่อายุเพียง 2 ขวบเศษ หลังแม่ตกงานจากช่วงโควิดระบาดมานานกว่า 4 ปี ต้องพาลูกมาอยู่ที่บ้านเกิดรักษาอาการลูกไม่ต่อเนื่อง เด็กมีอาการชอบหนีออกจากบ้านเร่ร่อนขอทาน หาอาศัยหลับนอนกับสุนัขตามพื้นถนนริมทางไปทั่ว!

( 31 ต.ค.66 ) ขณะที่ จ.ชัยภูมิ ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านพลเมืองดีในพื้นที่ อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ  และเครือข่ายผู้ประสานงานสมาคมนักข่าวสื่อมวลชนจังหวัดชัยภูมิ ให้เข้าไปช่วยเหลือ หลังพบมีเด็กชายวัยเพียง 9 ขวบ ที่มีอาการป่วยทางสมองมาตั้งแต่วัย 2 ขวบเศษ ต้องได้รับประทานยาทางจิตเวชมาตลอดและวันไหนหากกินยาไม่ต่อเนื่องเด็กก็จะมีอาการชอบแอบหนีออกจากบ้านไปหาเดินเร่ร่อนหาขอทานและไปหาหลับนอนกับสุนัขตามริมถนนสถานที่ต่าง ๆไปทั่วตำบลไปทั่ว ซึ่งมักจะบอกกับคนทั่วไปที่พบเห็นและสอบถามกับเด็กก็มักจะบอกว่าพ่อแม่เสียชีวิตหมดแล้ว ไม่มีที่อยู่

จึงมีการประสานหน่วยงานเกี่ยวข้องจากทางสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ชัยภูมิ ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง จ.ชัยภูมิ และ หน่วยงานบ้านพักเด็กและครอบครัว จ.ชัยภูมิ เจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งทางตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เขตเทศบาลตำบลภูเขียว โดยมี นายทรงวุฒิ  เพชรล้ำ สมาชิกสภาเทศบาลตำบลภูเขียว เป็นตัวแทนเทศบาลตำบลภูเขียว เข้าประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ และเข้าให้การช่วยเหลือ ด.ช.วัยเพียง 9 ขวบ รายนี้เป็นการด่วน มาตั้งแต่ช่วงเช้าวันนี้ที่ผ่านมา

โดย ทางชุดเจ้าหน้าที่ทั้งหมดได้ร่วมกันลงพื้นที่ไปตรวจสอบพบ ด.ช.เอ นามสมมุติ วัย 9 ขวบ ที่กำลังนอนกอดกับสุนัขเร่ร่อนอยู่บริเวณบนฟุตบาทริมถนนในเขตใกล้ย่านตลาดตำบลภูเขียว ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะพยายามเข้าไปสอบถามน้อง ด.ช. 9 ขวบ รายนี้ ก็ได้แต่ร้องส่งเสียงดังและวิ่งหนีเจ้าหน้าที่ไปหลบในที่พักที่มุงด้วยสังกะสี ที่เคยใช้มาแอบหลับนอน ก่อนที่ทางตัวแทนสมาชิกเทศบาลตำบลภูเขียว จะช่วยเข้าไปเกลี่ยกล่อมพูดคุยกับเด็กอยู่พักใหญ่ ก่อนที่เด็กจะยอมเดินทางขึ้นรถของเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวเพื่อไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลภูเขียว ได้เป็นผลสำเร็จ

และทางเจ้าหน้าที่ได้เดินทางเข้าพบผู้ปกครองของ ด.ช.รายนี้ ที่เด็กได้อาศัยอยู่กับผู้เป็นแม่ เพียงลำพัง 2 คน อยู่ใน ต.ผักปัง อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ซึ่งผู้เป็นแม่ให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่า ตนเองแยกทางกับสามีที่มีบุตรด้วยกัน 2 คน และแต่ละฝ่ายได้รับลูกไปเลี้ยงดูแลกันคนละคน ส่วนลูกคนโต ด.ช.วัย 9 ขวบมาอยู่กับตนที่ จ.ชัยภูมิ ส่วนลูกคนเล็กไปอยู่กับผู้เป็นพ่อที่ต่างจังหวัด

ซึ่งหลังจากที่ตนเองไปทำงานอยู่ที่ กรุงเทพฯ เมื่อช่วงกว่า 4 ปีที่ผ่านมา เกิดภาวะโควิดระบาดหนัก ตนเองจึงตกงานและพาลูกชายมาอยู่บ้านที่ อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ ที่เดิมเด็กมีอาการป่วยพิการทางสมองมาตั้งแต่อายุกว่า 2 ขวบ ต้องรับประทานจากทางโรงพยาบาลด้านจิตเวชจากแพทย์มาตลอดจนปัจจุบัน

ซึ่งปัจจุบันตนเองไม่มีงานทำ ตกงาน ได้รับการช่วยเหลือจากทางมารดาของตนเอง ที่มีศักดิ์เป็นยายของลูกชายวัย 9 ขวบ ที่ทำงานอยู่ต่างจังหวัดพอส่งเงินมาให้ช่วยเลี้ยงลูกในแต่ละเดือนจำนวน 2,000 กว่าบาทเท่านั้น ซึ่งกรณีที่เกิดขึ้นลูกชาย กินยาไม่ต่อเนื่องบางครั้งก็พบว่าแอบออกไปเดินเร่ร่อนหาขอทาน และไปหาหลับนอนกับสุนัข ตามพื้นถนนริมทางไปทั่ว และเคยออกไปติดตามหาตัวพากลับมาบ้านแล้วบ่อยครั้ง ซึ่งก็ไม่รู้จะว่าจะช่วยเหลือลูกชายที่มีปัญหาป่วยทางสมองในขณะนี้อย่างไรได้ บอกอย่างไรก็ไม่ฟัง ที่ครั้งนี้ก็อยากให้เจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือ รักษาอาการป่วยทางสมองของลูกชายวัยเพียง 9 ขวบ ได้หายจากอาการนี้ด้วย และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เข้ามาช่วยเหลือลูกชายในครั้งนี้ด้วย

ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ยังต้องให้ทางครอบครัว ผู้เป็นแม่ของเด็กต้องเข้ามาช่วยในการรักษาดูแลบุตรชายวัย 9 ขวบ รายนี้อย่างใกล้ชิดไปพร้อมคณะแพทย์ด้วย เพราะเด็กมีอาการไม่อยากอยู่ใกล้กับเจ้าหน้าที่ต้องมีผู้เป็นแม่มาร่วมดูแลช่วยรักษาอาการอย่างใกล้ชิดในช่วงนี้ด้วย เพื่อที่จะหาแนวทางมาช่วยเหลือรักษาอาการของ ด.ช.วัย 9 ขวบ รายนี้ให้หายจากอาการป่วยทางสมองที่รับยาการรักษาไม่ต่อเนื่องมานานหลายปี และจะต้องมีคนในครอบครัวมาช่วยดูแลอย่างใกล้ชิดช่วยกันในทุกฝ่ายให้มากขึ้นร่วมกันให้ได้ต่อไป ซึ่งเด็กยังมีโอกาสรักษาหายและจะได้กลับมาเรียนได้ ที่ต้องใช้เวลาโดยเฉพาะคนในครอบครัวที่จะต้องเป็นหลักให้ได้ในการเข้ามากันช่วยดูแลรักษาอาการเด็กอย่างใกล้ชิดให้มากขึ้นด้วย

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of สุทธิพงศ์ เสฏฐรังสี

สุทธิพงศ์ เสฏฐรังสี

น้อมรับการทำหน้าที่สื่อเพื่อประชาชนมายาวนานกว่า25ปีเพื่อชาวชัยภูมิพร้อมเป็นเครือข่ายการทำหน้าที่สื่อมวลชนที่ดีในนามสมาคมนักข่าวจังหวัดชัยภูมิและชมรมสื่อมวลชนชัยภูมิพร้อมรับใช้ชาวชัยภูมิและเป็นเวทีให้กับประชาชนทุกท่านตลอดไปมีอะไรเดือดเนื้อร้อนใจติดต่อมาที่ทีมงาน77ข่าวเด็ดชัยภูมิเราได้หรือที่[email protected]