กรุงเทพฯ – คณะรัฐมนตรี.เห็นชอบให้ น้ำตาลทราย เป็นสินค้าควบคุมปี 2566 หลังราคาตลาดโลกถีบตัวสูง ผู้ประกอบการแห่ส่งออก จนส่งผลปริมาณและราคาในประเทศ พร้อมให้ช่วยเหลือชาวไรอ้อยอย่างเหมาะสม เป็นธรรม
วันนี้ 31 ตุลาคม 2566 นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ ‘น้ำตาลทราย’ เป็นสินค้าควบคุมปี 2566 และมอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรม กำหนดมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวไร่อ้อยให้ได้รับผลตอบแทนอย่างเหมาะสมและเป็นธรรม สอดคล้องกับต้นทุนการผลิตอ้อยในแต่ละช่วงเวลา ควบคู่กับติดตามค่าชดเชยต่าง ๆ ที่เกษตรกรควรจะได้รับ พร้อมนำมาตรการการช่วยเหลือมาเสนอเข้าที่ประชุม ครม. ภายใน 2 สัปดาห์นี้ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อผู้บริโภคตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
“ครม. เห็นควรให้น้ำตาลทราย เป็นสินค้าควบคุม เนื่องจากราคาน้ำตาลทรายในตลาดโลกปรับสูงขึ้น จากสภาวะภัยแล้ง ความต้องการใช้ที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับราคาจำหน่ายในประเทศต่ำกว่าราคาในตลาดโลก จึงเป็นแรงจูงใจให้มีการส่งออกเพิ่มมากขึ้น กระทบต่อปริมาณน้ำตาลทรายและราคาในประเทศ ส่งผลให้ผู้บริโภคและอุตสาหกรรมต่อเนื่องได้รับผลกระทบ” นางรัดเกล้า กล่าว
ก่อนหน้านี้ สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย (สอน.) ประกาศปรับขึ้นราคาน้ำตาลทรายหน้าโรงงานใหม่ กิโลกรัมละ 4 บาท โดยน้ำตาลทรายขาว จากเดิมกิโลกรัมละ 19 บาท เป็น 23 บาท, น้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ จากเดิม 20 บาท เป็น 24 บาท ส่งผลให้ราคาจำหน่ายปลีกน้ำตาลทราย เพิ่มขึ้นกิโลกรัมละ 5 บาท โดยน้ำตาลทรายขาว เพิ่มจากกิโลกรัมละ 23 บาท เป็น 28 บาท และน้ำตาลทรายขาวบริสุทธิ์ จาก 24 บาท เป็น 29 บาท มีผลตั้งแต่วันที่ 28 ต.ค.ที่ผ่านมา
ต่อมา อีก 2 วัน (30 ต.ค.) คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) พิจารณากำหนดให้สินค้า ‘น้ำตาลทราย’ เป็นสินค้าควบคุม ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 เพื่อป้องกันผลกระทบกับประชาชน และทุกภาคส่วนที่ใช้น้ำตาลทรายเป็นวัตถุดิบ ที่อาจปรับขึ้นราคาตาม
