จิตอาสาผลักดันช้างป่าถูกทำร้าย ซ้ำรอยวังน้ำเย็นพุ่งชนจนกระดูกคอแตกหลังหัก

ฉะเชิงเทรา – จิตอาสา ผลักดันช้างป่าเขาอ่างฤาไนถูกทำร้ายอีกแล้ว ซ้ำรอยเหตุการณ์ที่วังน้ำเย็นพื้นที่ติดกันเมื่อวันวาน หลังใช้วิธีพุ่งชนจนกระดูกคอแตกสันหลังหัก ขณะกำลังจุดลูกบอลไล่ต้อนให้ออกไปห่างไกลจากหมู่บ้าน ก่อนถูกหามส่งยัง รพ.ในพื้นที่ และถูกส่งต่อเข้ามายังใน รพ.ประจำจังหวัดฉะเชิงเทรา ด้วยอาการสาหัสถือเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ

วันที่ 31 ต.ค.66 เวลา 19.41 น. ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยจากชาวบ้านในพื้นที่ ม.4 ต.ทุ่งพระยา อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา ว่า ได้เกิดเหตุช้างป่าทำร้ายจิตอาสาผลักดันช้างป่า “คนกับช้าง” ซึ่งเป็นชาวบ้านในพื้นที่ ที่ต่างออกมารวมตัวกันเพื่อทำหน้าที่ในการเฝ้าระวังป้องกันหมู่บ้าน ผลักดันช้างป่าให้ออกไปห่างไกลจากชุมชน หลังจากสถานการณ์ในพื้นที่ในช่วงฤดูกาลนี้มีช้างป่าโขลงใหญ่นับร้อยตัวเข้ามาเดินหากินอยู่ภายในหมู่บ้านเป็นประจำทุกวัน

โดยเหตุการณ์ในวันนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 17.55 น. กลุ่มจิตอาสาซึ่งประกอบด้วย อปพร. และ ชรบ.จำนวนประมาณ 6-7 คน ได้รับแจ้งว่ามีโขลงช้างป่าประมาณกว่า 10 ตัว เดินเข้ามาหากินอยู่ใกล้กับหมู่บ้าน ภายในป่าไร่มันสำปะหลังสลับกับป่าหญ้าคาที่ขึ้นรกปกคลุมท่วมสูง ห่างชุมชนไปเพียงประมาณ 1 กม. จึงได้รวมกำลังกันเดินทางเข้าไปเพื่อทำการขับไล่โขลงช้างดังกล่าว ด้วยการจุดประทัดไล่นก ซึ่งมีลักษณะเป็นลูกบอลทรงกลม นำใส่แทนเป็นลูกหนังสติ๊ก เพื่อใช้ยิงเข้าไปตกบริเวณใกล้ๆ กับโขลงช้างในการผลักดันให้ออกไปจากพื้นที่

แต่ปรากฏว่าได้มีช้างในโขลงไม่ทราบเพศ อายุไม่ต่ำกว่า 5 ปี น้ำหนักประมาณ 4 ตัน ได้วิ่งพุ่งเข้ามาไล่ชน นายเชิง ผามั่น อายุ 44 ปี อยู่บ้านเลขที่ 273/2 ม.4 ต.ทุ่งพระยา อ.สนามชัยเขต จ.ฉะเชิงเทรา จนล้มลงนอนนิ่งอยู่กับพื้น ก่อนที่กลุ่มจิตอาสาที่มาด้วยกันจะได้พยายามช่วยกันผลักดันช้างป่าให้ออกไปจากจุดเกิดเหตุ จากนั้นจึงได้ประสานขอความช่วยเหลือมายังทีมอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยพนมสารคาม จุดทุ่งพระยา เดินทางไปยังในที่เกิดเหตุ เมื่อเวลาประมาณ 18.30 น.

เพื่อช่วยเหลือนำส่งไปยัง รพ.สนามชัยเขต และถูกส่งไปยัง รพ.พุทธโสธรในเวลาต่อมา เนื่องจากผู้ได้รับบาดเจ็บมีอาการสาหัส กระดูกสันหลังหักและกระดูกต้นคอแตก โดยระหว่างการเข้าไปให้การช่วยเหลือ จนท.อาสากู้ภัยฯ ต้องเดินเท้าออกไปจากเส้นทางภายในซอยด้านหลังคุ้มหนองมะตูม ของหมู่บ้านคลองอุดม ห่างไปอีกประมาณ 300 เมตร และต้องเร่งเข้าไปทำการช่วยเหลือ และนำผู้ได้รับบาดเจ็บออกมาอย่างระมัดระวัง เนื่องจากหวั่นเกรงว่าโขลงช้างป่ากลุ่มดังกล่าวจะวนกลับเข้ามาทำร้ายซ้ำอีก ท่ามกลางความมืดที่เข้ามาปกคลุมในที่เกิดเหตุจนมืดสนิทแล้ว

ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์ช้างป่าจากเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาอ่างฤาไน ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก (ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี สระแก้ว) ทำร้ายคนจนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตนั้นเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องแบบรายวัน โดยมีเหตุการณ์ก่อนหน้าเมื่อวานนี้ (30 ต.ค.66) นายจงรัก จงศรี อายุ 26 ปี เจ้าหน้าที่ชุดเคลื่อนที่เร็วเฝ้าระวังและผลักดันช้างป่าออกนอกพื้นที่อนุรักษ์ ชุดที่ 3 เขตรักษาพันธุ์สัตวป่าเขาอ่างฤาไน ถูกช้างป่าพุ่งเข้าชนในลักษณะเดียวกันจนได้รับบาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตลงในเวลาต่อมาที่ รพ.วังน้ำเย็น ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในพื้นที่บ้านด่านชัยพัฒนา ม.8 ต.ทุ่งมหาเจริญ อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว ในพื้นที่ใกล้เคียงกัน