เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 31 ตุลาคม นายไชย์พล วิภา หรือ ลุงพล และ นางสาวสมพร หลาบโพธิ์ หรือ ป้าแต๋น จำเลยในคดีฆ่าเด็กหญิงอรวรรณ วงศ์ศรีชา หรือน้องชมพู่ ได้เดินทางมาที่ศาลจังหวัดมุกดาหารพร้อมด้วยทีมทนายความ เพื่อฟังคำพิพากษาในคดีที่พนักงานอัยการจังหวัดมุกดาหารเป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายไชย์พล วิภา เป็นจำเลยที่ 1 ในข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา, พรากเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี ไปเสียจากบิดามารดาผู้ปกครอง หรือผู้ดูแลโดยปราศจากเหตุอันสมควร, ทอดทิ้งเด็กอายุยังไม่เกิน 9 ปีไว้ ณ ที่ใดเพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตนโดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแลเป็นเหตุให้ผู้ถูกทอดทิ้งถึงแก่ความตาย, ร่วมกันกระทำการใดๆ แก่ศพ หรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้นในประการที่น่าจะทําให้การชันสูตรพลิกศพ หรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป และนางสาวสมพร หลาบโพธิ์ เป็นจำเลยที่ 2 ในข้อหาร่วมกันกระทำการใด ๆ แก่ศพ หรือสภาพแวดล้อมในบริเวณที่พบศพก่อนการชันสูตรพลิกศพเสร็จสิ้น ในประการที่น่าจะทำให้การชันสูตรพลิกศพ หรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป โดยมีนางสาวิตรี วงศ์ศรีชาและนายอนามัย วงศ์ศรีชา แม่และพ่อของน้องชมพู่ซึ่งเป็นโจทก์ร่วมในคดี พร้อมด้วยทนายความเดินทางมาร่วมรับฟังการอ่านคำพิพากษาด้วยเช่นกัน โดยมีกลุ่มยูทูบเบอร์และสื่อมวลชนจำนวนมากมารอทำข่าวความเคลื่อนไหวบริเวณหน้าศาลจังหวัดมุกดาหาร
ต่อมาผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนคดีได้ออกนั่งบัลลังก์และแจ้งต่อโจทก์-จำเลยว่าตามที่ศาลนัดฟังคำพิพากษาในวันนี้นั้น เนื่องจากคดีอยู่ระหว่างสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 4 ตรวจสำนวนและร่างคำพิพากษา ตามระเบียบฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม ว่าด้วยการรายงานคดีในศาลชั้นต้นและศาลชั้นอุทธรณ์ต่อประธานศาลฎีกา ซึ่งศาลนี้ได้ส่งสำนวนและร่างคำพิพากษาไปตรวจตามระเบียบดังกล่าว ว่าด้วยการรายงานคดีและการตรวจสำนวนคดีในสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค พ.ศ. 2562 ข้อ 7 ก. (3) ประเภทคดีมีที่อัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกิน 10 ปี ขึ้นไป แต่ร่างคำพิพากษาและสำนวนยังไม่กลับมาจากสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 4 จึงไม่อาจอ่านคำพิพากษาในวันนี้ได้ จึงเห็นควรให้เลื่อนไปนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 20 ธันวาคม 2566 เวลา 10 นาฬิกา ตามที่ทุกฝ่ายมีวันว่างตรงกัน
