กรุงเทพฯ – นายกรัฐมนตรี นำคณะขึ้นรถไฟขบวนพิเศษ 995 จากสถานีรถไฟกรุงเทพฯ (หัวลำโพง) ไปยัง สถานีรถไฟแหลมฉบัง ลงพื้นที่ตรวจราชการ จ.ชลบุรี และระยอง
วันที่ 4 พฤศจิกายน 2566 เวลา 08.30 น. ณ ชานชาลาที่ 5 สถานีรถไฟกรุงเทพฯ (หัวลำโพง) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ออกเดินทางโดยรถไฟขบวนพิเศษ 995 ไปยังสถานีรถไฟแหลมฉบัง ตำบลทุ่งสุขลา อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี เพื่อลงพื้นที่ตรวจราชการจังหวัดชลบุรีและจังหวัดระยอง
โดยมีคณะ อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ทั้ง 2 คน ที่ปรึกษา รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง รวมถึงเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
ซึ่งระหว่างการเดินทาง นายกรัฐมนตรีได้ประชุมร่วมกับผู้ที่เกี่ยวข้องเรื่องการพัฒนาและการคมนาคมขนส่งในพื้นที่ เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC)
ข่าวน่าสนใจ:
- จัดกิจกรรมวิ่งการกุศล UNITHAI-CUEL Run for Charity 2025 ครั้งที่ 3 วิ่งด้วยใจ ในสวนสวย ช่วยผู้ป่วยมะเร็ง
- เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ครั้งที่ 2 โรงงานผลิตชิ้นส่วนยานยนต์
- ป้ายรับซื้อบ้านผีสิง คิดว่าคอนเทนต์ เจ้าของป้ายเผยรับซื้อจริง บ้านเก่า บ้านมีประวัติลี้ลับมารีโนเวทขาย
- มหกรรมอาหารทะเลพื้นบ้านประมงเรือเล็กระยอง อาหารทะเลสดๆ-สินค้าชุมชน ชมคอนเสิร์ตศิลปินชื่อดัง
จุดแรก นายกรัฐมนตรี เดินทางไปยังท่าเรือแหลมฉบัง หารือเรื่องศักยภาพของพื้นที่ สำหรับการรองรับสินค้าอุตสาหกรรมหนัก ในการนำเข้าและส่งออก
ช่วงบ่าย เวลาประมาณ 13.30 น. จะไปตรวจเยี่ยมอ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล อ.ปลวกแดง จ.ระยอง เพื่อติดตามระบบการบริหารจัดการน้ำ ในการรองรับ EEC ณ อ่างเก็บน้ำหนองปลาไหล ต.ปลวกแดง อ.ปลวกแดง จ.ระยอง
เวลาประมาณ 15.00 น. จะเยี่ยมชมศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริ ณ ศูนย์บริการการพัฒนาปลวกแดงตามพระราชดำริ ต.แม่น้ำคู้ อ.ปลวกแดง จ.ระยอง
ต่อด้วย ตรวจเยี่ยมโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ณ นิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ อีสเทิร์นซีบอร์ด 2 (WHA ESIE2) ต.เขาคันทรง อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี แล้วเดินทางกลับกรุงเทพมหานคร
การเดินทางลงพื้นที่ จ.ชลบุรี และ จ.ระยอง ในครั้งนี้ ของนายกรัฐมนตรี เพื่อตรวจเยี่ยมโครงการสำคัญและอุตสาหกรรมเป้าหมาย ในการขับเคลื่อนพัฒนาประเทศตามนโยบายรัฐบาล รวมทั้งติดตามการบริหารจัดการน้ำในเขต EEC เพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะมีน้ำใช้อย่างเพียงพอตลอดช่วงฤดูแล้งที่จะมาถึง โดยไม่กระทบต่อภาคการผลิตและการลงทุน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: