คลั่งยานรก ลูกชายควงมีดพร้าทุบทำลายบ้านพังยับเยิน ก่อนจุดไฟเผาบ้านแม่วัย 77 ปีวอด ขณะที่น้องสาวและพี่ชาย ต้องหอบแม่ และหลานวัย 8-9 ขวบหนีตายออกจากบ้าน ก่อนถูกตำรวจควบคุมตัว ด้านน้องสาว เผย พี่ชายติดยาเสพติด เพิ่งกลับมาอยู่บ้านได้เพียงแค่ 1 ปี หลังจากถูกภรรยาทิ้งไป ขณะที่หลาน ๆ ของผู้ก่อเหตุสุดเสียใจ ชุดนักเรียน หนังสือเรียนถูกไฟเผาวอดเหลือแค่ชุดเดียว
คลั่งยานรก เมื่อเวลา 13.20 น. วันนี้ 4 พ.ย.66 พ.ต.ต.รัฐกาญจน์ พรมราช รอง สว. (สอบสวน) สภ.เมืองตรัง ได้รับแจ้งเหตุลูกชายคลั่ง ถือมีดพร้าข่มขู่บุพการี และน้องสาว ก่อนจะทุบทำลายบ้านและจุดไฟเผาบ้านผู้เป็นแม่จนเพลิงลุกไหม้ เหตุเกิดที่บ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 10 ต.โคกหล่อ อ.เมืองตรัง หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมด้วย กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ 20 สายตรวจอินทรี เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลโคกหล่อ หน่วยกู้ชีพเทศบาลโคกหล่อ และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิกุศลสถานตรัง (บ้วนเต็กเซี่ยงตึ๊ง)
ถึงที่เกิดเหตุ เป็นบ้านปูนชั้นเดียวของแม่ ติดกันเป็นขนำไม้ซึ่งเป็นที่พักของลูกซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ ทราบชื่อผู้ก่อเหตุคือ นายประดับ (สงวนนามสกุล) อายุ 46 ปี ไม่ประกอบอาชีพ ยืนไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้นอยู่ในบ้านหลังเกิดเหตุ พร้อมกับลูกของตนเองสาววัยประมาณ 8 ขวบ โดยช่วงแรกเจ้าตัวมีพฤติการณ์พยามขัดขืนการจับกุมของเจ้าหน้าที่ ก่อนจะจำนนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำการเข้าควบคุมตัวและใส่กุญแจมือแต่โดยดี โดยไม่มีเหตุการณ์ความรุนแรงใดๆเกิดขึ้น พร้อมกับเจ้าหน้าที่ยึดอาวุธมีดพร้าของผู้ก่อเหตุ จำนวน 2 เล่ม ไว้เป็นหลักฐาน
ข่าวน่าสนใจ:
ขณะที่ตัวบ้านพบเพลิงได้ลุกไหม้อยู่บริเวณตู้เสื้อผ้า ห้องครัว และหิ้งพระในห้องโถง เจ้าหน้าที่หน่วยดับเพลิงจึงได้ทำการใช้สายดับเพลิง ฉีดน้ำสกัดเพลิงอย่างทันที ซึ่งใช้ระยะเวลาประมาณ 15 นาที เพลิงจึงสงบลง เจ้าบ้านและเจ้าหน้าที่ได้เข้าไปตรวจสอบความเสียหายพบว่าผู้ก่อเหตุจุดไฟเผาจุดต้นเพลิงที่ตู้เสื้อผ้า ก่อนเพลิงจุดลุกไหม้ขึ้นบนหลังคา ไม้คาน โครงสร้างบ้าน และหิ้งพระที่ฝาผนังติดกัน มีทรัพย์สินจำนวนมากเสียหาย เช่น ทีวี ยังประเมินมูลค่าไม่ได้ ขณะเดียวกันยังพบว่าผู้ก่อเหตุได้ใช้มีด และก้อนอิฐทุบกระจกบ้าน กระจกหน้าต่าง หนังคากระเบื้องเสียหายรอบตัวบ้านอีกด้วย
ทั้งนี้บรรดาหลานๆของผู้ก่อเหตุ เป็นเด็กชาย 1 คน เด็กหญิง 1 คน วัยประมาณ 7-9 ปี เรียนอยู่ระดับชั้น ป.3 และ ป.4 ที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังดังกล่าว ต่างร้องไห้เสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากชุดนักเรียนจำนวนหลายชุดที่แขวนเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้าดังกล่าวถูกไฟเผาเสียหายไปทั้งหมด มีเหลืออยู่เพียงแค่ 1 ตัวที่แขวนต่างแดดเอาไว้ข้างบ้าน พร้อมกับต่างช่วยกันรื้อเก็บหนังสือ สมุดการเรียนที่ยังหลงเหลืออยู่ออกมาจากตัวบ้านด้วยความโศกเศร้าเสียใจ
น.ส.แก้ว (นามสมมุติ) อายุ 39 ปี น้องสาวผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ตนอยู่ในเหตุการณ์ ซึ่งบ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านของแม่ ส่วนพี่ชายที่ก่อเหตุปลูกขนำอยู่อาศัยติดๆกันกับลูกสาววัย 8 ขวบ ตอนเกิดเหตุบ้านหลังนี้มีอาศัยกันประมาณ 5 คน มีตน มีแม่วัย 77 ปี พี่ชายตนอีกคน และหลานชายหญิงวัย 7-8 ขวบ ตั้งแต่เช้าวันนี้พี่ชาย ซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุได้ส่งเสียงดัง ด่าบุพการี ซึ่งเป็นแม่วัย 77 ปี รวมไปถึงด่าพี่น้องทุกคน รวมถึงตัวตนเองด้วย
พร้อมกับถือมีดพร้าขู่ให้ทุกคนในบ้านออกมา หากทุกคนออกจากบ้านเขาจะทำร้ายหมด ก่อนที่พี่ชายจะใช้ก้อนหิน ก้อนอิฐ และมีดพร้า ทุบและเขวี้ยงหลังคากระเบื้อง หน้าต่างกระจกจนแตกเสียหาย ตนและพี่ชายอีกคน จึงตัดสินใจหอบเอาแม่วัย 77 ปี พร้อมกับหลานๆทั้ง 2 คน หนีออกจากบ้านไปหลบอยู่ที่บ้านของเพื่อนบ้านริมถนน ก่อนที่พี่ชายที่ก่อเหตุจะใช้ก้อนหิน ก้อนอิฐเขวี้ยงปาใส่บ้านอีกรอบ จู่ ๆปรากฏว่ามีควันไฟขึ้นจากบ้าน ก็คิดว่าพี่ชายคงเผาบ้านแล้ว จึงเรียกรถดับเพลิงและตำรวจเข้ามาที่บ้าน
ที่ผ่านมาเขาไม่เคยคลุ้มคลั่งหรืออาละวาดแบบนี้มาก่อน มีเพียงแค่ด่าแม่และญาติพี่น้องอยู่เป็นประจำ ซึ่งเราก็คิดว่าเมื่อด่าเสร็จแล้วก็คงจะหยุดหรือเงียบไป แต่ปรากฏว่าวันนี้กลับมาลงมือก่อเหตุทำลายทรัพย์สินแบบนี้ ส่วนสาเหตุเพราะเข้าติดนาเสพติด ยืนยันว่าแน่นอน ซึ่งน่าจะเริ่มเป็นเมื่อหลังจากภรรยาได้ทิ้งไป ได้ประมาณ 1 ปี โดยเมื่อก่อนเขาไม่ได้อยู่ที่นี่ไปทำงานรับเหมาก่อสร้างอยู่ที่ อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช และหลังจากที่ภรรยาทิ้งไป ก็ได้นำลูกกลับมาอยู่ที่นี่ได้ประมาณปีกว่า ๆ และไม่ได้ประกอบอาชีพอะไร
เหตุการณ์ในวันนี้ เสียใจมาก บ้านโดนเผา แถมพวกตนเป็นคนไม่มีเงิน มันก็เท่ากับว่าที่เสียหายลงไปเยอะมาก สงสารแม่วัย 77 ปี ก็จะให้ตำรวจจับกุมตัวนำไปดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด ตนยอมที่จะดูแลลูกสาวของพี่ชายที่ก่อเหตุเอง ดีกว่าต้องดูแลพ่อของหลาน ดีกว่าต้องมาระวังตัว ไม่รู้ว่าเราจะต้องตายกับพี่ชายวันนี้หรือมะรืนนี้ ตนยอมดูแลลูกให้พี่ชายดีกว่า ส่วนเขาให้ถูกติดคุกไป
เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไปที่ สภ.เมืองตรัง และดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาวางเพลิงเผาทรัพย์ เพื่อดำเนินคดีตามกฏหมายต่อไป ส่วนในข้อหาเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ยาเสพติดนั้น ยังอยู่ในระหว่างตรวจปัสสาวะเพื่อยืนยันอีกครั้ง.
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: