ฉะเชิงเทรา – เตือนภัย สองชายลึกลับลักษณะคล้ายพ่อลูก เข้ามาชวนตีสนิทมอมยารูดทรัพย์สองตายายแปดริ้วสลบเหมือดนานข้ามวัน พบทรัพย์สินหายไปสูญเงินซุกในเชี่ยนหมากกว่า 6 พันบาทพร้อมโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ก่อนมีคนนำไปร้องเพจดังเมืองกรุงให้ช่วยติดตามเร่งคลายคดี ด้านตำรวจเผยกำลังเร่งแกะรอยหาภาพจากกล้องวงจรปิด
วันที่ 4 พ.ย.66 เวลา 14.07 น. ร.ต.อ.ซึ่งเฉลี่ย ไตรบุตร รองสารวัตรสอบสวน สภ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ร้อยเวรเจ้าของคดี กรณีมีสองตายายถูกคนร้ายซึ่งเป็นชายลึกลับเข้ามาทำทีตีสนิท ก่อนมอมยาจนถึงขั้นนอนสลบเหมือดอ่อนแรง นานข้ามวันทั้ง 2 คน จากนั้นได้ทำการโจรกรรมทรัพย์สินไปเป็นเงินสดจำนวน 6 พันบาทพร้อมโทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟน 1 เครื่อง ได้กล่าวถึงความคืบหน้ากรณีดังกล่าวว่า
จากที่มีการนำไปโพสต์ข้อความร้องเรียนให้ทางเพจเฟซบุ๊กชื่อดังในเมืองกรุงรายหนึ่ง ช่วยติดตามให้ทาง จนท.ตำรวจ เร่งคลี่คลายคดีนั้น กรณีนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อเวลา 09.00 น.ของวันที่ 30 ต.ค.66 ที่ผ่านมา หลังจากได้มีชายสองคนลักษณะคล้ายเป็นพ่อลูกกัน ขับรถจักยานยนต์คันสีน้ำเงินหรือสีฟ้า เข้ามาทำทีตีสนิทสองตายายวัย 80 ปี และ 78 ปี ซึ่งนั่งอยู่บนแคร่ไม้บริเวณใต้ถุนบ้านพักแบบยกพื้นสูงขนาด 2 ชั้น ตั้งอยู่ในหมู่บ้านน้อยนาดี ม.11 ต.ท่าตะเกียบ อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา
ก่อนที่จะทำการชักชวนให้ทางฝ่ายผู้เป็นตาดื่มเหล้าด้วยการรินเหล้าขาวจากขวดเครื่องดื่มชูกำลังใส่ลงในแก้วเป็กยื่นให้ดื่ม หลังจากทางฝ่ายผู้เป็นตาวัย 80 ปียกขึ้นดื่มแล้วถึงกับเมาสลบล้มลงนอนในทันที ส่วนทางฝ่ายผู้เป็นยายนั้นไม่ได้ดื่ม แต่คนร้ายแสร้งทำทีนำมือมาลูบขาแล้วบอกว่าทำไมอ้วนท้วนดีจังเลย จากนั้นฝ่ายยายได้ลุกขึ้นเพื่อที่จะไปเข้าห้องน้ำ แต่ได้ไปนอนล้มหมดสติ สลบอยู่ที่บริเวณด้านหน้าห้องน้ำซึ่งอยู่ภายในห้องนอนชั้นล่าง
จนกระทั่งผู้เป็นบุตรชายซึ่งไปทำงานเป็น รปภ.อยู่ในนิคมอุตสาหกรรมแห่งหนึ่ง ใน อ.แปลงยาว ได้เดินทางกลับเข้ามาบ้านพัก เมื่อเวลา 08.00 น. ของวันที่ 31 ต.ค.66 และมาพบว่าทั้งคนยังคงนอนไม่ได้สติอยู่ในสภาพดังกล่าว จากนั้นจึงได้เรียกหน่วยกู้ชีพฉุกเฉินเข้ามารับตัว เพื่อนำส่งไปยัง รพ.ท่าตะเกียบ และถูกส่งต่อไปยัง รพ.พุทธโสธร ซึ่งเป็น รพ.ประจำจังหวัดฉะเชิงเทรา โดยที่ทางฝ่ายของผู้เป็นยายนั้นขณะนี้ฟื้นได้สติและเข้ามาให้ปากคำได้แล้ว เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมาของวันนี้
ส่วนทางฝ่ายของผู้เป็นตานั้นยังคงนอนหมดสติ ยังไม่ฟื้นและยังต้องใส่เครื่องช่วยหายใจไว้ด้วยอยู่ตลอดเวลา ซึ่งล่าสุดได้ถูกส่งต่อให้ไปรักษาตัวยังที่ รพ.ชลบุรี แล้ว โดยทราบว่าคนร้ายได้นำเงินสดจำนวน 6 พันบาท จากเชี่ยนหมากหรือตะกร้าหมากของฝ่ายผู้เป็นยายไป พร้อมโทรศัพท์สมาร์ทโฟนยี่ห้อ OPPO อีก 1 เครื่อง นอกจากนี้ยังทราบจากทางฝ่ายผู้เสียหายที่มาให้ปากคำในวันนี้ว่า ทางแพทย์ได้ระบุว่าสารที่ใช้ในการมอมยาสองตายายนั้น ไม่ใช่ยาพิษหรือยามอมเมาอะไร
แต่เป็นสารเสพติดชนิดที่รุนแรงมาก โดยยังไม่ทราบว่าเป็นสารเสพติดชนิดใด เนื่องจากขณะนี้ยังไม่ได้ส่งใบชันสูตรไปให้ทางแพทย์ทำการลงบันทึกผลการตรวจ เพื่อทราบผลกลับมาว่าเป็นสารอะไรที่อยู่ในเลือดของผู้เสียหาย สำหรับการคลี่คลายคดีนั้น ขณะนี้ได้แจ้งให้ทางฝ่ายสืบสวนไปทำการไล่ตรวจสอบหาภาพจากกล้องวงจรปิด เพื่อตรวจสอบหาผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ต้องสงสัยคันดังกล่าว และหารูปพรรณของคนร้าย ในการดำเนินการติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป ร.ต.อ.ซึ่งเฉลี่ย กล่าว
