นราธิวาส-พุทธศาสนิกชนร่วมกับ ร้อย.ฉก.ตชด.นธ.933 ร่วมทอดกฐิน สืบสานพระพุทธศาสนาให้เบ่งบานในพื้นที่ชายแดนใต้
วันนี้ ( 4 พฤศจิกายน 2566 ) เวลา 09.30 – 14.30 น.ที่วัดพิกุลทอง ม.6 ต.กะลุวอเหนือ อ.เมือง จ.นราธิวาส พ.ต.อ.ทศม ม่วงเกษม ผบ.ฉก.ตร.นราธิวาส 93 ได้มอบหมายให้ ร.ต.อ.สุริยา จันทราธนากุล ผบ.ร้อย.ฉก.ตชด.นธ.933 ,ร.ต.อ.พรประเสริฐ สีดำ ผบ.มว.ฉก.ตชด.นธ.9332,ร.ต.ต.สมพงค์ แก้วใสพร หน.ชป.กร.ฉก.ตชด.นธ.933 พร้อมชุด รปภ.มว.ฉก.ตร.นธ.9331,9332 จนท.ชป.กร.93 ,จนท.ส่วนราชการต่างๆและพุทธศาสนิกชนในพื้นที่บ้านพิกุลทองและใกล้เคียงร่วมประเพณีทอดกฐิน
โดยมี นาวาโท ศุภกฤต วงศ์สุวรรณ ผบ.ฉก.ทร.นย.33 เป็นประธานฝ่ายฆราวาส ท่ามกลางชาวไทยพุทธในพื้นที่เข้าร่วมงานบุญอย่างพร้อมเพรียงกัน เพื่อเป็นพุทธบูชาในช่วงการทอดกฐิน ตามพระวินัยกำหนดกาลไว้คือ ตั้งแต่แรม 1 ค่ำ เดือน 11 ถึงวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ผู้มีจิตศรัทธาเลื่อมใส ใคร่จะทอดกฐินก็ให้ทอดได้ในระหว่างระยะเวลานี้ จะทอดก่อนหรือทอดหลังกำหนดนี้ ก็ไม่เป็นการทอดกฐิน ทางหน่วยฯจึงได้ทำบุญกฐินไว้จำนวนหนึ่ง
สำหรับการทอดกฐินนั้น ถือเป็นประเพณีเก่าแก่ที่อยู่คู่กับพุทธศาสนิกชนไทยตั้งแต่สมัยสุโขทัย จวบจนถึงปัจจุบัน ซึ่งอาจเรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งพิธีกรรมสำคัญที่ช่วยธำรงพระพุทธศาสนาให้คงอยู่ โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
การทอดกฐิน ก็คือการนำผ้ากฐินไปวางต่อหน้าสงฆ์ ซึ่งมีอย่างน้อยจำนวน 5 รูป โดยไม่เจาะจงว่าจะถวายภิกษุรูปใดรูปหนึ่ง และแต่ละวัดสามารถรับกฐินได้ปีละ 1 ครั้ง
“กฐิน” คือผ้าไตรจีวรผืนใหม่ สำหรับพระสงฆ์ที่ได้รับถวายจากพุทธศาสนิกชน นำมาใช้นุ่งห่มในช่วงหลังออกพรรษา เป็นการอนุเคราะห์ให้ภิกษุได้เปลี่ยนจีวรใหม่ จากของเดิมที่เก่าหรือชำรุด และกำหนดระยะเวลาชัดเจน เรียกว่าเป็น “กฐินกาล” หรือ “หน้ากฐิน”
อานิสงส์ของผู้ทอดถวายผ้ากฐิน เป็นการสร้างความสามัคคีในระหว่างพุทธบริษัท ,เป็นการสั่งสมทุนคือบุญกุศลไว้ในภายภาคหน้า,ได้ชื่อว่าเป็นผู้สืบอายุพระพุทธศาสนา เป็นกุศลอันยิ่งใหญ่,ได้สงเคราะห์พระสงฆ์ตามพระวินัยซึ่งเป็นไปตามพระบรมพุทธานุญาต,เป็นการรักษาประเพณีที่ดีงามสืบกันไป,เป็นการบูชาพุทธโอวาทของพระบรมศาสดา,ทำตนให้เป็นประโยชน์ สละทรัพย์ให้มีประโยชน์ต่อพุทธศาสนา,เป็นการสร้างทางไปสวรรค์และนิพพานให้แก่ตนเอง
