ตรัง อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จัดใหญ่สมโภชกฐินมงคล 9 วัด ประชาชนกว่า 2 พันคน ร่วมบุญพร้อมชิมอาหารฟรีไม่อั้นตลอดงาน
วันที่ 5 พฤศจิกายน 2566 ที่โรงเรียนวิวัฒน์วิทยา ต.ห้วยยอด อ.ห้วยยอด จ.ตรัง นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะพุทธบริษัท ร่วมกำหนดจัดทอดกฐินมงคล 9 วัด ประจำปี 2566 เพื่อบำเพ็ญกุศลรักษาประเพณีสืบทอดและได้ถวายผ้ากฐินอานิสงส์ เพื่อนำไปเป็นทุนดำเนินการบูรณะและพัฒนาเสนาสนะภายในวัดตามที่กำหนด โดยได้นิมนต์พระภิกษุสงฆ์ จำนวน 9 รูป ทำพิธีสมโภชกฐินมงคลครั้งนี้
สำหรับการทอดกฐินทั้ง 9 วัด ประกอบด้วย วัดทุ่งหลวง อำเภอวังวิเศษ, วัดเขาพระ อำเภอรัษฎา, วัดบ้านซา อำเภอห้วยยอด, วัดหนองคล้า อำเภอวังวิเศษ ,วัดหนองชุมแสงอำเภอวังวิเศษ, วัดห้วยนาง อำเภอห้วยยอด, วัดควนพญา อำเภอห้วยยอด, วัดเขาห้วยแห้ง อำเภอห้วยยอด และวัดสาริการาม อำเภอเมือง จังหวัดตรัง
ซึ่งกิจกรรมภายในงานมีชุดการแสดงจากตำบลต่าง ๆ มากกว่า 10 โชว์ พร้อมเปิดโรงทาน ร่วมรับประทานอาหารฟรี จากผู้มีจิตศรัทธากว่า 60 รายการ โดยมีประชาชนกว่า 2 พันคนเข้าร่วมงานบุญในครั้งนี้ พร้อมเข้าแถวรับอาหารฟรีไม่อั้นตลอดงาน
นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี บอกว่า กฐินมงคล 9 วัดปีนี้ เป็นปีที่ 21 ซึ่งในช่วงที่ตนเองเป็นส.ส.ใหม่ ๆ มีคนมาขอให้ร่วมทำบุญกฐินบ่อย ทีนี้วัดในเขตเลือกตั้งมีหลายสิบวัด ไม่รู้เมื่อไหร่จะหมด จึงทำปีละ 9 วัด จากนั้นมาเลย กลายเป็นประเพณีงานสมโภชที่ใหญ่มาก สำหรับในปีนี้กิจกรรมแบ่งเป็น 3 ส่วนซึ่งส่วนที่ 1.มีการแสดงชุดบาสโลป ชุดวงกลองยาว มีรำนาฏศิลป์ของผู้สูงอายุ มีจำนวน 16-17 ชุด ส่วนที่ 2.นำอาหารมาช่วยกัน รวม 60 กว่าอย่าง ที่พิเศษก็คือเหนียวปิ้ง ต.คลองมวน อ.รัษฎา ที่ปิ้งขายริมทางรถไฟ มีขนมจาก ขนมครก ไก่ทอด ข้าวแกงต่าง ๆ เครื่องดื่มมาร่วมด้วย รวมไปถึงหมูย่าง อาหารมาจากหลายตำบลหลายอำเภอ และกิจกรรมที่ 3 ก็คือสมโภชกฐินมงคล ทำพิธีสมโภชเสร็จหลังจากนั้นเราก็จะนำไปทอดกฐินทีละวัด จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 11- 26 พฤศจิกายน 2566 ผู้เข้าร่วม นักแสดงประมาณ 300 กว่าคนและชาวบ้านไม่ต่ำกว่า 2,000 คน
วันนี้ประชาชนที่มาร่วมงานกฐินได้มาทำบุญและได้ทานอาหารฟรีด้วย ถือได้ว่างานนี้เป็นงานที่ใหญ่ เพราะเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีใครจัดงานสมโภชกันแล้ว ซึ่งปีหน้าตั้งใจไว้ว่าจะจัดสมโภชกฐินแบบย้อนยุค ซึ่งในยุคก่อนจะมาช่วยกันกวนข้าวเหนียวแดงและห่อกระดาษสีตั้งแต่ละโต๊ะ เพื่อเป็นการสืบสานประเพณีแบบดั้งเดิมให้คงอยู่ต่อไป
