ตรัง-ที่ปรึกษาสมาคมปาล์มตรัง ชี้ พักชำระหนี้สมาชิกสหกรณ์การเกษตร เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เกษตรกรได้ประโยชน์ในช่วงเวลาสั้น ๆ มุมการเงินระดับประเทศไม่เกิดประโยชน์ อาจขัดแย้งกับระเบียบการเงินของประเทศ และทำให้ปัญหาการทุจริตในสหกรณ์คาราคาซังต่อไป รบ.ควรช่วยลดราคาปัจจัยการผลิต
จากกรณี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ออกมาระบุนโยบายแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ รวมทั้งร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เตรียมเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบโครงการพักชำระหนี้ให้ครอบคลุมในส่วนของเกษตรกรที่เป็นสมาชิกสหกรณ์การเกษตรและกลุ่มเกษตรกรทั่วประเทศภายใต้หลักเกณฑ์เดียวกับเกษตรกรรายย่อยลูกหนี้ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่มีหนี้ไม่เกิน 300,000 บาท โดยพักทั้งต้นและดอกเบี้ย
.
เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน นายชัยฤทธิ์ ถ่ายย้วน ที่ปรึกษาสมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัดตรัง กล่าวว่า กรณีการชดเชยหรือเยียวยาเกษตรกรที่มีปัญหาไม่มีกำลังชำระหนี้ ส่วนหนึ่งถือว่าเป็นส่วนดี แต่ตนมองว่าไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ตรงจุด เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันในระดับสมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมันจังหวัด และระดับสมาพันธ์ หรือ สมาคมชาวสวนปาล์มน้ำมันแห่งประเทศไทย ไม่ค่อยเห็นด้วยกับนโยบายดังกล่าว แต่ก็ไม่คัดค้าน เพราะเกษตรกรชาวสวนปาล์มรายย่อยมีจำนวนมาก หากรัฐบาลแก้ให้ถูกจุดและตรงเป้าหมาย รัฐบาลต้องจัดตั้งโรงงานปุ๋ยแห่งชาติ และขุดเจาะปุ๋ยโพแทสเซี่ยมคลอไรด์มาแปรรูปแล้วขายให้เกษตรกรและกลุ่มเกษตรกร เพราะหากสงครามยังรัฐเซีย และสงครามในตะวันออกลางยังไม่สงบแนวโน้มราคาปุ๋ยมีแต่เพิ่มขึ้น ในส่วนของปุ๋ยยูเรียสามารถแปรรูปได้ ด้วยการใช้แก๊สมีเทนที่เหลือจากโรงกลั่น ซึ่งปุ๋ยจำเป็นต่อเกษตรกรทั้งสวนยางพาราและสวนปาล์มน้ำมัน หากทำโรงปุ๋ยช่วยลดต้นทุนการผลิตได้ และส่งเสริมให้เกิดระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนได้อีก หนี้ที่เกษตรกรไปกู้เงินมาก็เพื่อมาใช้ในปัจจัยหรือต้นทุนการผลิต ทั้งนี้หากการพักชำระหนี้สมาชิกสหกรณ์การเกษตร ใช้มาตรฐานเดียวกับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์ อาจจะขัดแย้งกับระเบียบการเงินของประเทศ ซึ่งต้องดูกันในรายละเอียดอย่างถี่ถ้วน
นายชัยฤทธิ์ กล่าวว่า หากพักชำระหนี้สหกรณ์การเกษตรได้จะเป็นประโยชน์ต่อเกษตรกรรายย่อย แต่เป็นการได้ประโยชน์เฉพาะหน้าในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ขณะเดียวกันในมุมของการเงินระดับประเทศนั้นไม่เกิดประโยชน์ ในจังหวัดตรังมีสหกรณ์การเกษตรระดับใหญ่ เช่น สหกรณ์การเกษตรย่านตาขาว สหกรณ์การเกษตรห้วยยอด ซึ่งมีเงินทุนหมุนเวียน 3,000-4,000 ล้านบาท มีการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากค่าดอกเบี้ยให้สมาชิกปีละประมาณ 30 ล้านบาท แต่ในขณะเดียวกันสหกรณ์การเกษตรที่อ่อนแอ รอชำระบัญชี สัญญาที่สมาชิกกู้ยืมกับสหกรณ์ไม่ชัดเจน บางสหกรณ์การเกษตรก็กำลังจะถูกธนาคารเพื่อการเกษตรฟ้องร้อง ลักษณะเช่นนี้ก็น่าเป็นห่วงเช่นกัน ดังนั้น การพักชำระหนี้จะทำให้ปัญหาเหล่านี้คาราคาซังต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
ข่าวน่าสนใจ:
- "ตรังโมเดล" โกโก้สร้างรายได้ให้เกษตรกร กิโลกรัมละ 8 บาท ภาคเกษตร-เอกชนร่วมมือเปิดจุดรับซื้อ 11 แห่ง
- เพชรบูรณ์ - "ยุพราช"ชี้! นักการเมืองไม่จำเป็นต้องรวย แค่เคียงข้าง ปชช.ไม่ทุจริตโกงบ้านเมืองก็พอ
- ตรัง ผู้ตรวจฯกระทรวงพาณิชย์ ลงตรังเยี่ยมแปลงปลูกพริกไทยตรัง-สุราชุมชน ผู้ผลิตต่อยอดสินค้า GI "พริกไทยตรังพันธุ์ปะเหลียน สู่มาตรฐาน EU organic…
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: