X

ตรัง “ลากพระทางน้ำข้ามทะเล” หนึ่งเดียวในโลก งานบุญวิถีพุทธ ระลึกคุณแม่คงคา ประเพณีโบราณ 100 ปี ชาวบ้านร่วมแรงร่วมใจพายเรือลากพระออกทะเล 

ตรัง-ชาวบ้านปากปรน ตำบลหาดสำราญ อำเภอหาดสำราญ จังหวัดตรัง สืบสานประเพณี “ลากพระทางน้ำข้ามทะเล” หนึ่งเดียวในโลก ที่สืบทอดกันมานับ 100 ปี ถือเป็นงานบุญหลังวันออกพรรษา ระลึกถึงคุณพระแม่คงคา ขบวนเรือตกแต่งสวยงาม และยังใช้วิธีพายเรือลากพระข้ามทะเล นายกอบต. ชวนนักท่องเที่ยวเยือน “หาดสำราญ” อาหารทะเลสมบูรณ์ ชมวิถีประมง เกาะแก่งทะเลตรัง

วันที่ 6 พฤศจิกายน 2566 ที่ท่าเทียบเรือปากปรน ( ชั่วคราว) หมู่ที่ 1 ต.หาดสำราญ อ.หาดสำราญ จ.ตรัง นายอร่าม ญาณแก้ว นายอำเภอหาดสำราญ นายสมพงษ์ ประภากรสกุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหาดสำราญ และ น.ส.ลดาวัลย์ ช่วยชาติ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานตรัง พร้อมชาวบ้าน อ.หาดสำราญ กว่า 500 คน ได้ร่วมประเพณี “ลากพระทางน้ำข้ามทะเล” หนึ่งเดียวในโลกที่ จ.ตรัง ซึ่งตรงกับวันแรม 8 ค่ำ เดือน 11 โดยมีเรือพาย และเรือขบวนกลองยาว จำนวน 9 ลำ พร้อมเรือชาวบ้านที่ร่วมอีกประมาณจำนวน 40 ลำ ร่วมพิธีลากเรือพระทางน้ำเพื่อล่องไปในทะเลตรัง จากท่าเทียบเรือบ้านปากปรน เดินทางสู่แหลมจุโหย ต.เกาะลิบง อ.กันตัง จ.ตรัง โดยมีระยะทางรวมไปกลับ 10 กิโลเมตร และใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ซึ่งในขบวนเรือพระได้มีการอัญเชิญพระพุทธรูป และนิมนต์พระสงฆ์นั่งประจำเรือ พร้อมประโคมเครื่องดนตรี โพน กลองยาว ฉิ่ง ฉาบ เพื่อส่งสัญญาณให้จังหวะตลอดช่วงเวลาการลากเรือพระ

นอกจากนั้น ยังมีประเพณีการซัดต้ม และการเกี้ยวพาราสีหยอกล้อระหว่างเรือแต่ละลำ ทำให้บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคัก และสนุกสนาน รวมทั้งมีการประกอบพิธีลอยเรือเคราะห์กลางทะเล ด้วยการให้ชาวบ้านตัดเล็บ ตัดผม ใส่ไว้ในเรือจำลอง ก่อนที่จะลากเรือพระกลับมายังหมู่บ้าน และมีการแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน การละเล่นพื้นบ้าน การแข่งขันขูดมะพร้าว การแข่งขันชกมวยทะเล เป็นต้น เพื่อสร้างความสัมพันธ์ สร้างชุมชนให้เข้มแข็ง และเป็นการส่งเสริมอนุรักษ์ประเพณีพื้นบ้านให้สืบทอดกันเรื่อยมาจนถึงปัจจุบันนับ 100 ปีแล้ว

สำหรับประเพณีลากพระทางน้ำข้ามทะเล หนึ่งเดียวในโลกที่ จ.ตรัง ซึ่งตรงกับวันแรม 8 ค่ำ เดือน 11 นับเป็นประเพณีที่เก่าแก่ และยาวนานตามความเชื่อที่ว่า เป็นวันที่องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เสด็จลงมาจากสวรรค์สู่โลกมนุษย์ หลังเสด็จขึ้นไปโปรดพระพุทธมารดา ณ สวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ตลอดพรรษา ซึ่งชาวบ้านทั่วไปจะเดินทางไปร่วมงานลากเรือพระทางบก แต่เนื่องจากชาวปากปรน และพื้นที่ใกล้เคียงมีอาชีพทำการประมง วิถีชีวิตจึงเกี่ยวข้องกับแม่น้ำลำคลอง และการใช้เรือ ซึ่งในสมัยก่อนการเดินทางโดยทางบกเป็นไปด้วยความยากลำบาก ประกอบกับชาวบ้านส่วนใหญ่มักจะทำการประมงกันในช่วงที่น้ำทะเลขึ้นสูง หรือน้ำใหญ่ คือ ระหว่างขึ้น 13 ค่ำถึงแรม 5 ค่ำ และแรม 13 ค่ำถึงขึ้น 5 ค่ำ รวมทั้งยังไม่มีวัดอยู่ในหมู่บ้านด้วย ดังนั้น เมื่อที่อื่นๆ มีการลากพระกันในวันแรม 1 ค่ำเดือน 11 จึงมักไม่มีโอกาสได้เข้าร่วม และเป็นที่มาของการจัดประเพณีลากพระทางน้ำข้ามทะเลแทน

นายสมพงษ์ ประภากรสกุล นายกองค์การบริหารส่วนตำบลหาดสำราญ บอกว่า ประเพณีลากพระข้ามทะเลของวัดปากปรน ตำบลปากปรน อำเภอหาดสำราญ จังหวัดตรัง เป็นประเพณีที่สืบทอดมาเป็นร้อยปี เนื่องจากชาวบ้านปากปรนมีอาชีพทำประมง จับสัตว์ทะเลเป็นอาหารเพื่อการยังชีพ ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำหน้าที่หล่อเลี้ยงชีวิตชาวบ้านที่นี่ ดังนั้นชาวบ้านจึงรวมตัวกันกำหนดว่าใน 1 ปี จะทำบุญให้กับพระแม่คงคา จำนวน 1 ครั้ง โดยยึดเอาแรม 8 ค่ำเดือน 11 ของทุกปี หรือหลังวันออกพรรษา 7 วัน มาทำลากพระข้ามทะเล ซึ่งประเพณีนี้เป็นประเพณีอันดีงามของชาวบ้านที่อยู่ชายทะเลและประกอบอาชีพประมง โดยชาวบ้านที่อยู่ริมทะเลมีเรือเป็นพาหนะหลักในการลากพระทางน้ำ สำหรับเรือพระชาวประมงใช้เป็นเรือพาย และเรือหางยาวตกแต่งสวยงาม โดยชาวบ้านร่วมแรงร่วมใจกันพายเรือลากพระออกกลางทะเล รวมทั้งมีการสะเดาะเคราะห์ชาวบ้านที่มีเคราะห์ร้ายต่างๆ ได้เอาเคราะห์นั้นมาลอยออกสู่ทะเลให้หมดเคราะห์ไป ซึ่งทางองค์การบริหารส่วนตำบลหาดสำราญ และชาวบ้านอยากสืบสานประเพณีลากพระนี้ ให้สืบทอดต่อไปตลอด โดยองค์การบริหารส่วนตำบลปากปรนได้สนับสนุนงบประมาณบางส่วน และต่อไปจะผลักดันให้ประเพณีลากพระทางน้ำ เป็นประเพณีระดับจังหวัดให้ได้ และ หากทางจังหวัดตรัง วัฒนธรรมจังหวัดตรัง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สำนักงานตรัง) หรือท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดตรัง เข้ามาร่วมเข้ามามีส่วนร่วม เชื่อว่างานลากพระทางน้ำจะยิ่งใหญ่กว่านี้ และเป็นประเพณีที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวให้กับจังหวัดตรัง และตำบลหาดสำราญเป็นเส้นทางท่องเที่ยวได้หลายเกาะ สามารถลงเรือจากท่าเรือปากปรน มาเที่ยวเกาะลิบง เกาะเหลาเหลียง หรือ จะมาเที่ยวอุทยานแห่งชาติแหลมจุโหย

 

นายกอบต.หาดสำราญ กล่าวว่า ทั้งนี้ใกล้ตำบลหาดสำราญมีเกาะที่สวยงาม เกาะตะเกียงมีปลาอาศัยอยู่จำนวนมาก มีปะการังอยู่รอบเกาะ ถัดออกไปจะเป็นเกาะเภตรา ใกล้เคียงกันเป็นเกาะสุกร ตนอยากเชิญชวนนักท่องเที่ยวให้มาเที่ยวหาดสำราญ เพราะที่นี่มีดีหลายอย่าง ทั้งธรรมชาติ อาหารทะเลที่ขึ้นชื่ออย่างเช่น ปูม้า หอยตะเภา หอยเจดีย์ หอยหลอด ซึ่งสัตว์ทะเลที่นี่มีรสชาติอร่อย เพราะหาดสำราญเป็นชายหาดปากแม่น้ำ มีน้ำจืดจากแม่น้ำตรัง และ แม่น้ำปะเหลียนไหลมาบรรจบกับน้ำเค็มที่หาดสำราญพอดี ทำให้เป็นแหล่งอาหารที่อุดมสมบูรณ์ของสัตว์น้ำต่างๆ ส่วนเรื่องสถานที่รองรับนักท่องเที่ยว ที่หาดสำราญมีทั้งที่พักและร้านอาหาร เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกทะเลที่สวยงาม

ขอบคุณภาพมุมสูง : วานิช สุนทรนนท์

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน