กรุงเทพฯ : ตำรวจไซเบอร์ นำหมายศาลเข้าตรวจค้นจับกุม หนุ่มหัวร้อน อินการเมืองหนัก ไม่พอใจรัฐบาล-นายกฯ ทำไม่เหมือนกับที่พูด โพสต์ข้อความขู่ฆ่า ผ่าน X
วันที่ 8 พฤษจิกายน มีรายงานว่าเมื่อช่วงเช้าของวานนี้ 7 พ.ย. เจ้าหน้าที่ตำรวจจากศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ Anti Online Scam Operation Center (AOC) สายด่วน 1441 ของกองบังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.สอท.1) ตำรวจไซเบอร์ ได้นำกำลังพร้อมหมายค้นศาลแขวงธนบุรีที่ ค.32/66 ลงวันที่ 6 พ.ย. เข้าตรวจค้นบ้านของชายหนุ่มรายหนึ่ง มีชื่อว่า นายแบงค์ เพื่อหาพยานหลักฐานในการดำเนินคดีเอาผิด หลังตรวจพบว่าชายหนุ่มรายนี้ เป็นผู้ใช้แพลทฟอร์มเอ๊กซ์ หรือทวิตเตอร์เดิม ในชื่อ Baby..B @KritsadaPanban1 ทำการโพสต์ข้อความใต้ภาพนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ในลักษณะข่มขู่คุกคาม ดูหมิ่นให้ร้าย ด้วยกัน 2 ประโยค ที่ว่า
“ฆ่าไอเหี้ยโย่งนี้ได้ประเทศไทยมันจะดีขึ้นมากว่านี้” “ใครฆ่าเหี้ยนี้ได้ กุจะรวมเงินจ่ายให้เลย กุเป็น IO น้าจ้า”
เมื่อไปถึงก็พบนายแบงค์ อยู่ภายในบ้านหลังดังกล่าว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงหมายเพื่อขอตรวจสอบ โดยนายแบงค์ให้ความร่วมมือ ยินยอมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าทำการตรวจสอบ
ซึ่งนายแบงค์ ยอมรับว่า เป็นคนโพสต์ข้อความจริง โดยโพสต์ไป 2 ข้อความ เนื่องจากรู้สึกผิดหวังกับพรรคการเมืองที่ตนเองเชียร์มาตลอด ประกอบกับได้ดูข่าวสารการออกมาพูดของนายกรัฐมนตรีในทุกๆวัน ถึงนโยบายการทำงานของรัฐบาล ที่รู้สึกว่าไม่เหมือนกับสิ่งที่สัญญาไว้ในทุก ๆ เรื่อง บวกกับการกระทำต่าง ๆ ของพรรคการเมือง ส่งผลให้ตนเองรู้สึกแย่และเครียดไปกับมัน จึงตัดสินใจโพสต์ข้อความดังกล่าวไป โดยไม่ทันยั้งคิด ยอมรับผิด คำพูดผมเป็นนายตัวเอง และขอโทษในสิ่งที่กล่าวล่วงเกินไป ส่วนเรื่องของกฎหมาย หากมีการแจ้งความเอาผิดจากผู้เสียหาย ก็ยินดีไปสถานีตำรวจเพื่อทำการรับทราบข้อกล่าวหา กับสิ่งที่ได้ทำลงไป
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตํารวจได้แจ้งข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา ม.392 ‘ผู้ใดทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัวหรือตกใจ โดยการขู่เข็ญ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือนหรือปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ’ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ด่านนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้รับทราบเรื่องที่ตนเองถูกคนขู่ฆ่าแล้ว โดยขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย พร้อมให้ความเห็นถึงกรณีที่ผู้ต้องหาระบุว่าผิดหวังเรื่องการเมือง และการบริหารงานของตนเอง เรื่องนี้จะกระทบต่อภาพลักษณ์ และเสถียรภาพของรัฐบาลหรือไม่นั้น มองว่า
“ผมว่าเราเป็นรัฐบาล เราก็ต้องรับฟังความคิดเห็นของประชาชน มีคนไม่พอใจ ไม่สบายใจ หรือ มีคนแนะนำ เราก็ต้องฟัง แต่ขอให้ติชมอย่างสร้างสรรค์มากกว่าที่จะเป็นการคุกคาม ซึ่งเรื่องนี้ต้องว่าไปตามกฎหมาย”
ส่วนเรื่องที่จะต้องมีการรักษาความปลอดภัยเป็นพิเศษหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ยังไม่มีการสั่งการอะไร เพราะเชื่อว่าทีมรักษาความปลอดภัยทำงานได้ดีอยู่แล้ว แต่หากจะมีการเพิ่ม เขาก็จะเพิ่มกันเอง
