นครปฐม ภาค7 ต้องเอาปืนออกจากถนนและพื้นที่สาธารณะลดคดีที่ก่อเหตุด้วยอาวุธปืนให้ประชาชนอุ่นใจ”
วันนี้ 10 พ.ย.2566 เวลา 09.30 น. พล.ต.ท.นัยวัฒน์ ผะเดิมชิต ผบช.สยศ.ตร.รักษาราชการแทน ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค ๗ พร้อมด้วย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 มอบแนวทางการปฏิบัติงานให้ข้าราชการตำรวจระดับ ผู้บังคับการ ถึง ผู้กำกับการทุกจังหวัด และกองบังคับการสืบสวนสอบสวน เน้นย้ำต้องลดคดีที่กระทำผิดด้วยอาวุธปืนให้ได้เป็นกรณีเร่งด่วน
ข่าวน่าสนใจ:
- ส่งตัว 3 ผู้ต้องหาฝากขัง คดีหนุ่ม 20 ปี ถูกยิงดับบริเวณคูกันช้าง อ้างปืนลั่น จ.สระแก้ว
- กองบิน 5 แถลงข่าวการจัดงาน “สดุดีวีรชน 8 ธันวาคม 2484” รำลึกถึงความกล้าหาญ และความสามัคคีของวีรชนผู้กล้า ในสมัยสงครามมหาเอเชียบูรพา
- กระบะซิ่งหนีสายตรวจ แหกโค้งพุ่งลงคูน้ำดับ ยกคัน 7 ศพ พบเป็นแรงงานต่างด้าว หลายราย
- สงขลา M79 ถล่มเเคมป์คนงานสร้างเจ้าแม่กวนอิม บาดเจ็บ 3 ราย พื้นที่ อ.เทพา
โดยให้แนวทางวิธีการ จัดชุดพิเศษเสริมสายตรวจปกติ โดย ผกก.และ รอง ผกก. รวมถึง สวป. หรือ สว.สส. ต้องเป็นหัวหน้าชุดพิเศษออกตรวจเสริม ป้องกันเหตุในเวลากลางคืนและพื้นที่เสี่ยง หากพบบุคคลต้องสงสัยหรือรถต้องสงสัยต้องตรวจค้นตามยุทธวิธี แบบ “ปะ ฉะ ดะ” การจัดสายตรวจให้พิจารณาผู้มีประสบการณ์คู่กับตำรวจใหม่ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยในการปฏิบัติงานและมีประสิทธิภาพ ก่อนปล่อยแถวสายตรวจต้องตรวจความพร้อมอุปกรณ์และกำลังพลรวมถึงต้องซ้อมยุทธวิธี
สำหรับสถานบริการหรือสถานที่ได้รับอนุญาตให้ประสานงานร่วมกับฝ่ายปกครองออกตรวจเพื่อเพิ่มความปลอดภัย
ฝ่ายสืบสวนต้องเน้นการเอาปืนผิดกฎหมายที่ซุกซ่อนอยู่ โดยมีการสืบสวนปิดล้อมตรวจค้นอาวุธปืน และการเข้าปฏิบัติการกับกลุ่มต่างๆ ที่มีการข่าวว่ามีแนวโน้มอาจจะก่อเหตุให้เข้าปฏิบัติการตรวจค้น ให้เร่งรัดจับกุมบุคคลตามหมายจับ ในเรื่องยาเสพติดวาระแห่งชาติ ตามนโยบายรัฐบาลต้องให้ความสำคัญ เร่งดำเนินการกับผู้เสพ ผู้ค้า รายย่อย ซึ่งการดำเนินการส่วนนี้ จะส่งผลช่วยให้คดีเกี่ยวกับทรัพย์ลดลงได้ งานปราบปรามคดีค้ามนุษย์ให้เตรียมความพร้อมของศูนย์คัดแยกโดยเฉพาะเน้นหนักที่จังหวัดกาญจนบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ให้ตรวจสอบและเตรียมความพร้อม และให้มีการประสานงานกับจังหวัดอย่างใกล้ชิด ขอให้ข้าราชการตำรวจทุกนายยึดถือแนวคิดท่าน
พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. ในวันแถลงนโยบายเมื่อวันที่ ๓ ตุลาคม ๒๕๖๖ ว่า เมื่อประชาชนเดืออร้อน ให้ระลึกไว้เสมอว่า “เขาเดือดร้อนมาหาเรา ต้องดูแลเขาให้ดี นั้นคือ ความพึงพอใจ เขาโทรมา เขาเดือดร้อน เราไปหาเขาให้ไว , เขาไม่มา เขาไม่โทร ให้เราไปหาเขา คือ Stop Waik and Talk”นั้นคือ การทำงานมวลชนสัมพันธ์” ขอให้ข้าราชการตำรวจทุกนายใส่ใจและทำตามเพื่อให้ประชาชนในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค ๗ ปลอดภัย เป็นการคืนความอุ่นใจให้กับประชาชน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: