กรุงเทพฯ : ‘เสี่ยบิ๊ก’ เจ้าของรถบรรทุก สติ๊กเกอร์ดาวเขียว แจง ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับส่วย เป็นชื่อย่อ ติดเสริมดวงตามความเชื่อ ทนายหัวหมอ ร้องให้ตรวจสอบมาตรฐานฝาปิดท่อร้อยสายไฟ รับน้ำหนักได้หรือไม่
วันที่ 10 พฤศจิกายน 2566 นายพชรพล จันทรินทรากร หรือ เสี่ยบิ๊ก อายุ 32 ปี เจ้าของรถบรรทุก สติ๊กเกอร์ดาวเขียว ได้เดินทางเข้ามาให้ปากคำ กับเจ้าหน้าที่ตำรสวจ ที่ สน.พระโขนง จากกรณีรถบรรทุกน้ำหนักเกิน ทำให้ถนนสุขุมวิท 64/1 เกิดยุบตัว โดยเสี่ยบิ๊ก ได้ใช้เวลาในการให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่นานกว่า 6 ชม. ก่อนถูกนำตัวไปพิมพ์ลายนิ้วมือตรวจสอบประวัติ พร้อมแจ้งข้อหา เป็นผู้ใช้ให้ผู้อื่นกระทำความผิด และออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน พร้อมกับ นายเสกสรรค์ ศรีหิรัญยางกูร ทนายความ
โดย เสี่ยบิ๊ก ได้ตอบกับสื่อมวลชนถึงกรณีสติ๊กเกอร์รูปดาวเขียวที่ติดอยู่กระจกหน้ารถ ว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการจ่ายส่วยให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือไม่ ว่า ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับส่วยแต่อย่างใด อักษรตัวบี เป็นชื่อเล่นของตนเอง ประกอบกับเป็นคนเกิดวันพุธ ซึ่งเป็นสีเขียว ส่วนรูปดาวนั้น เพราะอยากเป็นดาวรุ่งในวงการ จึงใช้สัญลักษณ์รูปดาวดังกล่าว และที่มาของชื่อ เสี่ยบิ๊กนั้น เพราะเป็นคนทำธุรกิจไม่ขึ้น จึงไปดูดวงมา หมอดูบอกว่าให้เปลี่ยนชื่อเป็น เสี่ยบิ๊ก ธุรกิจจะมีความเจริญรุ่งเรือง มีชื่อเสียงโด่งดัง สุดท้ายกลายเป็นข่าวดังจริง ส่วนกรณีที่มีการพาดพิงถึง เสี่ยอั่งเปา ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใด ๆ เป็นชื่อลูกชายของตนเองเท่านั้น
ข่าวน่าสนใจ:
- ปิดตำนานนักเขียน "ตรี อภิรุม" ศิลปินแห่งชาติฯ เจ้าของผลงาน "นาคี"
- กทม. ร่วม"ฟูกูโอกะ" เปิดงาน "Fukuoka Fair" ฉลอง 18 ปีเมืองพี่เมืองน้อง
- ศูนย์วัฒนธรรมเกาหลีฯ จัดกิจกรรม"วันกิมจิ"เผยแพร่การทำกิมจิ ผู้สนใจเข้าร่วมงานกว่า 700 คน
- ตรัง คู่ซี้ พระ-ฆราวาส เมาแอ๋ด่าทอชาวบ้านใกล้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อาละวาดอ้างมีปืน ทำชาวบ้านแตกตื่น ตร.หิ้วปีกบังคับสึก กร่างไม่เลิกบอกรู้จักพระผู้ใหญ่
เสี่ยบิ๊กกล่าวอีกว่า ตนเองมีหลักฐานทุกอย่างเนื่องจากทำธุรกิจมาตั้งแต่ปี 2561 ติดสัญลักษณ์ดังกล่าวมานานแล้ว และยืนยันว่าไม่ใช่ป้ายเคลียร์ หรือป้ายส่วยแต่อย่างใด ติดไว้เพื่อเวลาไปเอาดินในสถานที่ต่าง ๆ จะได้รู้ว่าเป็นรถของใคร สิ่งที่พูดไปทั้งหมด ตนเองมีหลักฐาน โดยได้ส่งมอบให้กับตำรวจไว้หมดแล้ว
ขณะที่ประเด็นการบรรทุกน้ำหนักเกินกว่ากฏหมายกำหนดนั้น เสี่ยบิ๊ก กล่าวว่า ตนเองไม่ทราบได้ ที่ผ่านมาใช้การกะปริมาณเอา ไม่มีการชั่งน้ำหนักแต่อย่างใด ส่วนการที่มีการถ่ายน้ำมันออกจากรถนั้น เนื่องจากขณะเกิดเหตุถังน้ำมันแตกและเกิดการรั่ว เกรงว่าจะเกิดเหตุอุบัติเหตุซ้ำซ้อนขึ้น กับรถจักรยานยนต์ที่ขับผ่านไปมา
ด้าน นายเสกสรรค์ ศรีหิรัญยางกูร อายุ 42 ปี ทนายความเสี่ยบิ๊ก กล่าวว่า คดีนี้ที่เป็นข่าวขึ้นเพราะเกิดจากที่มีการเปิดปิดฝาบ่อนำสายไฟทุกวัน ซึ่งเรื่องนี้ได้ขอให้พนักงานสอบสวนตรวจสอบ ว่าคานเหล็กที่ปิดฝาท่อ ได้มาตรฐานสามารถรับน้ำหนักได้หรือไม่ ส่วนเรื่องน้ำหนักที่เกิน ก็ว่าไปตามกฎหมาย
เบื้องต้นทาง เจ้าหน้าที่ได้มีปล่อยตัวให้ผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ประกัน ทั้งคนขับรถบรรทุก และเสี่ยบิ๊ก เจ้าของ เนื่องจากทั้งคู่ได้เข้ามารายงานตัวตามหมายเรียก และในวันพรุ่งนี้พนักงานสอบสวน จะไปยื่นผัดฟ้องฝากขังผู้ต้องหาทั้ง 2 ต่อศาลแขวงพระโขนง ต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: