นครพนม – เมื่อเวลา 18.35 น. วันที่ 13 ธ.ค. ร.ต.อ.สุพจน์ แก้วมณี รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ท่าอุเทน จ.นครพนม รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์ชนรถ จยย.มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต บนถนนทางหลวง 212 สายนครพนม-ท่าอุเทน ช่วงปากทางเข้าบ้านม่วง ต.เวินพระบาท อ.ท่าอุเทน จึงรุดไปพร้อมแพทย์เวร รพ.ท่าอุเทน เจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างนาวาธาตุพนม กู้ชีพบัวเพชร และกู้ชีพลำโขงเฟรนด์ชิฟ
ที่เกิดเหตุฝั่งมุ่งหน้าไปตัวเมืองนครพนม ซึ่งเป็นถนน 2 เลน อยู่ระหว่างก่อสร้างถนนใหม่ ริมไหล่ทางพบรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีแดงดำ ทะเบียน 1 กค 9092 นครพนม ล้มคว่ำ สภาพหน้ารถพังยับ ตะกร้าหลุด ข้าวของหน้ารถกระเด็นเกลื่อนกระจาย พบศพนางรัตนา มุดผา อายุ 40 ปี อยู่บ้านเลขที่ 26 บ้านน้อยชลประทาน หมู่ 9 ต.เวินพระบาท อ.ท่าอุเทน คนขับรถ จยย.คันดังกล่าว สภาพนอนคว่ำตะแคงสวมเสื้อยืดสีดำสลับแดง กางเกงขายาวสีดำ ขาขวาหัก สมองไหล เลือดนองพื้น เสียชีวิตคาที่
ส่วนผู้บาดเจ็บทราบชื่อ ด.ญ.ดาวอัปษร มุดผา วัย 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 โรงเรียนชุมชนเทศบาล 3 ในตัวเมือง ซึ่งเป็นหลานสาวผู้ตาย นั่งซ้อนท้ายร่างกระเด็นตกรถ มีบาดแผลฉกรรจ์ที่ใบหน้า ขาขวาและท่อนแขน ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เจ้าหน้าที่จึงรีบนำตัวส่งรักษาที่ รพ.ท่าอุเทน
ถัดจากที่เกิดเหตุราว 50 เมตร พบรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นยาริส สีแดง ทะเบียน กง 4190 มุกดาหาร สภาพหน้ารถพังเสียหาย ทะเบียนกระเด็นตกพื้น ทราบชื่อคนขับคือนายพัฒนชัย ชัยอุโคตร อายุ 28 ปี อาชีพช่างรังวัดเอกชน ชาว ต.กมลาไสย อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ยืนรอให้การในที่เกิดเหตุด้วยความตื่นตระหนก
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่า รถ จยย.ที่มีนางรัตนาเป็นคนขับกลับจากซื้อกับข้าวใน ต.เวินพระบาท ขากลับขณะขับรถ จยย.มาตามเลนซ้าย เปิดไฟเลี้ยวจะเลี้ยวขวาเข้าหมู่บ้าน พบรถเก๋งที่มีนายพัฒนชัย ซึ่งกลับจากรังวัดถนนที่กำลังสร้างใหม่ ขับรถตามหลังผู้ตายเพื่อมุ่งหน้าจะกลับบ้านภรรยาที่ จ.มุกดาหาร คาดว่าอาจมาด้วยความเร็วและมองไม่เห็น ก่อนเฉี่ยวชนรถ จยย.จนล้มคว่ำ กระทั่งมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว ซึ่งเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวนสาเหตุอย่างแน่ชัดอีกครั้ง
หลังเกิดเหตุ นางพิมพ์พา และนายสนั่น มุดผา บิดาและมารดานางรัตนา ผู้ตาย ได้เดินทางมาดูศพบุตรสาว เมื่อเห็นศพได้ร้องไห้ปิ่มใจจะขาด
สำหรับถนนทางหลวงหมายเลข 212 สายนครพนม-ท่าอุเทน พบว่าอยู่ระหว่างการก่อสร้างขยายถนนจาก 2 เลน เป็นถนน 4 เลน ซึ่งพบว่ามีการตัดโค่นต้นไม้ อีกทั้งผิวจราจรคับแคบ และมีผิวจราจรต่างระดับ เนื่องจากมีรถไถปรับเกรดหน้าดิน ที่ผ่านมา บริเวณจุดเกิดเหตุซึ่งเป็นช่วง 3 แยกเลี้ยวเข้าหมู่บ้านแห่งนี้ มักเกิดอุบัติเหตุขึ้นบ่อยครั้ง กระทั่งมีการขยายผิวจราจรให้เป็น 4 เลนดังกล่าว
