X
น้ำตาแม่

หนี้สินเร่งรัด ค่าเทอมลูกกดดันทำแม่ลูกสามคิดสั้นจ่อดิ่งสะพานบางปะกง

ฉะเชิงเทรา – หนี้สินเร่งรัด ค่าเทอมลูกกดดันทำแม่ลูกสามคิดสั้นจ่อดิ่งสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง แต่โชคดี จนท.ตำรวจ และหน่วยกู้ภัยฯ เข้าเกลี้ยกล่อมช่วยเหลือพากลับไปส่งบ้านได้สำเร็จ สะท้อนการประกาศปรับขึ้นค่าแรงล่วงหน้าไม่ตอบโจทย์สังคมในทุกยุคที่ผ่านมา เหตุยิ่งปรับขึ้นยิ่งทำให้คนไม่มีนายจ้างต้องหาเลี้ยงปากท้องตนเองให้อยู่รอดได้ยากลำบาก หลังราคาสินค้าแห่ปรับขึ้นไปก่อนล่วงหน้าอย่างเร็วไวยิ่งกว่าเงา

 

วันที่ 15 พ.ย.66 เวลา 17.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองฉะเชิงเทรา นำโดย ร.ต.ท.เชิดชาย สาลีผล รอง สวป. สภ.เมืองฉะเชิงเทรา พร้อมกำลังสายตรวจและจราจร และอาสาสมัครหน่วยกู้ภัยฯ ได้เข้าเกลี้ยกล่อมหญิงวัย 30 ปี ให้ลงมาจากสะพานเฉลิมพระเกียรติ 6 รอบพระชนมพรรษาฯ หรือสะพานข้ามแม่น้ำบางปะกง จากถนนมหาจักพรรดิ์ไปยังถนนศุขประยูร หลังจากหญิงรายดังกล่าว ได้พยายามที่จะก่อเหตุกระโดดลงมาจากสะพานสู่แม่น้ำบางปะกง เพื่อที่จะฆ่าตัวตายหนีปัญหาหนี้สินที่กำลังรุมเร้า

จ่อโดดสะพานข้ามแม่น้ำ

ซึ่งในช่วงก่อนหน้าหญิงสาวรายนี้ ได้เดินออกมาจากบ้านพักภายในซอยร่มโพธิ์ (เทพคุณากร ซ.8/1) มายังบนสะพานเฉลิมพระเกียรติฯ โดยระหว่างกำลังเดินทางมาได้โทรศัพท์ไปบอกลาสั่งเสียต่อบุตรสาววัยเพียง 13 ปี นักเรียนชั้น ม.1 ของโรงเรียนแห่งหนึ่งย่านหน้าวัดโสธรวรารามวรวิหาร ให้ดูแลน้องๆ วัย 7 ขวบและ 8 ขวบอีก 2 คนแทนด้วย หลังจากได้พยายามคิดสั้นที่จะฆ่าตัวตาย จึงทำให้บุตรสาวได้โทรศัพท์ไปขอความช่วยเหลือจากทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผ่านทางหมายเลข 191 จนมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและอาสากู้ภัยฯ เข้ามาให้การช่วยเหลือดังกล่าว

โดย ร.ต.ท.เชิดชาย ได้ใช้เวลาเกลี้ยกล่อมหญิงรายดังกล่าวเป็นเวลาประมาณ 15 นาที จึงยอมใจอ่อนและยอมเดินทางกลับบ้านเพื่อไปหาลูกๆ ทั้ง 3 คนอีกครั้ง โดยทาง จนท.ตำรวจได้นำพาขึ้นรถยนต์สายตรวจไปส่งจนถึงยังที่บ้านพัก ซึ่งหญิงรายดังกล่าวทราบชื่อต่อมา คือ น.ส.มณีรัตน์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี เล่ามูลเหตุของการคิดสั้น และพยายามที่จะฆ่าตัวตายในครั้งนี้ ต่อทาง จนท.ตำรวจว่า ตนเองได้ไปกู้เงินมาจากเจ้าหน้าหนี้นอกระบบ ผ่านทางการลงโฆษณาทางเฟซบุ๊กมาจำนวน 1 หมื่นบาท

หญิงคิดสั้น

แต่มาระยะหลังเมื่อช่วงหลายวันที่ผ่านมานั้น หาเงินส่งดอกเบี้ยแบบรายวัน วันละ 200 บาทไม่ไหวจึงไม่ได้ส่ง เพราะหาเงินไม่ทันและไม่มีเงินที่จะนำมาลงทุนในการค้าขายอีกต่อไป โดยตนเองมีอาชีพขายปลาหมึกย่างตามตลาดนัดทั่วไป มาในวันนี้ทางเจ้าหนี้นอกระบบได้โทรศัพท์มาข่มขู่ให้จ่ายดอกเบี้ยเป็นเงินจำนวน 400 บาทเป็นอย่างต่ำ โดยบอกว่าจะนำพาตำรวจมาจับกุมหากไม่ยอมจ่ายหนี้และดอกเบี้ย

จึงทำให้ตนเองคิดมากเพราะเกรงว่าพวกเขาจะเข้ามาทำร้ายคนในครอบครัว และยังอาจจะทำให้เจ้าของบ้านที่ครอบครัวของตนทั้งลูกๆ และสามีมาพักอาศัยอยู่ด้วยจะเดือดร้อน จึงได้คิดสั้นที่จะยอมจบชีวิตของตนเองลงเพื่อหนีปัญหาหนี้สินดังกล่าว

กล่อมหญิงคิดสั้น

เนื่องจากตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานั้น เมื่อทำงานหาเงินมาได้ก็จะนำส่งได้แต่เพียงดอกเบี้ยแบบรายวันเท่านั้น โดยที่เงินต้นยังไม่ลดเลยสักบาท ทั้งยังทำให้เงินต้นขยับเพิ่มขึ้นไปอีกมากถึง 3 หมื่นบาทแล้วในขณะนี้ จึงไม่มีทางที่เงินต้นจะหมดไปได้ อีกทั้งยังมีหนี้สินอื่นๆ ซึ่งเป็นค่าเทอมของลูกๆ ที่ทางโรงเรียนได้ส่งใบเรียกเก็บเงินให้ไปชำระเงินกับทางธนาคารอีกจำนวนหลายรายการ จึงยิ่งทำให้เกิดความทุกข์ใจมากยิ่งขึ้น เพราะยังไม่มีหนทางที่จะหาเงินไปจ่ายค่าเทอมให้แก่ลูกๆ ได้ และเป็นเงินอีกจำนวนหลายพันบาท น.ส.มณีรัตน์ กล่าว

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน

Picture of สนทะนาพร อินจันทร์

สนทะนาพร อินจันทร์

ลุยงานช่วยเหลือคนเดือดร้อนมาทั้งชีวิต อย่างไม่คิดเรียกสิ่งตอบแทน