สระแก้ว – ศาลฎีกาพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ภาค 2 ให้ประหารชีวิต จำเลยที่ 1 นายวิชัย พุ่มเรือง, และ สองพี่น้อง รอ.สุเทพ และ รอ.ทองทศ มากสาคร จำเลยที่ 4 แล 5 โดยสั่งให้จำคุกตลอดชีวิต จำเลยที่ 3 นายวิชิต อินทร์แก้ว ส่วนเจ๊เยาว์ หรือ นางมณีรัตน์ โกทัณย์ จำเลย ที่ 6 รอดเพียงคนเดียว ศาลฎีกายกฟ้อง
เมื่อเวลา 09.20 น. วันที่ 20 พ.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บัลลังก์ 5 ศาลจังหวัดสระแก้ว อ.เมืองสระแกว จ.สระแก้ว ผู้พิพากษาประจำศาลจังหวัดสระแก้วได้อ่านคำพิพากษาศาลฏีกา คดีดำ ที่ อ.1334/2561 เลขแดงที่ อ.540/2562 ให้ประหารชีวิต จำเลยที่ 1 นายวิชัย พุ่มเรือง ,จำเลยที่ 4. ร.อ.สุเทพ มากสาวคร ,จำเลยที่ 5 ร.อ.ทองทศ มากสาคร โดยสั่งให้จำคุกตลอดชีวิต นายวิชิต อินทร์แก้ว จำเลยที่ 3 และ ให้ยกฟ้องจำเลยที่ 6 นางมณีรัตน์ โกทัณย์ ส่วนนายนพรุจ รุประมาณ จำเลยที่ 2 เสียชีวิต ในระหว่างการพิจารณาคดี
ทั้งนี้ คดีนี้พนักงานอัยการจังหวัดสระแก้ว เป็นโจทก์ และนางสาววิภาวดี จันทรา โจทก์ร่วม ได้ยื่นฟ้องจำเลยทั้งหมด 6 คน ประกอบด้วย จำเลยที่ 1 นายวิชัย พุ่มเรือง, จำเลยที่ 2 นายนพรุจ รุประมาณ ,จำเลยที่ 3 นายวิชิต อินทร์แก้ว ,จำเลยที่ 4 ร.อ.สุเทพ มากสาวคร อดีตนายกเทศมนตรีตำบลคลองหาด ,จำเลยที่ 5 ร.อ.ทองทศ มากสาคร อดีตรองประธานสภา อบจ.สระแก้ว และจำเลยที่ 6 นางมณีรัตน์ โกทัณย์ อดีตผู้นำคนเสื้อแดงอำเภอวัฒนานคร ในความผิดร่วมกันฆ่านางสายันต์ จันทรา อายุ 64 ปี และนายพิพัศน์ หรือ เสี่ยกวง ตั้งพงศ์ทอง อายุ 71 ปี สองสามีภรรยา นักธุรกิจในตลาดโรงเกลือ อำเภออรัญประเทศ เหตุเกิดเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 29 มกราคม 2561 ที่บ้านพักหรูในพื้นที่ อ.คลองหาด จ.สระแก้ว
ต่อมา เมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2562 ศาลจังหวัดสระแก้ว มีคำพิพากษาให้ยกฟ้องจำเลยที่ 1,2,4 และ 5 เนื่องจากหลักฐานไม่เพียงพอเอาผิดกับจำเลย และให้ประหารชีวิตจำเลยที่ 3 แต่ลดโทษให้เหลือจำคุกตลอดชีวิต เนืองจากให้การเป็นประโยขน์ต่อรูปคดี ส่วนจำเลยที่ 6 ให้จำคุก 4 เดือน ในความผิด พ.ร.บ. อาวุธปืน โดยไม่รอลงอาญา แต่โจทก์ ได้ยื่นอุทธรณ์ให้ลงโทษจำเลยทุกคนสถานหนัก
ข่าวน่าสนใจ:
- "ไทย-ญี่ปุ่น" 70 ปี ของความร่วมมือเพื่อการพัฒนา (ODA) ในประเทศไทย
- ภูมิธรรม เปิดงานพัฒนาบนฐานพุทธธรรม มูลนิธิศึกษาพัฒนาชนบท วัดป่าดาราภิรมย์.
- เซ็นทรัลศาลายาร่วมจังหวัดนครปฐมเปิดตัว “Christmas Tree Light Up Celebration 2025”
- หอการค้าไทยมอบ “ผู้ว่าสำเภาทอง” กระตุ้นเศรษฐกิจการค้าท่องเที่ยว พร้อมพัฒนาตลาดอินโดจีนที่ถูกแช่แข็งนาน เกือบ 6 ปี
หลังจากนั้น เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม 2562 ศาลอุทธรณ์ ภาค 2 มีคำพิพากษา กลับศาลจังหวัดสระแก้ว ให้ประหารชีวิต จำเลยที่ 1,4, และ 5 และให้จำคุกตลอดชีวิต จำเลยที่ 3 และ จำเลยที่ 6 ส่วนจำเลยที่ 2 ให้ยกฟ้อง พร้อมกับให้จำเลย ร่วมกัน ชดใช้ค่าเสียหายกับโจทก์เป็นจำนวนเงิน 2 ล้านบาท หลังทราบคำตัดสินศาลอุทธรณ์ จำเลยที่ 4, 5 และ 6 ได้ยื่นฎีกา ขอให้ศาลลงโทษ สถานเบาแก่จำเลย
และเมื่อวันที 15 มิถุนายน 2566 ศาลฎีกาได้นัดอ่านคำพิพากษา แต่จำเลย ที่ 4, 5 และ 6 ไม่มาศาลตามนัด และมีพฤติการณ์หลบหนี ศาลจังหวัดสระแก้ว จึงออกหมายจับ และริบเงินประกัน และมีคำสั่งให้เลื่อนการอ่านคำพิพากษาออกไปในวันที่ 9 สิงหาคม 2566 แต่เนื่องจากจำเลยที่ 2 เสียชีวิตในระหว่างการพิจารณา ศาลฎีกาจึงมีคำสั่งให้ไต่สวนการตายของจำเลยที่ 2 และให้เลื่อนการอ่านคำพิพากษาออกไปอย่างไม่มีกำหนด
กระทั่ง ในที่สุดศาลได้นัดฟังคำพิพากษาศาลฎิกาในวันนี้ (20 พ.ย.66) ซึ่งมีเพียง จำเลยที่ 1 มาศาลตามนัด ศาลจึงอ่านคำพิพากษา ลับหลัง จำเลย ที่ 4 ,5 และ 6 หลังการอ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้นลง เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำศาล ได้ควบคุมตัวนำเลยที่ 1 ส่งเรือนจำทันที
—————————-
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: